ฝนใต้เดือด ระทึกซัดเรือหางยาว 1 ลำ ล่มกลางเขื่อนเชี่ยวหลาน ขณะพานักท่องเที่ยวต่างชาติ ไกด์ และคนขับเรือ 14 ชีวิต ไปชม “หินสามเกลอ” หรือกุ้ยหลินเมืองไทย เหยื่อตะเกียกตะกายเอาตัวรอด เจ้าหน้าที่ช่วยไว้ได้ 13 ราย ส่วนชายสูงอายุชาวฝรั่งเศสยังสูญหาย 1 คน “รักษาการผู้ว่าฯพัทลุง” ประกาศเขตภัยพิบัติอุทกภัย วาตภัย ใน 4 อำเภอ หลังฝนถล่มหนักต่อเนื่อง

ยังต้องจับตาสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในจังหวัดพัทลุง หลายพื้นที่มีน้ำท่วมขังส่งผลให้ราษฎรใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อ วันที่ 23 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายก้องสกุล จันทราช รรท.ผวจ.พัทลุง ได้ลงนามประกาศเขตภัยพิบัติอุทกภัย วาตภัย ในพื้นที่ประสบภัยจำนวน 4 อำเภอ 15 ตำบล 57 หมู่บ้าน 12 ชุมชน ของ อ.เมืองพัทลุง อ.ศรีบรรพต อ.ศรีนครินทร์ และ อ.ควนขนุน เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วม จ.พัทลุง ล่าสุดฝนทิ้งช่วงตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ยังคงมีสภาพน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่ม ถนนหลายสายในหมู่บ้านมีน้ำที่สะสมไว้ไหลผ่านบางสายน้ำเชี่ยวกรากอันตรายกับการสัญจร โดยเฉพาะถนนสายบ้านหนองในวัง หมู่ 4 ต.นาขยาด อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อนายทวีเดช ทองเทพ เจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลตำบลนาขยาด ได้โพสต์คลิปลงโซเชียล นาทีเร่งเข้าช่วยเหลือนางบี อายุ 60 ปี หลังขี่รถจยย. ฮอนด้า เวฟ ทะเบียน 1 กก 8304 พัทลุง ฝ่ากระแสน้ำมุ่งหน้ากลับบ้าน แต่มีน้ำท่วมเส้นทาง และกระแสน้ำแรงไหลผ่าน ทำให้นางบีถูกกระแสน้ำพัด ลากรถ จยย.ตกลงไปในคูน้ำข้างทาง อยู่ติดกับสวนปาล์มน้ำมัน ที่มีน้ำลึกเกือบ 3 เมตร โชคดีเจ้าหน้าที่ผ่านมาประสบเหตุ ได้ช่วยเหลือผู้ขับขี่ขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย

ส่วนรถ จยย.ของนางบี เจ้าหน้าที่ลงงมค้นหาจนพบ แล้วใช้เชือกผูกติดกับรถ ขอกำลังชาวบ้านมาช่วยกันดึงรถขึ้นจากน้ำ ใช้เวลาประมาณ 3 นาที สามารถกู้รถขึ้นมาจากน้ำได้สำเร็จ ขณะที่ภาพรวมของ จ.พัทลุง ในวันนี้ยังคงมีท้องฟ้ามืดครึ้ม มีฝนโปรยปราย แต่ไม่หนัก ทำให้ในหลายพื้นที่น้ำทวมขังสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย หากไม่มีฝนตกมาเพิ่มในระยะนี้ คาดว่าอีก 1-2 วัน จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

...

จ.นครศรีธรรมราช หลังเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้น้ำป่าไหลหลากและน้ำในลำคลองต่างๆล้นตลิ่ง ล่าสุดเย็นวันที่ 22 พ.ย. น้ำป่าจากเทือกเขาหลวงนครศรีธรรมราช ไหลหลากลงสู่ลำคลองในพื้นที่ อ.ลานสกา และ อ.พระพรหม ระดับน้ำในลำคลองเสาธงล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร เรือกสวนไร่นา และสวนยางพาราเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ 13 ต.ท้ายสำเภา อ.พระพรหม น้ำไหลบ่าเข้าท่วมหน่วยเลือกตั้งที่ 1 และหน่วยที่ 18 เป็นหน่วยเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ที่จะลงคะแนนในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย. ระดับน้ำสูงราว 1 เมตรเศษ นายสรรเพชรญ์ ทันราย กำนัน ต.ท้ายสำเภา ได้ขอสนับสนุนกำลังพลทหาร 11นาย พร้อมรถยีเอ็มซีและเครื่องมือจากหน่วย ป.5 พัน. 105 ค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 อ.เมืองนครศรี ธรรมราช เข้าสนับสนุนเคลื่อนย้ายเต็นท์และอุปกรณ์หน่วยเลือกตั้งนายก อบจ.ดังกล่าว หนีน้ำท่วมไปอยู่ในจุดสูงกว่าและน้ำท่วมไม่ถึง ห่างออกไปประมาณ 700 เมตร เพื่อให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิลงคะแนนได้ตามปกติ

สุราษฎร์ธานี เมื่อเวลา 12.10 น. วันเดียวกัน ร.ต.อ.พงศ์เทพ อุปถัมภานนท์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งมีเรือนำเที่ยวล่มในอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) บริเวณเขาสามเกลอ หมู่ 3 ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน รายงาน พ.ต.ท.สุเทพ ร่างมณี รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บ้านตาขุน และสายตรวจตำบลเขาพัง ลงเรือเร็วไปที่เกิดเหตุ เบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 คณะ แบ่งลงเรือหางยาว 2 ลำ จากท่าเรือเทศบาลตำบลเชี่ยวหลาน ให้ไปส่งยังแพพักแรมในอ่างเก็บน้ำ

ลำแรกมี 4 คน เป็นชาวต่างชาติ 2 คน ไกด์นำเที่ยว 1 คน คนขับเรือ 1 คน และลำที่ 2 มี 13 คน เป็นชายหญิงชาวต่างชาติ 10 คน ชาย 4 คน หญิง 6 คน ไกด์นำเที่ยว 1 คน และคนขับเรือ 1 คน ชื่อนายสมชาติ เรืองเมือง ระหว่างทางได้พาชมแหล่งท่องเที่ยวเขาสามเกลอ หรือกุ้ยหลินเมืองไทย ระหว่างนั้นเกิดคลื่นลมพัดแรงฝนฟ้าคะนอง ทำให้เรือเอียงวูบน้ำเข้าแล้วเรือลำที่ 2 ล่มลง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาสก ได้นำเรือเข้าช่วยเหลือขึ้นมาได้ 12 คน สูญหาย 1 คน ทราบชื่อ นายเรเน่ แมรี่ คอร์เน อายุ 83 ปี สัญชาติฝรั่งเศส

ต่อมาเรือเจ้าหน้าที่และกู้ภัยเชี่ยวหลานเดินทางไปถึง และได้นำนักท่องเที่ยว 2 คนที่มีอาการแน่นหน้าอกส่ง รพ.บ้านตาขุน ส่วนนายฌอง อองรี วาเย มีอาการน้ำเข้าปอดจากการสำลักน้ำ นำส่งต่อ รพ.สุราษฎร์ธานี ขณะที่นายเรเน่ แมรี่ คอร์เน ที่สูญหายยังมีความสับสนว่า ได้มีผู้ช่วยเหลือนำขึ้นเรืออีกลำหรือไม่ เนื่องจากในจุดเกิดเหตุไม่มีสัญญาณ โทรศัพท์ การติดต่อสื่อสารลำบาก ตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบข้อมูล พร้อมนำนายสมชาติ เรืองเมือง คนขับเรือลำเกิดเหตุไปสอบปากคำ และนำนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดกลับขึ้นฝั่งที่ท่าเรือเทศบาลตำบลเชี่ยวหลาน เพื่อความปลอดภัยแล้ว

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่