“บิ๊กหวาน” นำกำลังตำรวจร่วมกับ กสทช.ลงชายแดนอรัญฯ ส่องตึก 25 ชั้นฝั่งประเทศเพื่อนบ้านที่มองเห็นจากฝั่งไทย คาดเป็นฐานที่มั่นใหญ่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ก่อนระงับสัญญาณ 3 เสาฝั่งไทยที่ตั้งอยู่ใกล้ตึกดังกล่าวและน่าเชื่อว่าส่งสัญญาณไปให้ ลั่นจ่อดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องและพวกขายชาติที่ข้ามแดนไปทำงานให้มิจฉาชีพต่างชาติมาหลอกลวงคนไทยด้วยกัน รวมทั้งใช้มาตรการ “ระเบิดสะพานโจร” ตัดเส้นทางเสบียงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทุกวิถีทาง

ตำรวจใช้มาตรการระเบิดสะพานโจร ประสาน กสทช.ระงับสัญญาณจากเสา 3 ต้นริมชายแดนอรัญประเทศส่งให้ตึก 25 ชั้นฐานที่มั่นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปอยเปต เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 28 ธ.ค. ที่ห้องประชุม ศปก. ตม. จ.สระแก้ว พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางด้านเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประชุมสรุปสถานการณ์อาชญากรรมออนไลน์ในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากนั้นลงพื้นที่บริเวณชายแดนเพื่อตรวจดูตึก 25 ชั้น ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านที่มองเห็นจากฝั่งไทย และลงพื้นที่ข้างเคียงเพื่อตรวจสอบเสาและสายส่งสัญญาณ พร้อมแถลงข่าวที่ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช.เผยว่า จากการที่มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตั้งอยู่ที่เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ติดชายแดนประเทศไทยในเขต อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เป็นองค์กรอาชญากรรมที่มีคนต่างชาติอยู่เบื้องหลังหลอกลวงฉ้อโกงเอาทรัพย์สินของคนไทยไปออกนอกประเทศจำนวนมาก สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยอย่างร้ายแรง เป็นภัยคุกคามของคนต่างชาติต่อความมั่นคงของประเทศในรูปแบบใหม่ จากการตรวจสอบการแจ้งความของประชาชนผ่านศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ www.thaipoliceonline.go.th พบว่าสัญญาณที่ใช้ส่งข้อความและโทร.เข้ามาหลอกลวงประชาชนจำนวนมากมาจากเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา

...

จตช.กล่าวต่อว่า วันนี้ได้ร่วมกับ กสทช. โดย พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช. (ด้านกฎหมาย)/ ประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการ กสทช. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2, พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ รักษาสุข ผบก.ภ.จ.จันทบุรี, พล.ต.ต.ออมสิณ บุญญานุสนธิ์ ผบก.ภ.จ.สระแก้ว, พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม. จ.สระแก้ว ร่วมกันนำมาตรการ “ระเบิดสะพานโจร” มาใช้ มุ่งตัดเส้นทางเสบียงของคนร้ายเพื่อไม่ให้สามารถนำมาใช้ ในการกระทำความผิดได้

พล.ต.อ.ธัชชัยกล่าวต่อว่า มาตรการดังกล่าวประกอบด้วย 1.ค้นหาสัญญาณโทรศัพท์ และตัดสัญญาณสื่อสารทางโทรศัพท์และดาต้าเน็ตที่ลักลอบส่งให้กับกลุ่มคนร้ายใช้อย่างผิดกฎหมาย ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด 2.คนข้ามแดนควบคุมตรวจสอบอย่างเข้มงวดและใกล้ชิด สำหรับชาวต่างชาติและคนไทยที่ไปร่วมขบวนการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งไปเปิดบัญชีมาและสแกนหน้าให้กับคนร้ายรวมทั้งไปทำหน้าที่หลอกลวงคนไทยและเบิกถอนเงิน ที่เดินทางข้ามแดนผ่านช่องทางของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและช่องทางธรรมชาติ โดยให้ดำเนินคดีกับผู้นำพาอย่างจริงจัง 3.ให้ตรวจสอบอย่างเข้มงวดในการลักลอบขนส่งเงิน อุปกรณ์มือถือ Simbox ผ่านชายแดนช่องทางธรรมชาติ และจุดตรวจตำรวจตรวจคนเข้าเมือง

พล.ต.อ.ธัชชัยกล่าวอีกว่า จากการได้ลงพื้นที่ร่วมกับ กสทช.ในวันนี้ ตรวจสอบพบเสาสัญญาณ 3 จุดที่ใกล้แนวชายแดนมากที่สุด น่าเชื่อว่ามีการส่งสัญญาณไปยังบริเวณตึก 25 ชั้น ขณะนี้ กสทช.สั่งให้ระงับสัญญาณดังกล่าวและจะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการควบคุม กำกับดูแล และติดตามประเมินผลการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด ว่าการกระทำผิดกฎหมายหลอกลวงประชาชนคนไทย โดยกลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาตินั้นลดลงไปหรือไม่ ขอประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มชาวไทยที่จะข้ามแดนไปทำงานให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถือเป็นการขายชาติ ไปช่วยเหลือกลุ่มองค์กรอาชญากรรมคนต่างชาติหลอกลวงคนไทย จะถูกดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่