ปลายปี 2566 มีคดีกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทร.หาผู้เสียหายอ้างเป็นตำรวจหลอกลวงว่าบัญชีธนาคารผู้เสียหาย มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีคนร้าย อ้างเพื่อตรวจสอบ
ผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) ของ บช.ก. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่ง พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. เร่งรัดลงพื้นที่สืบสวนขยายผลเครือข่าย
ลดความเสียหาย
พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. เปิดปฏิบัติการ “ทลายเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ รวบพนักงานและบัญชีม้า หยุดวงจรคอลเซ็นเตอร์” จับผู้ต้องหา 12 ราย หลังเข้าค้นพื้นที่เป้าหมาย 9 จุด พื้นที่ กทม. ชลบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว และ จ.นครราชสีมา
แก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้กระทำในลักษณะองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติตั้งฐานปฏิบัติการในประเทศเพื่อนบ้าน รวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง 14 ราย จับได้ 12 ราย
ผู้ต้องหาส่วนใหญ่เป็นพนักงานและบัญชีม้า ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือและบัญชีธนาคารที่ใช้หลอกลวงเหยื่อ ตรวจสอบบัญชีคนร้ายเกี่ยวพันกับคดีคอลเซ็นเตอร์อื่นๆ อยู่ในระบบรับแจ้งความออนไลน์กว่า 300 คดี
ความเสียหาย 110 ล้านบาท
ผู้ต้องหาให้การว่า ทำงานให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านมีคนไทยและชาวต่างชาติ 50 คน แบ่งหน้าที่กันทำเป็นทีมงาน มีการยิงแอดโฆษณาตามสื่อสังคม จัดหาบัญชีม้า มีชาวจีนเป็นหัวหน้าควบคุมสั่งการ
กลลวงที่ใช้หลอกต่างกันไป ข่มขู่ทางโทรศัพท์ให้เกิดความกลัวแล้วหลอกให้โอนเงิน, หลอกให้โอนเงินหารายได้พิเศษ หลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ หลอกให้โอนเงินรับรางวัล หลอกทางแอปพลิเคชันหาคู่
ที่สำคัญพบขายบัญชีคนไทยไปกว่า 100 บัญชี.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th
...
คลิกอ่านคอลัมน์ “เลขที่1 วิภาวดีฯ” เพิ่มเติม