ตำรวจจับให้ดีเอสไอล็อก “สามารถ” คาวัดดังเชียงราย หลังดีเอสไอขอศาลออกหมายจับพร้อมแม่และ “บอสพอล” ข้อหาฟอกเงิน-สมคบฟอกเงิน จับกุมคนแม่ได้ที่บ้านใน กทม. เผยหลักฐานเส้นเงินบอส “ดิ ไอคอน” 2 คนโอนเข้าบัญชีแม่ของ “สามารถ” ร่วม 100 ล. ด้านทนายวิฑูรย์โวย “ดีเอสไอ” ทำงานโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ย้ำเงิน 2.5 ล้าน “บอสพอล” โอนให้เป็นเงินทำบุญและให้ยืม “บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญปีใหม่ให้อินฟลูฯ นักร้องคนดัง
กรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ รับโอนคดี บ.ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด จากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หลังดำเนินธุรกิจขายตรงเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ ถูกกล่าวหาหลอกให้ลงทุนและหาลูกข่ายมาเป็นสมาชิก สร้างความน่าเชื่อถือด้วยการนำดารานักแสดงชื่อดังมาร่วม ตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ได้ขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับและจับกุมผู้ต้องหา 18 คน ตั้งแต่นายวรัตน์พล หรือบอสพอล วรัทย์วรกุล นายยุรนันท์ หรือบอสแซม ภมรมนตรี น.ส.พีชญา หรือบอสมิน วัฒนามนตรี และนายกันต์ หรือบอสกันต์ กันตถาวร รวมถึงแม่ข่ายและผู้เกี่ยวข้อง คุมตัวฝากขังเข้าเรือนจำไปก่อนหน้า ขณะเดียวกันคดียังแตกยอดออกไปเมื่อกลุ่มบอส ดิ ไอคอน กรุ๊ป นำคลิปเสียงแฉนักร้องเรียนและบุคคลหลายกลุ่มเข้ามารีดทรัพย์ จนมีการดำเนินคดีไปหลายรายตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ศาลออกหมายจับ “สามารถ”
ล่าสุดมีรายงานเมื่อวันที่ 25 พ.ย. ในส่วนที่ปรากฏคลิปเสียงนักการเมืองเรียกรับทรัพย์จากบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป ที่มีนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องนั้น ศาลอาญาพิจารณาตามคำร้องของสอบสวนคดีพิเศษ อนุมัติออกหมายจับที่ 5682/2567 ลงวันที่ 24 พ.ย.67 ให้จับกุมนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2546 มาตรา 5 (1) (3) มาตรา 9 และมาตรา 60 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 โดยมีหลักฐานตามสมควรว่า นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ได้หรือน่าจะได้กระทำความผิดอาญามีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปี ได้หรือน่าจะได้กระทำความผิดอาญาและมีเหตุอันควรเชื่อว่าจะหลบหนีหรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ฉะนั้นให้จับตัวนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ไปส่งที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม ในอายุความ 15 ปี เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมาย แต่ไม่เกินวันที่ 16 ธันวาคม 81
...
มีแม่และบอสพอลด้วย
สำหรับหมายจับในครั้งนี้ ศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง 3 คน ประกอบด้วย 1.นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล 2.นางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ อายุ 62 ปี แม่นายสามารถ และ 3.นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช พร้อมกันนั้นดีเอสไอได้นำหมายค้นศาลเข้าตรวจค้น 2 จุด ตรวจยึดพยานเอกสารและพยานวัตถุ โดยจุดที่ 1 บ้านพักนายสามารถ ในโครงการบ้านหรูแห่งหนึ่งบนถนนราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า กรุงเทพมหานคร ไม่พบตัวนายสามารถ จุดที่ 2 คอนโดมิเนียมของนายสามารถ ในพื้นที่เขตราชเทวี ส่วนนางวิลาวัลย์ แม่นายสามารถ เจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่บ้านพักในซอยพญานาค ย่านราชเทวี และนำตัวเข้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อสอบปากคำต่อไป
รวบคาวัดห้วยปลากั้ง
ต่อมาเวลา 12.40 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับรายงานว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพบตัวนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อยู่ที่วัดห้วยปลากั้ง จ.เชียงราย และได้ควบคุมตัวไปที่ สภ.แม่ยาว จ.เชียงราย ขณะ เดียวกันคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ อยู่ระหว่างประสาน รับตัวกลับมาดำเนินคดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ
จะไปกราบหลวงพ่อพบโชค
จากการสอบถามจากคนขับรถตู้รับจ้างในเบื้องต้นทราบว่า นายสามารถมาถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย เวลาประมาณ 08.20 น. และติดต่อว่าจ้างรถตู้พร้อมคนขับ ยี่ห้อโตโยต้า อัลพาร์ด สีขาว ทะเบียน 7 กน 867 กรุงเทพมหานคร ในราคา 7,000 บาท เพื่อไปกราบหลวงพ่อพบโชคที่วัดห้วยปลากั้ง ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย และแวะทานอาหารใกล้ชุมชนห้วยปลากั้ง วางแผนว่าหลังทานอาหารและเสร็จธุระในตัวเมืองเชียงราย จะให้คนขับรถพาไปส่งที่สนามบินเพื่อเดินทางกลับ กทม. แต่ถูกตำรวจควบคุมตัวได้เสียก่อน
ดีเอสไอแถลงผลจับ
ต่อมาเวลา 14.30 น. พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า การสอบสวนเรื่องฟอกเงินทางอาญาของดีเอสไอ เนื่องด้วยได้รับไว้เป็นคดีพิเศษที่ 115/2567 ก่อนที่จะรับคดีความผิดเรื่องแชร์ลูกโซ่ หรือเลขคดีพิเศษที่ 119/2567 ไว้เป็นคดีพิเศษตามที่ได้รับโอนสำนวนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายหลังจากที่รวบรวมพยานหลักฐานและสืบสวนเรื่องเส้นทางการเงิน ธุรกรรมทางการเงินมาอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด พบว่าในกรณีที่บรรดาผู้เสียหายในคดีได้โอนเงินชำระเพื่อซื้อสินค้าหรือเปิดบิลเป็นตัวแทนจำหน่ายกับบัญชีธนาคารของบริษัท ดิ ไอคอน จากนั้นบัญชีของบริษัทได้โอนต่อมาที่นายวรัตน์พล หรือบอสพอล วรัทย์วรกุล ต่อมาบอสพอลและบอสปีเตอร์ก็ได้โอนต่อมายังกลุ่มที่ถูกศาลออกหมายจับ คือแม่ของนักการเมือง และนักการเมือง
อึ้ง บช.แม่มียอดรายได้ 100 ล้าน
สำหรับไทม์ไลน์ที่ดีเอสไอสืบสวนพบจากร่องรอยการทำธุรกรรมรับโอนเงินระหว่างบอสพอล และนักการเมืองรายนี้ พบตั้งแต่ช่วงปี 64 ในส่วนบัญชีธนาคารแม่นักการเมืองรายนี้ มียอดเงินรายได้รวมกว่า 100 ล้านบาท เป็นการรับโอนเงินจากทางอื่น แต่ในส่วนที่รับโอนโดยตรงจากบอสพอลมีประมาณ 2.5 ล้านบาท ทั้งยังมีในส่วนของการรับโอนจากนายกลด เศรษฐนันท์ หรือบอสปีเตอร์ หลักหลายแสนบาท ส่วนจะกล่าวอ้างว่าเงินหลายล้านบาทนี้ เป็นเงินทำบุญหรือเงินใดนั้น สามารถให้การได้ถือเป็นสิทธิ แต่ดีเอสไอจะต้องพิสูจน์ว่าเป็นเงินทำบุญจริงหรือไม่ และเหตุใดเป็นเงินทำบุญทุกเดือน บางครั้งหลักแสนบาท บางครั้งหลายแสนบาท และยังเป็นไปตามวงรอบทุกเดือน ดีเอสไอมองว่าพฤติการณ์ลักษณะนี้ไม่อาจใช่เงินทำบุญ
พบแม่โอนต่อมาบัญชีลูก
ส่วนเหตุใดเป็นความผิดฐานฟอกเงินทางอาญานั้น เพราะคือการเปลี่ยนแปลงสภาพทรัพย์สิน หรือมีลักษณะปกปิดอำพราง อีกทั้งนักการเมืองรายนี้ยังใช้เงินผ่านบัญชีแม่ของตัวเอง เพราะเมื่อบอสพอลหรือบอสปีเตอร์โอนเงินมายังบัญชีแม่ของนักการเมือง แม่ของนักการเมืองจะโอนต่อมายังบัญชีนักการเมือง ยืนยันว่าทั้งคู่มีการกระทำความผิดอาญาฐานฟอกเงิน ในข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน
เผยเหตุขอศาลออกหมายจับ
พ.ต.ต.ยุทธนาเผยต่อว่า สาเหตุที่ดีเอสไอรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับทั้ง 3 คน มาจากกรณีที่ดีเอสไอรับคดีฟอกเงินทางอาญาของบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด และพวก ไว้เป็นคดีพิเศษ และได้รวบรวมพยานหลักฐานพบว่ามีการระดมเงินของบรรดาสมาชิกไปยังบัญชีของบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด และบัญชีธนาคารของบริษัท ดิ ไอคอนฯ ก็โอนต่อไปยังบุคคลในหมายจับหลายทอด พฤติการณ์ดังกล่าวนี้ คือ การโอนหรือรับโอนเงินเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพทรัพย์สิน หรือเพื่อปกปิดอำพรางซุกซ่อนลักษณะแท้จริงของการได้มาซึ่งทรัพย์สิน เข้าข่ายความผิดอาญาฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน
...
แม่ลูกยังให้การปฏิเสธ
พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวต่อว่า หลังควบคุมตัวนางวิลาวัลย์มาที่ดีเอสไอขณะนี้ยังคงอยู่ระหว่างสอบปากคำ ยังไม่ได้รับรายงานว่าปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาหรือไม่ แต่เจ้าตัวค่อนข้างให้การไม่เป็นประโยชน์ ส่วนรายละเอียดคำให้การไม่สามารถเปิดเผยได้ ทราบเพียงว่าทั้งสองยังให้การปฏิเสธ นอกจากนี้เรื่องเส้นทางการเงิน 2.5 ล้านบาทที่พบความเชื่อมโยงระหว่างบอสพอลและนางวิลาวัลย์ แม้จะอ้างเป็นเงินฝากทำบุญหรือเงินใดก็ตามถือเป็นการแก้ข้อกล่าวหาหรือจะแสดงข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์ ดีเอสไอก็รับฟัง เพียงแต่ต้องชั่งน้ำหนักว่าฟังได้หรือไม่ว่าการรับโอนในปริมาณหลักแสนบาทนี้ความถี่รายเดือนเเบบนี้ ทั้งยังเป็นเงินที่มาจากบริษัทที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีมูลฐานอีก
เค้นแม่รับเงินโอนจาก 2 บอส
ส่วนประเด็นเรื่องความสนิทสนมระหว่างบอสพอลและนางวิลาวัลย์ อยู่ระหว่างสอบปากคำเช่นเดียวกัน ส่วนจำนวนเงินที่พบในบัญชีธนาคารของนางวิลาวัลย์ว่ามีมูลค่ารายได้รวมกว่า 100 ล้านบาท จากการสืบสวนพบว่ามาจากหลายแหล่ง ต้องขยายผลต่อว่าเป็นเงินจากแหล่งใดบ้าง แต่ที่ผู้ต้องหารับโอนตรงมาจากบอสพอลมีจำนวน 2.5 ล้านบาท และรับโอนตรงจากบอสปีเตอร์ 500,000 บาท พฤติการณ์ส่วนใหญ่ที่รับโอนเงินจากทั้งบอสพอลและบอสปีเตอร์ เป็นการรับโอนเงินเป็นลอตๆไม่ใช่รับโอนเงินก้อน บางครั้ง รับโอน 100,000 บาท 300,000 บาท บ้างสูงสุด 500,000 บาท เป็นพฤติการณ์ในไทม์ไลน์ปี 64-66 หากดูเป็นจำนวนครั้งที่รับโอนระหว่างกันคือ 15 ครั้ง
ชี้ฟอกเงินเป็นคดีอาญา
อธิบดีดีเอสไอกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ หากผู้ต้องหาจะชี้แจงว่าเป็นเงินฝากทำบุญ สามารถยื่นใบอนุโมทนาบุญได้ ยินดีรับฟัง พร้อมตรวจสอบพิสูจน์ข้อเท็จจริงทำบุญจริงหรือไม่ ส่วนบัญชีของนายสามารถจะโอนเงินไปที่วัดใดหรือไม่ ดีเอสไอจะขยายผลต่อไป ส่วนกรณีที่บอสพอลไม่ติดใจดำเนินคดีนายสามารถ แต่ดีเอสไอดำเนินคดี เนื่องด้วยมันเป็นความผิดอาญาฐานฟอกเงินเป็นอาญาแผ่นดิน ไม่จำเป็นจะต้องมีผู้เสียหายร้องทุกข์ หากพนักงานสอบสวนพบความผิดต้องดำเนินการเพื่อตัดวงจรการกระทำความผิดทางมาตรการการฟอกเงิน เป็นนโยบายกระทรวงยุติธรรม และรัฐบาล ต้องบังคับใช้กฎหมายในทุกมิติ ดังนั้น หากฝั่งบอสพอลจะออกมาปกป้องนายสามารถถือเป็นสิทธิ หรือจะยื่นพยานหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาใดก็ได้
...
ศาลออกหมาย–มีหลักฐาน
พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวว่า การกระทำความผิด มูลฐานนั้นต้องมีหลักฐานระดับหนึ่งศาลพิจารณาออกหมายจับ ทั้งความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน หรือ ความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนฯ ก็เป็นความผิดมูลฐานทั้งสิ้น เมื่อมีพยาน หลักฐานแน่ชัดแล้ว การได้ทรัพย์จากการกระทำผิด แล้วมีการมาโอน หรือเปลี่ยนแปลงสภาพฯ ก็ถือเป็น ความผิดอาญาฐานฟอกเงิน
ให้ประกันต้องดูพฤติการณ์
ส่วนจะให้ประกันตัวชั่วคราวทั้ง 2 ผู้ต้องหาในชั้นพนักงานสอบสวนหรือไม่นั้น ต้องให้เป็นดุลพินิจของพนักงานสอบสวน เพราะต้องดูพฤติการณ์ประกอบการพิจารณา ส่วนอัตราหลักทรัพย์ที่จะให้ผู้ต้องหายื่นขอประกันตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวน ต้องเทียบอัตรากับที่ศาลได้มีไว้ ไม่สามารถยืนยันได้ในตอนนี้ว่าจะให้ประกันตัวชั่วคราวทั้งคู่หรือไม่ ขอดูพฤติการณ์ก่อน
แม่ลูกไม่ได้คุยกันมาสักพัก
นอกจากนี้ การที่นายสามารถเดินทางไปจ.เชียงราย ยังไม่ปรากฏข้อมูลว่าจะข้ามไปยังที่อื่น ทราบเพียงว่าอยู่ที่ จ.เชียงราย ประสานข้อมูลไปยังตำรวจภูธรภาค 5 ทั้งนี้ สาเหตุที่ทราบว่านายสามารถ ไป จ.เชียงราย มาจากข้อมูลการสืบสวน ส่วนเจ้าตัวจะมีที่พำนักอาศัยในจังหวัดหรือไม่ขอให้พนักงานได้สืบสวนต่อไป รวมทั้งยังทราบมาว่านางวิลาวัลย์แม่นายสามารถ ไม่ได้พูดคุยกับลูกชายมาสักพัก และเรื่องการจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าต้องนำข้อมูลที่ได้ จากการตรวจสอบมาประชุมอีกครั้ง แต่การจองตั๋ว เครื่องบินอาจต้องจองล่วงหน้าพอสมควร
ยึดมือถือ บช.ธนาคารตรวจ
พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวต่อว่า สำหรับผลการตรวจ ยึดสิ่งของที่ใช้เป็นพยานหลักฐาน ได้ตรวจยึดสิ่งของภายในบ้านแม่นายสามารถ เป็นโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง ขณะที่บ้านนายสามารถตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ รถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า อัลพาร์ด 1 คัน และ เอกสารเกี่ยวกับบัญชีการเงิน รวมถึงเอกสารสัญญาต่างๆ ส่วนกรณีจับกุมนางวิลาวัลย์เท่าที่ทราบน่าจะยังไม่เครียด แต่ผ่อนคลายหรือไม่ไม่ทราบเจ้าตัวน่าจะไม่ทราบเรื่องหมายจับมาก่อน
...
สอบพยานวันละ 200 ราย
สำหรับกรณีพยานบริษัทดิ ไอคอน ที่ทนาย วิฑูรย์ เก่งงาน ทนายของบอสพอล ได้พามาให้สอบปากคำเข้าสู่สำนวนว่า พนักงานสอบสวนทยอยสอบปากคำวันละ 70 ราย เเบ่งเป็น 3 กลุ่ม ประมาณ 200 รายต่อวัน และดีเอสไอมีเส้นกำหนดให้ส่งบันทึกข้อเท็จจริงของบรรดาพยานได้ถึงวันที่ 3 ธ.ค.มิเช่นนั้นอาจส่งผลกระทบต่อสำนวนคดี ทำให้คดีเสียหายได้
“ทนายวิฑูรย์” โวยดีเอสไอ
ด้านนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล หรือบอสพอล วรัทย์วรกุล กล่าวว่า สงสัย การทำงานของดีเอสไอ เนื่องจากเรื่องความผิดมูลฐานคดีฉ้อโกงประชาชน กับ พ.ร.บ.แชร์ลูกโซ่ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าบริษัทดิ ไอคอน กรุ๊ป มีความผิดหรือไม่ยังไม่มีการส่งฟ้องอัยการ แต่มาเริ่มต้นที่คดีฟอกเงิน ตั้งคำถามกลับไปว่ามันถูกต้องหรือไม่ จะอ้างว่าทำตามกฎหมาย อยากถามต่อในประวัติศาสตร์ของการทำคดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จากประวัติศาสตร์ไม่เคยทำคดีฟอกเงินที่คู่ขนานกับความผิดมูลฐาน แต่ขณะนี้เราได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ ทำคดีฟอกเงินพร้อมกันกับคดีที่เป็นความผิดมูลฐานที่ยังไม่ชัดเลยว่าผิดหรือไม่ก็น่าแปลกใจ จะมีการปรึกษาทีมทนายว่าจะดำเนินการอย่างไรกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ
เฉ่งทำหน้าที่ชอบด้วย ก.ม.หรือไม่
นายวิฑูรย์กล่าวต่อว่า ไม่รับประกันว่านาย สามารถ รวมถึงคุณแม่ของนายสามารถที่ถูกออกหมายจับวันนี้อาจจะมีการร้อง ม.157 กับเจ้าหน้าที่ สำหรับในกรณีนายสามารถ ตามจริงก็น่าจะออกหมายเรียกได้ไม่จำเป็นต้องออกหมายจับ แต่เล่นจะจับกันเลย ผู้ต้องหาฝั่งคดีดิ ไอคอน นอนรออยู่ในคุกอย่างสบายใจ แต่ตอนนี้คนที่คุณไปจับมาเพิ่มจะต้องตอบคำถามให้ได้ความผิดมูลฐานที่อยู่ในมือดีเอสไอในวันนี้ยังไม่ส่งศาลยังไม่ชัดว่าผิดหรือไม่ผิด แต่คุณเล่นคดีฟอกเงินกันแล้วจะต้องตอบคำถามกับหน่วยงานต่างๆให้ได้ว่าคุณทำหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ระบุเป็นเงินยืมกับทำบุญ
ที่ผ่านมาไม่เคยเข้าไปสอบปากคำบอสพอลถึงประเด็นเรื่องเส้นเงิน ตอนนี้มีหลักฐานที่บอสพอล ยืนยันว่าเงินทั้งหมดเป็นเงินค่าอะไรบ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นเงินทำบุญอีกส่วนเป็นเงินที่ยืมกันปกติ เพราะแม่นายสามารถกับบอสพอลสนิทสนมกัน ข้อมูลตรงนี้ได้ส่งให้กับทนายนายสามารถเป็นที่เรียบร้อย เพื่อที่จะให้ทนายนายสามารถนำข้อมูลมาให้กับดีเอสไอ ส่วนใหญ่แม่นายสามารถจะยืมบอสพอล ยืมครั้งหนึ่งไม่เยอะประมาณครั้งละ 1 แสนถึง 3 แสนบาท เงินทั้งหมดที่ยืมกันได้คืนไปจะหมดแล้ว แต่ไม่ใช่ยืมทุกเดือนแต่เป็นยอดเงินรวมประมาณ 3 ปีตั้งแต่ปี 64-66 รวมกันประมาณ 2.1 ล้านบาท เอกสาร การกู้ยืมเงินมีบ้างไม่มีบ้าง ส่วนหลักฐานแชตสนทนายืมเงินกันนั้น ส่วนใหญ่จะโทรศัพท์คุยกันมากกว่าตามประสาคนสนิทกัน ครั้งล่าสุดที่คุยกับนายสามารถ คือวันที่ 22 พ.ย. ไม่ได้ปรึกษาเรื่องคดีแต่นายสามารถบอกว่าจะไปทำบุญ ส่วนจะกังวลเกี่ยวกับเรื่องคดีหรือไม่ ไม่กังวลตอบได้
เงิน 110 ล. ไหลเข้าบัญชี
อีกด้านหนึ่ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายสามารถ พบมีเงินไหลเข้าบัญชีรวมกว่า 110 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีเงิน 3 ล้านบาทที่มาจาก “ดิ ไอคอน” ผ่านบัญชีม้า เป็นบัญชีที่นายสามารถดูแลอยู่ แต่บางส่วนถูกโอนไปยังบัญชีแม่ ก่อนเงินดังกล่าวจะถูกส่งต่อกลับมาบัญชีนายสามารถอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังตรวจพบเส้นเงินใหม่มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ที่มาจากบุคคล 9-10 ราย ขณะนี้ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่มา เนื่องจากมีการโอนเงินผ่านบัญชีอื่นหลายขั้นตอนก่อนจะถึงปลายทางที่บัญชีนายสามารถ เบื้องต้นเชื่อว่าเงินเหล่านี้อาจมีที่มาจากแหล่งเงินสีเทายังคงต้องมีการสืบสวนเพิ่มเติม
เตรียมกุญแจมือเป็นของขวัญ
รอง ผบช.ก.กล่าวต่อว่า ในช่วงปีใหม่นี้เตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญให้บรรดา อินฟลูเอนเซอร์ นักร้อง คนดัง และผู้ดูแลเพจโซเชียลต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี จะส่งทุกคนไปพักห้องวีไอพีในเรือนจำ หากพบพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงถึงการกระทำความผิดก็จะดำเนินคดีอย่างแน่นอน ส่วนกรณีคดีของ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ว่า ได้ส่งสำนวนไปให้กองบังคับการปราบปรามแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายไม่ว่าจะเป็นการออกหมายเรียก หรือหมายจับคาดว่าน่าจะมีความชัดเจนได้ภายในสัปดาห์นี้
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่