ตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการลุยล้างตัดวงจรเครือข่ายฟอกเงินเว็บไซต์พนันจีน-มาเลย์ บุกค้น 5 เป้าหมายใน 4 จังหวัด กรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ และพระนครศรีอยุธยา รวบหนุ่มมาเลเซีย เชื้อสายจีนพร้อมเมียคนไทยคาหมู่บ้านหรู ที่เหลือจับได้อีก 5 คน ยึดเงินสด 4 ล้านบาท พร้อมของแบรนด์เนมเพียบ เผยพฤติกรรมอำพรางจ้างเมียนอมินีเปิดบริษัทบังหน้าทำธุรกิจหลากหลายเป็นที่ฟอกเงินให้เว็บพนัน

ตำรวจลุยล้างตัดวงจรเครือข่ายฟอกเงินเว็บไซต์ พนันชาวจีน-มาเลย์ เปิดเผยเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 ธ.ค. พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รรท.จตช. พร้อม พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รรท.ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พ.ต.อ.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด รอง ผบก.สอท.1 เปิดปฏิบัติการยุทธการ “Gateway laundering จีน-มาเลย์” ตัดวงจรฟอกเงินเว็บพนัน นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลอาญาตรวจค้นเป้าหมาย 5 จุดในกรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ และพระนครศรีอยุธยา

จุดแรกตรวจค้นบ้านเลขที่ 98/48 หมู่บ้านแกรนด์บางกอกบูเลอวาร์ด ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี จับกุม น.ส.ปัทมา ทองย้อย อายุ 29 ปี และ Mr.KIA LIM HAO อายุ 36 ปี สัญชาติมาเลเซีย เชื้อสายจีน สองผัวเมีย จุดที่ 2 ค้นห้องพักเลขที่ 889/252 อาคาร B ชั้น 3 คอนโดแอสปาย อโศก-รัชดา แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ จับกุม น.ส.เสาวลักษณ์ ผายกลาง อายุ 40 ปี จุดที่ 3 ค้นห้องพักเลขที่ 460/394 คอนโดนิซโมโนรามคำแหง เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ จับกุม น.ส.เบญพรรณ เที่ยงสัตย์ อายุ 24 ปี และนายบรรลือศักดิ์ สังฆราช อายุ 36 ปี จุดที่ 4 ค้นบ้านเลขที่ 133/2 หมู่ 4 อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จับกุมนายอธิป ตรีวรชัย อายุ 36 ปี และจุดสุดท้ายค้นบ้านเลขที่ 470/40 หมู่ 2 อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จับกุม น.ส.หนึ่งฤทัย เทียนหอม อายุ 53 ปี

...

ผลการตรวจค้นทั้ง 5 จุด ตำรวจยึดทรัพย์สินประกอบด้วยเงินสด 4 ล้านบาท, สร้อยข้อมือทองคำหนัก 3 บาท, สร้อยคอทองคำ พร้อมพระปิดตาหลวงปู่โต๊ะ เลี่ยมทอง มูลค่า 5 แสนบาท นาฬิกาข้อมือโรเล็กซ์ รุ่นจีเอ็มที รูทเบียร์ ราคา 600,000 บาท, นาฬิกาข้อมือยี่ห้อปาเต็ก ฟิลิปป์ รุ่น 5726 ราคา 2,000,000 บาท กระเป๋าแบรนด์เนมหรูกว่า 16 ใบ, สุราต่างประเทศ, รถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด 1 คัน และสมุดบัญชีธนาคาร รวมมูลค่ากว่า 13 ล้านบาท

พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร เปิดเผยว่า คดีนี้กลุ่มผู้ต้องหาเช่าบ้านเปิดบริษัทอำพราง บริษัทจดทะเบียนถูกต้อง ทำธุรกิจหลายอย่าง เพื่ออำพรางซ่อนเร้น ล่าสุดเปิดบ่อตกกุ้งย่านลาดพร้าว แต่ในข้อเท็จจริงคนร้ายใช้บริษัทในการฟอกเงินเกี่ยวกับเรื่องพนันออนไลน์ มีการเชื่อมโยงไปยังบริษัทต่างๆ และผู้ที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก ตำรวจจะขยายผลและออกหมายจับ มองว่าเป็นอีกคดีที่น่าสนใจที่คนต่างชาติมาแต่งงานกับคนไทยเพื่อจะได้สิทธิ์ในการถือครองหุ้นในบริษัท และใช้ในการกระทำความผิด

ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ กล่าวว่า จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนพบว่ากลุ่มผู้ต้องหารับจ้างฟอกเงินให้เครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์ที่จะเปิดบริษัทต่างๆ บังหน้าเพื่อฟอกเงิน เช่น สถานบันเทิงย่านเอกมัย, สถานบันเทิงที่พระนครศรีอยุธยา และร้านอาหารทะเลย่านลาดพร้าว และบริษัทอื่นๆ รวมแล้วกว่า 10 บริษัทในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จากการตรวจสอบพบว่าบางบริษัทที่จดแจ้งไม่ได้ประกอบการจริง กรรมการบริษัทก็เป็นนอมินีทั้งสิ้น กลุ่มผู้ต้องหาจะโอนเงินกันไปมาทำหน้าที่เหมือน payment gateway เพื่อให้ยากต่อการสืบสวนสอบสวน เชื่อว่าขบวนการนี้น่าจะรับฟอกเงินให้กับขบวนการอื่นๆ ที่กระทำผิดกฎหมายหลายอย่าง ทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือเว็บไซต์พนันออนไลน์อื่น ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนขยายผลเส้นทางการเงิน

รรท.ผบช.สอท. กล่าวอีกว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ชุดสืบสวนขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องในเครือข่ายรวม 27 ราย จับได้แล้ว 7 ราย ที่เหลืออยู่ระหว่างติดตามจับกุม เบื้องต้นทราบว่าสามีเป็นชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน เป็นตัวการสำคัญมาแต่งงานกับหญิงไทย จดแจ้งบริษัทให้ภรรยาชาวไทยเป็นนอมินีและแบ่งหุ้นส่วนให้ 51% ภรรยารู้ว่าตัวเองถูกออกหมายจับ แต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าสามีทำงานรับฟอกเงินให้กับเว็บไซต์พนันออนไลน์ ส่วนบ้านที่ตรวจค้นเบื้องต้นทราบว่าเช่าอาศัยเดือนละ 8 หมื่นบาท แต่อยู่ระหว่างตรวจสอบอีกครั้งว่าเป็นบ้านผู้ต้องหาหรือบ้านเช่า

มีรายงานว่าจากการสอบสวนหญิงชาวไทยที่เป็นภรรยาผู้ต้องหามาเลเซีย เชื้อสายจีนรับสารภาพว่าสามีจ้างให้เปิดบัญชีและเปิดบริษัทและให้คอยดูแลบริษัทได้ค่าจ้างเป็นเงินเดือนหลักแสนบาท หญิงชาวไทยรายดังกล่าวอ้างว่าไม่รู้ว่าบริษัทที่สามีเปิดทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไรบ้าง แต่ตำรวจยังไม่เชื่อตามคำให้การ

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่