“ทางหลวง” เพิ่งตื่นแก้ปัญหาจราจรจลาจล เปิดเลนสวนบนถนนพระราม 2 ก่อนถึงจุดเกิดอุบัติเหตุเครนเหล็กมรณะพังถล่มให้รถวิ่งสวนเลนกันระยะทาง 900 เมตร เริ่มตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 3 ทุ่มของทุกวัน พร้อมส่งทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญบินโดรนสำรวจ วางแผน 5 ขั้นตอนอย่างรัดกุม มั่นใจรื้อโครงสร้างเหล็กแล้วเสร็จภายใน 14 วัน เน้นอย่าให้เกิดเหตุซ้ำซ้อนอีก
“นรกพระราม 2” กลายเป็นคำหลอกหลอนผู้ใช้รถใช้ถนนที่จำเป็นต้องผ่านเส้นทางมรณะสายนี้ ภายหลังเกิดโศกนาฏกรรม ทรัส (Launching Truss) หรือโครงถักเหล็กเลื่อน อุปกรณ์ใช้ยกแผ่นปูนใช้ในโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว (ช่วงที่ 3) ตอนที่ 1 อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท อุดมศักดิ์เชียงใหม่ จำกัด พังถล่มลงมาบนพื้นที่ กม.21+600-กม.22+100 ถนนพระราม 2 ขาออกกรุงเทพฯ หมู่ 2 ต.คอกกระบือ อ.เมืองสมุทรสาคร มีคนงานเสียชีวิต 6 ศพ และบาดเจ็บ 9 ราย เหตุเกิดย่ำรุ่งเช้าวันที่ 29 พ.ย. ส่งผลให้การเดินทางขึ้น-ลงภาคใต้ ช่วงที่ต้องผ่านจุดเกิดเหตุหน้าตลาดสดลีลา มหาชัยเมืองใหม่ ทำให้ถนนพระราม 2 กลายเป็นอัมพาต จราจรติดขัดหนัก
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่กำกับและติดตามการเคลียร์พื้นที่ หลังเกิดเหตุโครงเหล็กติดตั้งสะพานของโครงการก่อสร้างทางยกระดับ M82 ร่วงหล่นบนถนนพระราม 2 เช้าวันนี้ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ได้เปิดช่องทางพิเศษ จัดเดินรถแบบสวนเลน ช่วง กม.20+900 บริเวณตลาดมหาชัยเมืองใหม่ ถึง กม.21+800 พื้นที่ ต.คอกกระบือ อ.เมืองสมุทรสาคร ระยะทาง 900 เมตร และจะเปิดช่องทาง พิเศษถึงเวลา 21.00 น.ของทุกวัน เพื่อระบายการจราจรและบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนพระราม 2 จนกว่าจะแล้วเสร็จภารกิจการรื้อถอน และคืนผิวจราจรให้แก่ประชาชน มีเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงและตำรวจในพื้นที่คอยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้เส้นทางอย่างเต็มที่
...
สำหรับโครงเหล็กติดตั้งสะพานที่ได้รับความเสียหาย ต้องเคลียร์พื้นที่อย่างระมัดระวัง วิศวกรใหญ่กรมทางหลวง พร้อมด้วยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ สภาวิศวกร และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) ได้ใช้โดรนขึ้นบินตรวจสอบความเสียหายของโครงสร้างเหล็กโดยละเอียด และจัดทำแผนงานการเคลื่อนย้ายโครงเหล็กติดตั้งสะพาน เสร็จเรียบร้อยแล้วรวม 5 ขั้นตอน จะใช้เวลาดำเนินการ 14 วัน ประมาณวันที่ 1-14 ธ.ค.นี้
1.ติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดบริเวณตอม่อและโครงสร้าง สะพานเพื่อเฝ้าระวังการเคลื่อนตัวเพิ่มเติมและลดโอกาสการเกิดการพังทลายต่อเนื่อง 2.เคลียร์พื้นที่ด้านล่างของโครงเหล็กติดตั้งสะพานเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ เครื่องจักรต่างๆที่ใช้ในการรื้อย้ายโครงเหล็กที่เสียหาย พร้อมทั้งชุดอุปกรณ์ Safety ให้มีความพร้อมก่อนดำเนินงาน เนื่องจากโครงสร้างเหล็กส่วนนี้มีขนาดใหญ่ และน้ำหนักมาก ให้ยึดความปลอดภัยในการทำงานป้องกัน การเกิดเหตุซ้ำซ้อน 3.จัดเตรียมพื้นที่ทางเบี่ยงระหว่างการรื้อย้าย (Reversible Lane) เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจร 4.รื้อและเคลื่อนย้ายโครงเหล็กที่เสียหายด้านซ้ายทางลงจากตอม่อสะพาน และ 5.ปลดก้อนคอนกรีตและย้ายโครงเหล็กที่อาจมีผลกระทบด้านขวาทางกลับสู่ตำแหน่งที่ปลอดภัยเพื่อการตรวจสอบอย่างละเอียด
พ.ต.ต.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. กล่าวว่า การเปิดจุดช่องทางพิเศษจะอยู่บริเวณหน้าตลาดสดมหาชัยเมืองใหม่ หลัก กม.20+900 ตรงนี้จะช่วยระบายรถขาออกจากกรุงเทพฯ เริ่มเปิดตั้งแต่เวลา 07.00 น. หลังผ่านไป 1 ชั่วโมง ท้ายแถวอยู่ประมาณไม่ถึง 1 กม. ชี้ให้เห็นว่าการเปิดช่องทางพิเศษเพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรในถนนพระราม 2 ขาออกกรุงเทพฯได้ผลดี ช่องทางพิเศษมีความยาวแค่ 900 เมตร อ้อมจุดเกิดอุบัติเหตุเครนเหล็กถล่ม ให้เฉพาะรถเล็ก 4 ล้อผ่านเท่านั้น เพื่อให้ระบายการจราจรที่เป็นปัญหาในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ช่องทางพิเศษดังกล่าวจะเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-21.00 น. คำนึงถึงความปลอดภัยเรื่องโครงสร้างสะพานเป็นหลัก ถ้าหากมีความเสี่ยงว่าโครงสร้างสะพานขยับตัว จะสั่งหยุดการจราจรในช่องทางพิเศษทันที
สำหรับความคืบหน้าการรื้อถอน เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายชิ้นส่วนของสะพานที่หล่นอยู่บนพื้นถนนพระราม 2 ออกจากพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ยังคงเหลือโครงเหล็กติดตั้งสะพานที่ได้รับความเสียหาย ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก มีวิศวกรใหญ่กรมทางหลวง พร้อมทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ เข้ามาตรวจสอบความเสียหายของโครงสร้างเหล็กโดยละเอียด ขณะนี้กำลังรอรถเครนขนาด 500 ตัน เข้าปฏิบัติการรื้อถอน คาดว่ารถเครนจะเดินทางถึงในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ กรมทางหลวงจะเร่งดำเนินการเคลียร์พื้นที่และฟื้นฟูสภาพการจราจรให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ยืนยันว่าจะดำเนินการทุกอย่างด้วยความระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและเจ้าหน้าที่ทุกคน หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทร.ฟรีทุกเครือข่าย 24 ชั่วโมง)
ในส่วนของคดี พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ตั้งชุดสอบสวนฯ ในคดีนี้เพราะมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย ได้วางแผนและแนวทางในการสอบสวน ทั้งในส่วนของบริษัทผู้รับเหมา, ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง, ผู้ดูแลคนงานก่อสร้าง, คนงานที่อยู่ในวันเกิดเหตุทุกคน รวมถึงผู้ได้รับบาดเจ็บ และญาติของผู้เสียชีวิตทุกราย พนักงานสอบสวนจะออกหนังสือเรียกทุกคนมาสอบสวนตามแนวทางที่วางไว้ ขณะนี้ได้เรียกผู้แทนบริษัท อุดมศักดิ์เชียงใหม่ จำกัด เข้ามาให้รายละเอียดในวันเกิดเหตุแล้ว ว่าด้วยเรื่องของแผนการทำงาน ผู้ควบคุมงาน ผู้ควบคุมคนงาน หน้าที่ของคนงานแต่ละจุด ลักษณะการทำงานในวันเกิดเหตุ และอื่นๆ อีกหลายประเด็น พร้อมทั้งให้นำเอกสารต่างๆ มายื่นต่อทางพนักงานสอบสวนด้วย
พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์กล่าวว่า ขณะนี้สอบปากคำผู้อยู่ในที่เกิดเหตุไปแล้ว 10 คน ส่วนที่เหลือจะทยอยมาให้ปากคำที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร บางคนขอจัดการเรื่องศพของผู้เสียชีวิตก่อน และทุกศพถูกรับออกไปดำเนินพิธีกรรมทางศาสนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ถือเป็นคดีสำคัญที่ต้องสอบปากคำบุคคลทุกคนที่เกี่ยวข้องในวันเกิดเหตุอย่างละเอียด รัดกุม และรอบคอบที่สุด คงต้องใช้เวลาพอสมควร แต่จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ส่วนเรื่องการแจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้นเป็นเรื่องของกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายหรือมีเหตุให้ผู้อื่นถึงได้รับอันตรายบาดเจ็บสาหัสหรือบาดเจ็บธรรมดา ส่วนของผู้ควบคุมงานหรือวิศวกรฯ จะแจ้งข้อกล่าวหาอื่นเพิ่มเติมอีกหรือไม่คงต้องรอให้ผลสอบปากคำเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยก่อน
...
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่