กรมอุตุนิยมวิทยา ชี้แจงปม "พายุน้อย" แผลงฤทธิ์ถล่มไทย 30 พ.ย. - 5 ธ.ค. 67 ไม่ตรงตามหลักวิชาการ ทำให้คนเข้าใจคลาดเคลื่อน

วันที่ 4 ธันวาคม 2567 มีรายงานว่า ตามที่ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดิทัศน์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ทางช่องต่างๆ และมีข้อความปรากฏบนสื่ออิเล็กทรอนิกส์ว่า "แรงเกินคาดการณ์พายุน้อยแผลงฤทธิ์ถล่มไทย พยากรณ์อากาศ 30 พ.ย. - 5 ธ.ค." นั้น

กรมอุตุนิยมวิทยาขอชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าว มีบางส่วนที่นำมาจากข้อมูลข่าวพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา โดยผู้บรรยายมีเจตนาที่จะพยายามถ่ายทอดเป็นภาษาพูดที่คาดว่าจะสื่อสารให้เข้าใจง่ายมากขึ้น แต่การใช้ภาษาดังกล่าวอาจเป็นการสื่อสารที่ทำให้ผู้รับข้อมูลข่าวสารยิ่งมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนมากยิ่งขึ้น

เนื่องจากคำว่า "พายุน้อย" ไม่มีใช้ในนิยามศัพท์ทางอุตุนิยมวิทยา คำว่า "พายุ" จะสื่อถึงเหตุการณ์ของภัยธรรมชาติที่มีความรุนแรง มีลมกระโชก ฝนตกหนัก หรือฟ้าคะนอง อันอาจจะก่อให้เกิดอันตราย ความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน โดยส่วนใหญ่ทางอุตุนิยมวิทยาจะใช้คำว่า "พายุ" เช่น พายุฝนฟ้าคะนอง พายุฤดูร้อน พายุทอร์นาโด ส่วนพายุหมุนเขตร้อน จะมีเกณฑ์แบ่งระดับความรุนแรงของพายุ ตามความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางของพายุ ดังนี้

พายุดีเปรสชัน ความเร็วลมไม่เกิน 33 นอต (61 กม./ชม.)
พายุโซนร้อน ความเร็วลม 34 - 63 นอต (62 - 117 กม./ชม.)
พายุไต้ฝุ่น ความเร็วลม 64 นอตขึ้นไป (118 กม./ชม.ขึ้นไป)

สำหรับหย่อมความกดอากาศต่ำหรือหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาจะไม่ใช้คำว่า "พายุน้อย" เพราะจะมีผลต่อระดับการแจ้งเตือนภัย ดังนั้นการสื่อสารข้อความหรือภาษาที่ใช้ดังกล่าวจึงไม่เหมาะสม ถึงแม้จะดูให้เข้าใจง่าย อาจจะส่งผลกระทบต่อความเข้าใจของประชาชน ทำให้เกิดความตื่นตระหนก และอาจตื่นกลัว จึงควรหลีกเลี่ยงใช้ข้อความดังกล่าว

...

หมายเหตุ: แจ้งเตือนสำหรับผู้ที่คิด ผลิตข้อความหรือกระทำการใดๆ ในการสร้างข้อมูลที่เป็นเท็จ ข่าวลือ ข่าวปลอม ข่าวบิดเบือน ปลอมแปลงหรือเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการแสวงหาผลประโยชน์จากการกระทำและเผยแพร่ข้อมูลลบบนสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ดังกล่าว จนทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนกและสับสน เข้าใจคลาดเคลื่อนไปจากข้อมูลจริง จึงขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว

มิฉะนั้นอาจเข้าข่ายกระทำความผิดพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 มาตรา 14 (1) - (4) ทั้งในเรื่องข้อมูลเท็จ บิดเบือน ปลอมแปลง ทำให้ประชาชนตื่นตระหนก หรือกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความมั่นคงของรัฐ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือหากข้อมูลนั้นทำให้บุคคล องค์กร หน่วยงาน เสื่อมเสียชื่อเสียง หรือถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ยังอาจได้รับโทษในความผิดฐานหมิ่นประมาทมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.