สังคมไทยกำลังเกิดปัญหาที่จะต้องเร่งแก้ไขโดยเร่งด่วนเพราะมันค่อนข้างจะลุกลามมากขึ้นทุกทีคือคดีฉ้อโกง หลอกลวงและฟอกเงิน
คือวิธีหากินสร้างความร่ำรวยแต่คนอื่นเดือดร้อน
ที่สำคัญคือหมอ ทนายความ ที่ผู้คนให้ความยกย่อง เชื่อถือ ให้เกียรติ เป็นผู้ลงมือทำเสียเอง ก่อนหน้านี้เป็นนักการเมือง ตำรวจ ข้าราชการ
นักการเมืองนั้นทำกันจนเป็นเรื่องปกติเมื่ออยากมีอำนาจ ตำรวจก็เช่นกันเพราะมือหนึ่งถือปืน อีกมือหนึ่งถือกฎหมาย
แต่วันนี้ “ตำรวจ” ในฐานะผู้รักษากฎหมายเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้นจึงทำหน้าที่ได้ดีตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น
จึงไม่มีส่วนร่วมแต่ทำหน้าที่จับกุมจนได้ผู้กระทำความผิดได้เกือบทุกคดี
ยิ่งปัจจุบันที่มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัย ถ้าตำรวจทำงานอย่างรับผิดชอบในหน้าที่จะเห็นว่าไม่ว่าคดีจะสลับซับซ้อนแค่ไหน
ไม่รอดสักราย...
แม้กระทั่งนักการเมืองที่หลงเข้ามาอยู่ในวังวนโกงหากินด้วยการขู่กรรโชกก็ไม่รอดมือไปได้อย่าง “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” ยังโดนตะครุบตัวได้ที่เชียงราย
ในแวดวงทนายความที่เป็นข่าวเกรียวกราวเป็นขบวนอย่าง “ษิทรา เบี้ยบังเกิด” เห็นหน้าตาซื่อๆอย่างนี้
แต่ใจมันโหดจริงๆ
ใช้ความเป็นนักกฎหมายที่ผู้คนให้ความนับถือและยอมรับเปิดปฏิบัติตามหลอกลวงด้วยการฉ้อโกง แรกๆก็ค่อยเป็นค่อยไปแต่เห็นเหยื่อที่เงินมากและไม่ค่อยรู้เรื่องตัวบทกฎหมาย
ก็เลยหวังเขมือบเอาให้หมดตัวกันไปเลย
เรื่องนี้ทำให้วงการทนายความเสียหายและขาดความน่าเชื่อถือศรัทธาไปมากทีเดียว แต่สภาทนายกลับเงียบเฉยไม่รู้ร้อนรู้หนาว
แทนที่จะต้องออกมาเคลื่อนไหวแสดงความรับผิดชอบให้ปรากฏ
อีกทั้งยังมีทนายบางคนกลับแสดงตนเข้าข้างคนผิดเสียอีกแล้วยังไม่รู้สำนึกอวดเก่งอวดฉลาดจนคนเขาสังเวชใจไปทั้งบ้านทั้งเมือง
...
ว่าไปแล้วคนเหล่านี้ล้วนทำให้อาชีพนี้ตกต่ำหมดราคาไปเลย
ยังมีอีกอาชีพหนึ่งที่ไม่ควรจะมีการกระทำลักษณะนี้เกิดขึ้นเพราะคำว่า “หมอ” นั้นสังคมให้เกียรติให้ความยกย่องนับถือ
เป็นอาชีพที่มีเกียรติและศักดิ์ศรี!
แต่ปรากฏว่าเกิดคดี “หมอโกง” ขึ้นในยุคนี้จนได้คือ “นพ.บุญ วนาสิน” แพทย์ชื่อดังมีคนรู้จักทั้งบ้านทั้งเมือง เพราะนอกจากเป็นหมอแล้วยังเป็นนักธุรกิจ
เป็นหุ้นส่วนโรงพยาบาลในตลาดหลักทรัพย์อีกด้วย
แต่คงเป็นเพราะมีความทะเยอทะยานสูงอยากได้นั่นได้นี่อยากเป็นเจ้าของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ระดับอินเตอร์
ก็เลยตัดช่องน้อยตัวเองด้วยการหลอกลวงประชาชน โดยเฉพาะบรรดาเพื่อนร่วมอาชีพด้วยกันให้มาลงทุนด้วยวิธีการอันแยบยล
เอาลูก-เมียเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือและเป็นช่องทางในการตบตา ปรากฏว่าต้องถูกจับกุมด้วย
แต่ตัวเองเอาตัวรอดเผ่นหนีไปต่างประเทศ แต่ไม่น่าจะไปรอดเพราะตำรวจไทยได้ประสานกับตำรวจสากลแล้ว
การต้มตุ๋นราคาสูงนับหมื่นล้านบาท
“หมอบุญ” นั้นเคยมีข่าวเรื่อง “วัคซีน” เมื่อเกิดโควิด-19 ระบาด ในลักษณะหวังค้ากำไรจากวัคซีนยี่ห้อหนึ่งมาแล้ว
วันนี้สังคมไทยต้องระมัดระวังอย่าได้หลงเชื่ออะไรง่ายๆไม่ว่าคนคนนั้นจะมีชื่อเสียงประวัติที่น่าจะเป็นคนดี
พูดง่ายๆว่าสังคมวันนี้แทบจะไว้ใจใครไม่ได้แล้ว!
“สายล่อฟ้า”
คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม