ตำรวจรวบตัวหนุ่มใช้มีดแทง "เลียงผา" สัตว์ป่าสงวน อ้างเห็นตอนกำลังใกล้ตาย นอนพะงาบๆ ยกหัวไม่ขึ้น จึงแทงนำไปทำอาหาร ด้านตำรวจไม่ปักใจเชื่อ ส่งผ่าพิสูจน์พบสาเหตุการเสียชีวิตจากการถูกตีด้วยของแข็งบริเวณหัว
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานได้มีชาวบ้านหมู่ 4 ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ได้พบเลียงผาซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวน คาดว่าน่าจะพลัดหลงลงมาจาก "เขาเลื่อม" ซึ่งเป็นแนวเขาเป็นเขตรอยต่อระหว่างแนวเขตไทยกับกัมพูชาได้พัดหลงเข้ามาในบ้านร้าง ริมป่าอ้อย ซึ่งห่างจาก สภ.คลองหาด ประมาณ 500 เมตร
หลังจากได้รับแจ้ง นายโภคิน ท้าวธงชัย ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้ามีลูกบ้านได้ยินเสียงหมาเห่าเสียงดังมาก จึงได้เข้าไปดูพร้อมกับได้ถ่ายคลิปวิดีโอแล้วส่งมาให้ตนเอง และนายทองอินทร์ โสภาจันทร์ อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นมัคทายกวัด ซึ่งตอนนั้นตนเองและมัคทายกได้นั่งอยู่ด้วยกันพอดี
จากนั้นตนเองจึงได้โทรประสานไปยังเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้ เพื่อที่จะให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบเผื่อที่จะผลักดันเลียงผาตัวดังกล่าวกลับขึ้นภูเขาไป ขณะรอเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตนเองและนายทองอินจึงได้ขับรถยนต์ส่วนตัวไปยังที่ที่มีชาวบ้านแจ้งมาพอไปถึง พบรถกระบะสีขาวบนรถมีซากเลียงผานอนตายอยู่บนรถ ตนเองจึงได้ขับรถไปขวางหน้ารถคันดังกล่าวไว้
จากนั้นผู้ต้องหากับพวกอีก 2 คนได้กระโดดลงจากรถแล้ววิ่งหนีเข้าไปในป่าอ้อย ต่อมาทราบชื่อคือ นายประยุทธ อายุ 41 ปี ได้มีการโทรติดต่อมาหาญาติเพื่อที่จะขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้นำตัวนายประยุทธ ผู้ต้องหาพร้อมทั้งของกลางซากสัตว์ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวน พร้อมอาวุธมีดที่ผู้ต้องหาอ้างว่าใช้ก่อเหตุแทงเลียงผาตัวดังกล่าวจนเสียชีวิต
...
จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเลียงผาเพศเมีย ยังไม่ทราบอายุที่แน่ชัด จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านร้างพบคราบเลือดบริเวณพื้นและกำแพง โดยมีไม้และคราบเลือดท่อนใหญ่วางอยู่บริเวณดังกล่าวด้วย คาดว่าจะเป็นอาวุธที่ใช้ตีเลียงผาเพศเมียตัวดังกล่าวจนแน่นิ่งก่อนจะใช้มีดแทงซ้ำ
ด้านนายประยุทธ ผู้ต้องหา ให้การยอมรับกับเจ้าหน้าที่ว่าตนเองเป็นคนใช้มีดแทงเลียงผาตัวดังกล่าวจนเสียชีวิต แต่อ้างว่าเลียงผาตัวดังกล่าวกำลังจะตายอยู่แล้ว นอนพะงาบๆ ยกหัวไม่ขึ้น ตนเองเข้าไปเห็นจึงได้ใช้อาวุธมีดแทงเพื่อที่จะเอาไปประกอบอาหาร จากนั้นได้มีญาติของนายประยุทธเดินทางมาหาที่ สภ.คลองหาด เพื่อที่จะมาขอรับรถกระบะคันดังกล่าวกลับคืน แต่ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถที่จะให้คืนได้ เพราะถือว่าเป็นของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุ คือขนซากสัตว์ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามทางญาติของนายประยุทธว่ารู้หรือไม่ว่าสัตว์ตัวดังกล่าวคือสัตว์ป่าสงวน โดยญาติของนายประยุทธตอบว่ารู้ แต่ไม่มีอาการวิตกกังวลแต่อย่างใด ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 2 บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กก.2 บก.ปทส. หลังจากเข้าตรวจสอบเบื้องต้นพบเป็นซากสัตว์ป่าที่เลี้ยงลูกด้วยนมประเภท 10 ชนิดเลียงผา ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวน พร้อมแจ้งมีความผิดตามพระราชบัญญัติสัตว์ป่าสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ล่าสัตว์ป่าและครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าสงวนโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมทั้งแจ้งอีก 1 ข้อกล่าวหาโดยมีการครอบครองเลื่อยโซ่ยนต์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ส่วนซากเลียงผาทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้และเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ได้ทำการผ่าพิสูจน์เพื่อหาวัตถุต้องสงสัย เนื่องจากทางด้านเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของนายประยุทธว่าใช้อาวุธมีดในการแทงจนเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตของเลียงผา
ล่าสุดทราบว่าเลียงผาตัวดังกล่าวเสียชีวิตจากการถูกตีด้วยของแข็งบริเวณหัวจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวนายประยุทธไปยัง สภ.คลองหาด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านป้าลอยศรีจันทร์ อายุ 62 ปี ซึ่งเปิดเป็นร้านโชห่วยอยู่ใกล้บริเวณหมู่บ้านดังกล่าว หลังจากทราบเรื่องรู้สึกหดหู่และเสียใจ อยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องให้ช่วยกันอนุรักษ์สัตว์ป่า เลียงผาหายาก อยากให้เด็กรุ่นหลังได้รู้จักสัตว์ป่าแบบตัวเป็นๆ แบบมีชีวิตไม่อยากให้เหลือไว้ดูแต่รูปภาพเท่านั้น ป้าลอยกล่าว.