รวบหนุ่มสิงคโปร์รักคุด โทร.ขู่ มีระเบิดในเที่ยวบินของแอร์เอเชีย จากสนามบินดอนเมืองไปสนามบินหาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ต้องตัดสินใจ ยกเลิกเที่ยวบินตามหลักสากล ชุดสืบสวน สน.ดอนเมือง ตามรวบได้ หลังขับรถยนต์คันเดิมกลับเข้ามาบริเวณสนามบิน ตรวจหนังสือเดินทางพบอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดไปแล้ว 28 วัน อ้างไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ แค่ทะเลาะกับแฟนสาวชาวไทย แฟนบอกว่าจะเดินทางกลับบ้านในพื้นที่ภาคใต้ ไม่อยากให้กลับเลยโทร.ขู่ให้ยกเลิกเที่ยวบิน ถูกดำเนินคดีอาญา แถมรอถูกสายการบินฟ้องแพ่งตามอ่วม
รวบหนุ่มสิงคโปร์ปากบอนโทร.ขู่วางระเบิดสายการบิน เปิดเผยเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 23 พ.ย. พ.ต.อ.สุกฤต มังคละสวัสดิ์ ผกก.สน.ดอนเมือง พร้อมด้วย พ.ต.ท.อำนาจ ฉ่ำชะเอม รอง ผกก.สส.สน.ดอนเมือง พ.ต.ต.ภาคิน ดอกไม้ สว.สส.สน.ดอนเมือง ฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง ร่วมกับตำรวจ ตม.2 และเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานดอนเมือง จับกุมนายโฮ ไวท์ ฉ่อง (MR.HO WAI CHONG) อายุ 37 ปี ชาวสิงคโปร์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือที่มีบันทึกการโทร.ออก 1 เครื่อง จับกุมภายในท่าอากาศยานดอนเมืองเมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 22 พ.ย.
คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 21 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดอนเมือง รับแจ้งจากพนักงานสายการบินหนึ่งที่อยู่ในท่าอากาศยานดอนเมือง รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานดอนเมืองมีชายปริศนาพูดไม่ชัดเสียงคล้ายคนจีน โทร.เข้ามาที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของท่าอากาศยานจับใจความได้ว่า “รู้มั้ยสายการบินแอร์เอเชียที่ไปหาดใหญ่มีระเบิด” หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยาน ประเมินสถานการณ์ร่วมกับสายการบินแอร์เอเชียตามหลักสากล ประกาศใช้แผนฉุกเฉินยกเลิกเที่ยวบินจากท่าอากาศยานดอนเมืองเดินทางไปท่าอากาศยานหาดใหญ่ เที่ยวบินที่ FD3114 ของวันที่ 21 ทันที
...
หลังจากนั้นฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง ตรวจสอบเบอร์ที่โทร.เข้ามาแจ้ง และประวัติการซื้อตั๋วเดินทาง จนสามารถระบุตัวเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ได้อย่างชัดเจน ประกอบกับพบสัญญาณครั้งสุดท้ายในพื้นที่สนามบิน เชื่อว่าคนร้ายยังคงอยู่ในพื้นที่สนามบิน เจ้าหน้าที่สืบสวนต่อจนทราบว่า ผู้ก่อเหตุขับรถยนต์ยี่ห้อฮาวาล โจไลออนส์ สีดำ มาจอดที่สนามบินดอนเมืองและขับออกไปภายหลังก่อเหตุ
กระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 22 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ในพื้นที่สนามบิน รับแจ้งว่าพบรถคันดังกล่าวขับเข้ามาจอดภายในสนามบินดอนเมือง ถอดป้ายทะเบียนรถด้านหน้าออก เชื่อว่าเจ้าของรถคันนี้น่าจะอยู่ในสนามบิน กระทั่งพบเห็นชายลักษณะตรงตามภาพวงจรปิดเดินอยู่บริเวณสนามบิน เจ้าหน้าที่แสดงตัวขอตรวจสอบหนังสือเดินทางบุคคลดังกล่าว ทราบชื่อนายโฮ ไวท์ ฉ่อง สัญชาติสิงคโปร์ และอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาต (OVER STAY) เป็นจำนวนทั้งสิ้น 28 วัน
สอบสวนนายโฮ ไวท์ ฉ่อง ให้การว่า ยอมรับว่าเป็นคนโทร.ไปขู่ว่ามีระเบิดบนเครื่องจริง ก่อนหน้าตนมีปากเสียงกับแฟนสาวมา 2-3 วัน แฟนสาวบอกว่าจะเดินทางกลับบ้านที่ภาคใต้ เดินทางมาที่สนามบินเพื่อตามหาแต่ไม่พบคิดว่าแฟนคงกำลังจะเดินทางด้วยเที่ยวบินนี้กลับบ้านเกิด จังหวะมองไปเห็นเบอร์โทรศัพท์ติดไว้กะว่าจะโทร.แกล้งเฉยๆ ถ้าเครื่องยกเลิกเที่ยวบินแฟนสาวจะได้ไม่ไปจากตัวเอง ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่
เบื้องต้นแจ้งข้อหาว่า เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (OVER STAY) และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 ผู้ใดแจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ และการนั้นเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในท่าอากาศยานหรือผู้ที่อยู่ในอากาศยานในระหว่างการบินตื่นตกใจ และถ้าการกระทํานั้นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างการบินจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป
ทั้งนี้พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง นำตัวฝากขังศาลอาญาไปแล้วเมื่อช่วงเช้า ส่วนความเสียหายที่ต้องยกเลิกเที่ยวบินเป็นความผิดทางแพ่ง สายการบินแอร์เอเชียฐานะผู้เสียหาย ต้องฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อไป
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่