เปิดใจ "อ.เอ็ม มูปาระมี" พ่อมดไทยร่ายคาถาปลุกเสก "ไอ้งั่ง" พร้อมแจงดราม่าทำพิธีสยิวชายหญิงร่วมรักต่อหน้า มีชาวต่างชาติติดต่อให้ทำ ลั่นขอยุติทำพิธี หลังเป็นข่าวเสียหาย

จากกรณีโลกออนไลน์แชร์เรื่องราวจากเพจอีซ้อขยี้ข่าว กรณีแฉพิธีกรรมสยิวปลุกเสกของขลังเสน่ห์แม่รัญจวน โดยผู้ที่ทำพิธีกรรมจะให้ชาย-หญิงถอดเสื้อผ้าเพื่อลงนะปิดทองที่ของลับและให้ทั้งคู่ทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันบนเตียง ซึ่งในระหว่างนั้นทางอาจารย์ก็จะท่องคาถาปลุกเสกของขลังไปด้วย โดยมีการแชร์และแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก

ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสำนักมูปาระมี อ.เอ็มพ่อมดไทย ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี พบกับ อ.เอ็ม พ่อมดไทย อายุ 37 ปี พาผู้สื่อข่าวเข้าไปภายในสำนักฯ พร้อมกับชี้แจงในกรณีดังกล่าว หลังตกเป็นข่าวดังในโลกโซเชียล พร้อมกับส่งคลิปขณะทำพิธีปลุกเสก "ไอ้งั่ง" เทวดาเพชรพญาธร ในห้องพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ทางภาคกลาง

โดยให้ชายหญิงร่วมกิจกรรมหรือร่วมรักกันบนเตียง หลังจากเอาไอ้งั่งที่ทำจากทองแดงบางส่วนวางไว้บนตัวผู้หญิงที่เชื่อว่าเป็น "นางฟ้าแม่รัญจวน" ทั้งนางฟ้าและเทวดาดังกล่าวนั้น เป็นสมมุติเทวาและนางฟ้า และเอาไอ้งั่งที่หล่อขึ้นรูปจากทองแดงบางส่วนวางไว้ข้างบนเตียง ใต้เตียง และปิดทองตามเนื้อตัวของผู้หญิง รวมทั้งอวัยวะเพศทั้งผู้ชายและผู้หญิง จากนั้นให้ผู้ชายสอดใส่ทำกิจกรรม ส่วน อ.เอ็ม ก็ร่ายคาถาเวทมนตร์ไปพร้อมกันจนเสร็จพิธี

...

อ.เอ็ม เปิดเผยว่า ตนมีความสนใจในเรื่องนี้มาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ หลังจากได้ยินจากคนเถ้าคนแก่เล่าให้ฟัง พออายุได้ 16 ปี ได้บวชเป็นสามเณร และได้เข้าไปฝึกสมาธิอยู่ในป่าช้ากับพระหลวงตา จึงได้รู้จักกับอาจารย์ที่เป็นคนเขมร ที่ไม่ใช่พระสงฆ์ แต่รู้จักกับพระหลวงตา และได้ถ่ายทอดวิชานี้ให้กับตน จึงศึกษาเรียนวิชาจากอาจารย์ท่านนี้ 2-3 ปี ก่อนจะลาสิกขาไปเล่าเรียนวิชาเพิ่มเติมกับอาจารย์ท่านอื่นๆ ก่อนจะบวชทดแทนคุณพ่อแม่ แล้วมาเปิดสำนักมูปาระมี ดูดวง ทำเสน่ห์ เสริมดวงชะตา เสริมบารมี เมตตามหานิยมในการค้าขาย การพนัน และปลุกเสกไอ้งั่ง ตามความเชื่อที่อยู่คู่กับคนไทยมานมนาน

มีลูกศิษย์ทั้งไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะคนจีน และคนดังในวงการต่างๆ บางคนก็สำเร็จตามที่หวัง บางคนก็ไม่สมหวัง ก็ขึ้นอยู่กับดวงชะตาของแต่ละคน และบางคนก็ทำผิดข้อห้ามคือนำไอ้งั่งไปใช้ผิดศีลธรรม คือการไปผิดลูกผิดเมียคนอื่น และห้ามไปกินข้าวปลาอาหารในงานศพ หรือห่อกลับมากินที่บ้าน เนื่องจากไอ้งั่งที่อาจารย์ปลุกเสกนั้น ต่างจากไอ้งั่งหรืออีงั่งในสำนักอื่นๆ แต่ทางอาจารย์จะเน้นไปทางเมตตามหานิยม เพราะไอ้งั่งที่ตนปลุกเสกจะเป็นเทวดา ที่ยังมากด้วยกิเลส และตัณหา จึงทำให้คนที่นับถือจะประสบความสำเร็จตามที่หวัง หากทำตัวไม่ผิดต่อศีลธรรมที่ห้ามเอาไว้

อ.เอ็ม เปิดเผยอีกว่า ทุกครั้งที่ตนปลุกเสกไอ้งั่งนั้น มีพิธีแตกต่างกัน เช่น เอาไอ้งั่งไปไว้ใต้หมอน ใต้เตียง ขณะสามีภรรยาหรือคู่รักร่วมหลับนอนกัน จากนั้นก็เอามาให้ตนทำพิธีปลุกเสกอีกครั้ง บางรายก็ให้อาจารย์ปลุกเสกที่บ้าน โดยให้คู่รักร่วมรักกันในห้อง เอาไอ้งั่งไว้ใต้หมอนและใต้เตียง โยงสายสิญจน์ออกมาข้างนอกห้อง แล้วให้อาจารย์ร่ายคาถาปลุกเสก ที่ทำอย่างนั้นก็เพราะให้ไอ้งั่งได้รับกลิ่นไอของการเสพสม และจะมีความขลังความสำเร็จตามความเชื่อของคนที่ให้อาจารย์ทำให้ และไม่ได้บังคับ หรือไปหลอกลวงให้เสียหาย อย่างไรก็ตามมันก็อยู่ที่การกระทำของคน ทำดีก็ได้ดี ทำชั่วก็ได้ชั่ว ตามเวรกรรมของตนที่ก่อไว้

แต่ที่พิธีกรรมปรากฏในสื่อโซเชียลนั้น เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 4-5 เดือนที่ผ่านมา มีชาวต่างชาติที่สามารถพูดไทยไม่ชัด ติดต่อให้ตนไปทำพิธีปลุกเสกในห้องพักในพื้นที่ภาคกลาง โดยเขาออกค่าใช้จ่ายให้อาจารย์นั่งรถทัวร์ไป ส่วนขากลับได้ค่าใช้จ่ายจากเขามาเพิ่มเกือบ 1 หมื่นบาท ก็ได้นั่งเครื่องบินกลับสำนัก หลังจากแบ่งไอ้งั่งกันคนละครึ่งจาก 300 กว่าองค์ โดยปล่อยเช่าในราคา 888 บาท แต่ตอนนี้ราคาพุ่งขึ้นเกือบ 2,000 บาทแล้ว

...

อ.เอ็ม เปิดเผยต่อว่า อาจารย์ไม่เคยทำพิธีที่หวาบหวิวแบบนี้มาก่อน เพิ่งทำเป็นครั้งแรก และเมื่อปรากฏเป็นข่าวทางเสีย ตนก็จะขอยุติประกอบพิธีหวาบหวิวแบบนี้ ตนก็ตกใจที่เขาบอกให้ทำแบบนี้ และขอถ่ายคลิปเอาไปประกอบในการขายให้กับคนที่เชื่อในต่างประเทศ เพื่อยืนยันว่ามีการปลุกเสกจริง แต่ไม่คิดว่าเขาจะเอาไปเผยแพร่แบบนี้

หากถามว่าขณะประกอบพิธีกรรมดังกล่าวนั้น ตนมีอารมณ์ร่วมกับคู่รักทั้ง 2 คนหรือไม่ ขอตอบเลยว่าไม่มี เพราะตนตั้งจิตให้มีสมาธิ จึงไม่มีสิ่งใดมาแทรกซ้อนได้ และก็ทำพิธีจนเสร็จลุล่วงไปด้วยดี ฝากถึงคนที่นำเอาคลิปไปโพสต์ ซึ่งเป็นคนต่างประเทศถ่ายคลิป ไม่รู้ว่าอยู่ประเทศอะไร แต่เอาโพสต์แบบนี้มันไม่ดี และจะไม่ทำพิธีแบบนี้ให้อีกแล้ว ไม่ว่าใครก็ตาม