สาวใหญ่ลวงอุ้มฆ่าแม่ยายอัยการเปิดปากสารภาพแล้ว หลังถูกเค้นสอบข้ามวันข้ามคืน สุดท้ายจำนนต่อหลักฐานเส้นผมตัวเองไปติดอยู่ในเล็บผู้ตาย อ้างลงมือคนเดียวต้องการหาเงินไปใช้หนี้พนันออนไลน์ ออกอุบายให้นั่งรถเป็นเพื่อนไปหาพี่ชาย ถึงจุดเกิดเหตุลากตัวลงจากรถใช้เหล็กข้ออ้อยฟาดหน้าผากล้มทรุด เข้าไปหวดซ้ำอีกหลายครั้งจนสิ้นใจคามือ ปลดสร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวนเพชรถอดไม่ออกต้องเอาเหล็กกระแทกนิ้วนาง จนขาด นำทองไปขายได้เงินกว่า 8 หมื่นบาท เอาไปใช้หนี้พนันจนเกลี้ยง ตำรวจตามยึดคืนสร้อยทองและแหวนผู้ตาย ยังไม่เจอเหล็กข้ออ้อยอาวุธสังหารกับโทรศัพท์มือถือเหยื่อที่ผู้ต้องหาทุบแตกเอาไปโยนทิ้งคลอง น้องชายผู้ตายยังไม่เชื่อก่อเหตุเพียงลำพัง เจ้าตัวสำนึกผิดเอ่ยปากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต ขอชดใช้กรรมที่ทำไป ตำรวจคุมตัวทำแผนฯก่อนส่งฝากขังเข้าเรือนจำ

หลังจากตำรวจจับกุมนางกมลวรรณ โวลฟ์ อายุ 57 ปี บ้านอยู่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ผู้ต้องหาฆาตกรรมอำมหิตนางวรรณา คือห์เนอร์ อายุ 65 ปี แม่ยายอัยการ ขับรถเก๋งไปรับเหยื่อบริเวณปากซอยบ้านในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ลวงไปทุบหัวฆ่าตัดนิ้วชิงสร้อยทองและแหวนเพชร ทิ้งศพริมถนนทางเข้าสวนปาล์ม หมู่ 3 ต.ป่ายุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง พบศพช่วงค่ำวันที่ 15 พ.ย. ชุดสืบสวนแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิดติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บ้านพร้อมรถเก๋งที่ใช้ก่อเหตุเมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 พ.ย. ศาลอนุมัติออกหมายจับข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาถูกควบคุมตัวไปเค้นสอบสวนแต่เจ้าตัวยังปากแข็งให้การปฏิเสธ

ความคืบหน้าหลังจากตำรวจเค้นสอบปากคำอย่างหนักตลอดทั้งวันทั้งคืนในที่สุดสาวใหญ่ผู้ต้องหาก็ยอมเปิดปากรับสารภาพแล้วว่าเป็นคนล่อลวงผู้ตายไปฆ่าชิงทรัพย์เพื่อเอาเงินไปใช้หนี้พนันออนไลน์ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 พ.ย. พ.ต.อ.อภิชนัน วัฒนวรางกูร ผกก.สส.ภ.จ.ระยอง พ.ต.อ.พัฒนา รอบรู้ ผกก.สภ.วังจันทร์ เปิดเผยภายหลังร่วมกันสอบปากคำผู้ต้องหาว่า นางกมลวรรณยอมเปิดปากให้การรับสารภาพแล้ว อ้างว่าขับรถพาผู้ตายขณะยังมีชีวิตอยู่มาบริเวณจุดเกิดเหตุแล้วลงมือทำร้ายจนเสียชีวิต ก่อเหตุเพียงคนเดียวไม่มีคนอื่นร่วมด้วย ที่ผู้ต้องหายอมรับสารภาพเพราะจำนนด้วยหลักฐานเส้นผมของผู้ต้องหาเข้าไปติดอยู่ในซอกเล็บของผู้ตายช่วงระหว่างต่อสู้กันก่อนจะเสียชีวิต

...

พ.ต.อ.อภิชนันเผยว่า นางกมลวรรณเล่าว่าเมื่อวันที่ 15 พ.ย. โทรศัพท์ไปหาผู้ตายขณะกลับจากงานทอดกฐิน ออกอุบายชวนไปหาพี่ชายตัวเองที่ อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ขับรถไปรับพามาถึงทางเข้าสวนปาล์มจุดเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณบ่าย 4 โมงเศษ ผู้ต้องหาลงจากรถมาก่อนเรียกผู้ตายให้ลงมาคุยกัน ผู้ตายไม่ยอมลงจากรถบอกว่าจะมืดแล้วต้องกลับบ้าน ถูกผู้ต้องหาฉุดกระชากลงมาแล้วใช้ท่อนเหล็กข้ออ้อยที่เตรียมมาฟาดเข้าที่หน้าผากอย่างแรงจนผู้ตายล้มลง ก่อนเข้าไปหวดซ้ำอีกหลายครั้งจนแน่นิ่งไป ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีแน่ใจว่าตายแล้ว ปลดเอาสร้อยคอทองคำ สร้อยข้อมือ ต่างหู ส่วนแหวนเพชรดึงไม่ออกจากนิ้ว ใช้เหล็กทุบจนนิ้วขาดทั้ง 2 นิ้วแล้วถอดแหวนออกโยนนิ้วทิ้งไป จากนั้นขับรถออกไป นำท่อนเหล็กทิ้งในถังขยะซอย 3 ใกล้ที่เกิดเหตุ นำโทรศัพท์มือถือของผู้ตายที่ทุบจนแตกใส่ถุงไปทิ้งคลอง ขับรถเอาสร้อยทอง แหวน และต่างหูไปขายร้านทองที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ได้เงินมา 8 หมื่นกว่าบาทนำไปใช้หนี้พนันบาคาราออนไลน์จนหมดแล้วขับรถกลับบ้าน รุ่งเช้าเอารถไปล้าง จนช่วงบ่ายมีตำรวจมาควบคุมตัวไปสอบสวน ตอนแรกให้การปฏิเสธ สุดท้ายยอมรับสารภาพเพราะจำนนต่อหลักฐาน

จากนั้น พ.ต.อ.พัฒนา รอบรู้ ผกก.สภ.วังจันทร์ นำกำลังตำรวจควบคุมตัวนางกมลวรรณ โวลฟ์ อายุ 57 ปี ผู้ต้องหา ไปชี้จุดค้นหาท่อนเหล็กข้ออ้อยอาวุธสังหาร หลังก่อเหตุนำไปทิ้งในถังขยะซอย 3 ใกล้ที่เกิดเหตุแต่ยังไม่พบ ส่วนโทรศัพท์มือถือของผู้ตายที่อ้างว่าทุบแตกแล้วใส่ถุงพลาสติกไปโยนทิ้งคลองก็ยังหาไม่พบเช่นกัน จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาไปที่ห้างทองเดือนเพ็ญ เขตเทศบาลเมืองบ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ที่นำทองของผู้ตายไปขาย ประกอบด้วย แหวนทองฝังเพชร 2 วง สร้อยคอหนัก 1 บาท สร้อยข้อมือหนัก 1 บาท ขายได้ราคา 88,300 บาท ตำรวจตรวจยึดคืนไว้ได้ทั้งหมด ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าเมื่อวันที่ 15 พ.ย. เวลา 17.25 น. ผู้ต้องหาขับรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีขาว คันที่ก่อเหตุเข้ามาจอดหน้าร้าน ลงจากรถเดินเข้าไปขายทองในร้าน หลังขายทองรับเงินแล้วก็ขับรถออกไป

หลานสาวเจ้าของร้านทองเผยว่า ตอนที่ผู้ต้องหานำทองมาขายไม่ได้มีพิรุธอะไร ยื่นแหวนทองฝังเพชร 2 วงมาก่อน อ้างว่าแหวนเบี้ยวเลยต้องการขาย จากนั้นนำสร้อยคอกับสร้อยข้อมือออกมาขายพร้อมกัน อ้างว่าเก่าแล้ว พอได้เงินก็ออกจากร้านไป จนตำรวจมาสอบถามไม่มีข้อมูลเนื่องจากตอนที่ผู้ต้องหาเอาทองมาขายไม่ได้ให้ทางร้านถ่ายสำเนาบัตรประชาชนไว้ อ้างว่าบัตรหาย ผู้ต้องหาใช้ชื่ออื่นที่ไม่ใช่ชื่อปัจจุบัน อีกทั้งตอนที่เข้ามาขายก็ท่าทางเหมือนลูกค้าทั่วไป ไม่มีอาการตื่นตกใจอะไร

ต่อมาในช่วงเที่ยง ตำรวจควบคุมตัวนางกมลวรรณไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังที่เกิดเหตุทางเข้าสวนปาล์ม หมู่ 3 ต.ป่ายุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ผู้ต้องหามีท่าทางอิดโรย ใส่เสื้อสีเหลือง กางเกงสีน้ำตาล ชุดเดิมตั้งแต่ที่ถูกควบคุมตัวในวันแรก มีผ้าผืนใหญ่คลุมศีรษะปิดบังใบหน้า ท่ามกลางชาวบ้านมามุงดูจำนวนมาก กำลังตำรวจต้องกันพื้นที่คุมเข้มเพื่อความปลอดภัย นำรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีขาว ทะเบียน จร 2814 ชลบุรี คันที่ใช้ก่อเหตุมาร่วมทำแผนฯ เริ่มจากดึงผู้ตายลงจากรถ ใช้ท่อนเหล็กข้ออ้อยตีหน้าผากล้มลงแล้วตีซ้ำอีกหลายครั้งจนเสียชีวิตก่อนปลดสร้อยคอและสร้อยข้อมือ พยายามถอดแหวนแต่ถอดไม่ออก ใช้เหล็กกระแทกนิ้วจนขาดทั้งสองข้างแล้วถอดเอาแหวนไป ใช้เวลาทำแผนฯประมาณ 30 นาที ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหากลับ สภ.วังจันทร์

ขณะทำแผนฯมีนายสมชาย มาลาเวช อายุ 46 ปี น้องชายผู้ตายมารอดูโฉมหน้าฆาตกรทมิฬตะโกนด่าด้วยความโกรธแค้น นายสมชายเผยว่า เป็นน้องชายคนเล็กในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 14 คน อยากมาดูหน้าผู้ต้องหาจะถามว่าทำไมถึงต้องฆ่ากันให้ตาย เชื่อว่าถ้าขอกันดีๆ พี่สาวคงให้ได้เพราะปกติพี่สาวเป็นคนใจดีมาก การกระทำของผู้ต้องหารุนแรงและโหดร้ายเกินไป ตนยังไม่เชื่อคำสารภาพที่ว่าก่อเหตุลำพังคนเดียว น่าจะต้องมี 2-3 คนร่วมด้วยแน่นอน อยากให้ตำรวจสอบสวนขยายผลเอาตัวผู้ร่วมก่อเหตุที่ผู้ต้องหายังปกปิดอยู่มาดำเนินคดีให้หมด ขณะที่ น.ส.วรรณรัตน์ แสงแก้ว อายุ 35 ปี ลูกสาวผู้ตาย นิมนต์พระมายังจุดเกิดเหตุเพื่อเชิญดวงวิญญาณแม่กลับบ้าน พร้อมกล่าวว่า ทุกอย่างขอให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย

...

ผู้สื่อข่าว จ.ชลบุรี เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 99/98 หมู่บ้านแสนปรีดา 5 ต.บึง อ.ศรีราชา พบนายวาล์เดอมาร์ โวลฟ์ อายุ 68 ปี ชาวเยอรมัน สามีของผู้ต้องหาเผยว่า วันเกิดเหตุภรรยาสั่งให้ตนอยู่บ้าน ไม่ให้ออกไปไหน แต่ตนมีนัดไปดื่มเบียร์ดูบอลที่พัทยา ก็ขี่รถ จยย.ไปตามปกติไม่ได้สนใจอะไร พอกลับมาถึงบ้านก็ทราบจากตำรวจเข้ามาบอกว่า ภรรยาไปก่อเหตุดังกล่าวโดยที่ตนไม่รู้เรื่องและไม่ทราบสาเหตุจริงๆ

ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน อ.ศรีราชา หลังทราบว่านางกมลวรรณ ผู้ก่อเหตุ ขับรถเก๋งเข้ามาเติมน้ำมัน เด็กปั๊มที่เติมน้ำมันเล่าว่า นางกมลวรรณขับรถเข้ามาคนเดียว เติมน้ำมัน 1,000 บาท เห็นถือเงินเป็นปึกท่าทางเร่งรีบ หลังจากเติมเสร็จก็ขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว ผู้สื่อข่าวไปสอบถามคาร์แคร์แห่งหนึ่งในพื้นที่ที่ผู้ต้องหานำรถเข้ามาล้างทำความสะอาด เด็กล้างรถเผยว่า ผู้ก่อเหตุบอกเพียงว่าล้างรถให้สะอาด สังเกตเห็นคราบเลือดที่เบาะนั่งข้างคนขับแต่ไม่ได้สนใจอะไร หลังจากล้างรถเสร็จผู้ก่อเหตุซื้อส้มโอมาให้เด็กล้างรถ 1 กก.ก่อนขับรถออกไป

ที่ สภ.วังจันทร์ เมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.พงศ์พันธ์ วงศ์มณีเทศ ผบก.ภ.จ.ระยอง ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัวนางกมลวรรณ โวลฟ์ อายุ 57 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่านางวรรณา คือห์เนอร์ อายุ 65 ปี ชิงทรัพย์ทองรูปพรรณ แหวนเพชร ต่างหูทอง หลังล่อลวงเหยื่อให้นั่งรถมาเป็นเพื่อนอ้างจะไปหาพี่ชายที่ระยอง สบโอกาสใช้ท่อนเหล็กข้ออ้อยยาว 40 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 ซม.ที่เตรียมมาตีจนตาย นำทรัพย์สินไปขายได้เงิน 88,300 บาท นำไปใช้หนี้ การพนันออนไลน์ พนักงานสอบสวนตั้งข้อหาฆ่าชิงทรัพย์ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

หลังการแถลงข่าวตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาขึ้นรถนำตัวส่งฝากขังต่อศาลจังหวัดระยอง หลังครบกำหนดควบคุมตัว 48 ชม. ขณะนั่งบนรถควบคุมตัว นางกมลวรรณพูดผ่านสื่อกล่าวคำขอโทษต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต ที่ทำลงไปรู้สึกสำนึกผิดและขอชดใช้กรรมในสิ่งที่ทำลงไป จากนั้นเมื่อไปถึงศาล พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญและมีอัตราโทษสูง ประกอบกับไม่มีผู้มายื่นขอประกัน ศาลอนุญาตให้ฝากขังส่งตัวผู้ต้องหาเข้าเรือนจำกลางระยอง

...

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่