เรื่องคมๆความหมายชวนคิด (สุริยเทพ ไชยมงคล สำนักพิมพ์อินสไปร์ พิมพ์ พ.ศ.2553) เรื่องที่ 46 เจอเสือในป่า ผมอ่านหลายครั้ง ตั้งแต่เมื่อซื้อมาใหม่ๆ เรื่องคมๆ สั้นไม่กี่บรรทัดต่อไปนี้
ชายหนุ่มสองคน เอกับบีเดินอยู่ในป่า ทันใดนั้นพวกเขาก็เจอกับเสือตัวใหญ่
เอรีบหยิบรองเท้าจากกระเป๋าด้านหลังมาเปลี่ยน บีซึ่งกำลังตกใจกลัว พอเห็นเอเปลี่ยนรองเท้า จึงด่า “แกจะทำอะไร ถึงเปลี่ยนรองเท้าก็ไม่ช่วยให้วิ่งเร็วกว่าเสือหรอก”
“ขอแค่วิ่งเร็วกว่าแก ก็พอแล้ว” เอตอบ
เรื่องเล่าเรื่องนี้ ให้แง่คิดคมลึกมาก อ่านแล้วที่จริงก็เข้าใจกันดี ผมเพิ่งอ่านคำอธิบายความหมายชวนคิดอีกครั้งวันนี้ นึกถึงสถานการณ์ในตลาดหุ้นไทย จึงขอเอามาขยายต่อ
เวลาที่คนสองคนเจอเสือพร้อมกัน แน่นอน คนที่วิ่งช้ากว่า ย่อมตกเป็นผู้โชคร้าย
การแข่งขันทางธุรกิจไม่ว่าในอดีตหรือปัจจุบันเข้าข่ายมือใครยาวสาวได้สาวเอา ปลาใหญ่กินปลาเล็ก โลกไม่มีที่ว่างสำหรับคนอ่อนแอ และคนที่อยากจะเดินช้า
มีเรื่องเล่า เกษตรกรเลี้ยงปลาในบ่อ (นึกที่ไหนไม่ออก ก็เอาแถวยี่สาน หรือแพรกหนามแดง บ้านผมก็ได้)
เมื่อจับปลารุ่นก่อนหมด เขาต้องล้างบ่อปลาให้สะอาด สูบน้ำออกจากบ่อ จับปลาศัตรูปลาเลี้ยงออกจากบ่อให้หมด เพราะมันจะไล่จับปลาเลี้ยงเป็นอาหาร
(นากุ้งแม่กลองสมัยเริ่มแรกยังไม่มีกุ้งกุลาดำ ศัตรูของกุ้งที่มีราคาแพงกว่าคือปลากระบอกครับ เจ้าของร้านจินดา เจ้าของนากุ้งพี่น้องผมบ่นว่า ต้องพยายามจับปลากระบอกซึ่งราคาถูกกว่าออกให้หมด แต่คิดขึ้นได้ ปลากระบอกเนื้อก็รสดี นี่คือที่มาของ ต้มส้มปลากระบอก ร้านจินดา ที่แพร่หลายไปทั่วบ้านเมืองวันนี้)
แต่มีคนเลี้ยงปลาคนหนึ่งมีความคิดแตกต่าง จากคนเลี้ยงปลาบ่ออื่น เมื่อเขาล้างบ่อเสร็จแล้วกลับจงใจปล่อยปลาศัตรูสองสามตัวไว้ในบ่อ
...
ไม่นาน เกิดโรคระบาด ปลาในบ่อเลี้ยงทั่วๆไปตายมากมาย แต่ในบ่อเลี้ยงของชายคนนี้กลับมีปลาตายน้อยมาก ปลาส่วนใหญ่ไม่เพียงแข็งแรงดี ยังมีปริมาณมากกว่าปกติ
เหตุเพราะปลาศัตรูสองสามตัวที่เขาปล่อยไว้ เป็นตัวช่วยใหญ่ มันว่ายน้ำไล่ต้อนปลาเลี้ยงต้องหนีเอาชีวิตรอด ช่วยให้มันแข็งแรงรู้จักหลบเลี่ยงอันตราย
ส่วนปลาอ่อนแอเป็นโรคก็ตกเป็นอาหารปลาศัตรู ช่วยให้โรคไม่แพร่ในบ่อ
ในศตวรรษที่ 21 โลกเต็มไปด้วยการแข่งขัน บิลล์ เกตส์ มหาเศรษฐีโลกตอนนั้น กล่าวเสมอ บริษัทของเขาเหลือเวลา 14 วัน ก็จะปิดกิจการ กระตุ้นการทำงานของพนักงาน
เฉินเทียนเฉียว มหาเศรษฐีมีอันดับของจีน บอกว่า เขาไม่เคยนอนหลับเต็มตา ก่อนปี 2001 บริษัทเขามีสิทธิ์จะปิดกิจการได้ทุกเดือน ค.ศ.2003 บริษัทจะปิดกิจการได้ทุกไตรมาส เฉินเทียนเฉียวไม่ได้วิตกอย่างไร้สาเหตุ
เขารู้ว่าความเข้มข้นของการแข่งขันมีแค่ไหน นโยบายของบริษัทก็มีความเสี่ยงสูงขึ้นทุกวัน เขาฝันร้ายหลายคืน และหลายคืนเขาถูกปลุกประชุมบริษัทกลางดึก แต่กระนั้นเขาก็ฝ่าฟันมาได้ ทั้งยังแข็งแกร่งขึ้น
ข้อเขียนเจอเสือในป่าทิ้งท้ายว่า ไม่ว่าจะมีบริษัทเอง หรือ
เป็นพนักงาน ถ้ามีสติในการแข่งขัน มีความกล้าและยุติธรรมในการแข่งขัน ท่ามกลางภยันตรายนานาประดามี ก็สามารถจะยืนหยัดอยู่ได้
ประเด็นคิดของผมก็คือ การหนีเสือเอาตัวรอดสดๆร้อนๆของบางคน ถ้ายุติธรรมกับตัวเองก็กบฏกับองค์กรตัวเอง ไม่สง่างามสมกับความนับถือที่เคยมีให้กัน.
กิเลน ประลองเชิง
คลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม