กองปราบฯเตรียมนำ “เจ๊พัช” ฝากขังพร้อมยื่นคำร้องค้านประกันตัว แฉเค้นสอบ 5 ชม. เจ้าตัวปฏิเสธไม่ได้รีดทรัพย์ดิ ไอคอน ไม่ขอให้การแต่จะยื่นเป็นเอกสารแทน เผยคืนแรกในห้องคุมขังกองปราบฯ “เจ๊พัช” นอนหลับปกติถึงเช้าตื่นมายังนั่งคล้ายทำสมาธิ ไม่มีท่าทีกระวนกระวาย และไม่ขออะไรเป็นพิเศษ ขณะเดียวกันมีชายหญิง 2 คนเข้าเยี่ยมเกือบ 1 ชม. ระบุ “พี่พัชยังโอเค แค่กินข้าวไม่ลง” เผยกองปราบฯได้พยานสำคัญตำรวจเก่ารุ่นเดียวกับอดีตสามีนักร้องเรียนสาว ทำหน้าที่คอยร้องเรียนบริษัทต่างๆที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายความผิด โดยเฉพาะดิ ไอคอน กรุ๊ป
ภายหลังตำรวจกองปราบฯบุกจับ “เจ๊พัช-กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์” อายุ 47 ปี ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ ในความผิดฐาน “กรรโชกทรัพย์” และ “เป็นตัวกลางเรียกรับสินบน” จากการแอบอ้างเรียกเงินจากกลุ่มผู้ต้องหาเครือข่ายดิ ไอคอนตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เป็นคดีแรก จากการเรียกเงิน 7.5 แสนบาทจากบอสพอล-นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล เจ้าของบริษัทดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด อ้างเป็นค่าวิ่งเต้นจ่ายให้ตำรวจไซเบอร์ 3 แสนบาท และค่าดำเนินการส่วนตัว 4.5 แสนบาท ไม่ให้ทำคดีที่ผู้เสียหายไปแจ้งความเป็นคดีแรก โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวนและเตรียมฝากขังวันจันทร์ที่ 18 พ.ย. ส่วนคดีเรียกรับอื่นๆไม่ว่าจะเป็นคดีเรียก 10 ล้านบาท อ้างเป็นค่าเยียวยาเหยื่อ ดิ ไอคอน กรุ๊ป และร่วมกับ “ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” เรียกอีก 20 ล้านบาท ค่าออกรายการดังช่อง 3 รวมทั้งคดีอ้างชื่อดูแล น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยันพ่อ จนผู้ถูกพาดพิงต้องเข้าแจ้งเป็นคดีความอยู่ระหว่างการสอบสวนของตำรวจกองปราบฯ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
...
ความคืบหน้าหลัง “เจ๊พัช” ถูกจับกุมเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 17 พ.ย. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) บรรยากาศช่วงเช้าวันนี้ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ยังคงถูกคุมอยู่ภายในห้องควบคุมกองปราบปราม หลังถูกสอบปากคำตั้งแต่ช่วงเย็นเสร็จจนถึง 5 ทุ่ม โดยเมื่อคืน น.ส.กฤษอนงค์มีท่าทีอ่อนเพลียก่อนจะนอนหลับในห้องขัง พอตอนเช้าวันนี้ได้ตื่นตามปกติจากนั้นมานั่งมุมห้อง ลักษณะคล้ายกับนั่งสมาธิ มีท่าทีนิ่งๆไม่ได้มีท่าทีกระวนกระวายรวมทั้งไม่ได้ร้องขออะไรเป็นพิเศษ ส่วนอาหารมื้อเช้า เจ้าหน้าที่หน้าห้องควบคุมสั่งอาหารเป็นข้าวคลุกกะเพราไก่ เจ้าตัวสามารถทานได้ตามปกติ และช่วงเช้าวันนี้ยังไม่มีญาติหรือคนใกล้ชิด น.ส.กฤษอนงค์ มาติดต่อขอเข้าเยี่ยม
ขณะที่ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก.เปิดเผยว่า หลังการสอบปากคำ น.ส.กฤษอนงค์นานกว่า 5 ชั่วโมง น.ส.กฤษอนงค์ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและไม่ให้การใดๆ แต่จะขอให้การเป็นเอกสารในภายหลัง ทำให้ในวันนี้พนักงานสอบสวนไม่ต้องเบิกตัวออกจากห้องควบคุมมาสอบปากคำเพิ่มเติม เนื่องจากไม่มีประเด็นสอบอะไรเพิ่มเติม ในวันพรุ่งนี้ 18 พ.ย.จะนำตัวฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและข่มขู่พยาน
ส่วนข้อหาที่แจ้งดำเนินคดีกับ น.ส.กฤษอนงค์ โดยเฉพาะข้อหาเป็นตัวกลางเรียกทรัพย์สินบน พล.ต.ต.สุวัฒน์กล่าวย้ำว่า พฤติการณ์ทางคดีที่เสนอขอหมายจับต่อศาล นอกจากจะพบมีการข่มขู่กรรโชกทรัพย์จากกลุ่มบอสดิ ไอคอน 750,000 บาท เพื่อเป็นค่าดำเนินการแลกกับการไม่พาผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์ และไม่เปิดโปงเรื่องราวของบริษัทให้เสียหายเมื่อกลางปีที่ผ่านมาแล้ว จากพยานหลักฐานยังพบถ้อยคำที่กล่าวอ้างว่า จะจ่ายเงินให้กับหน่วยงานรัฐหน่วยงานหนึ่งด้วยในลักษณะของการเป็นตัวกลาง ดังนั้น เมื่อแจ้งข้อหาเกี่ยวกับการทุจริตทำให้คดีดังกล่าวอยู่ในเขตอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
รอง ผบช.ก.กล่าวต่อว่า สำหรับคดีอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับ น.ส.กฤษอนงค์ รวมไปถึงคดีที่เกี่ยวข้องกับฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ เรื่องคลิปเสียงพยายามเรียกรับผลประโยชน์ 20 ล้านบาทกับบอสปัน แลกกับการไปออกรายการโหนกระแสนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. จะเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวน เพื่อหารือเกี่ยวกับคดีนี้ในวันพรุ่งนี้ (18 พ.ย.)
ต่อมาเวลา 12.10 น. ได้มีผู้ชายคนติดตาม น.ส.กฤษอนงค์ นำกาแฟ 2 แก้ว เข้าเยี่ยมที่ห้องคุมขัง จากนั้นมีคนใกล้ชิดผู้หญิงอีก 1 คน มาเข้าเยี่ยม ทั้ง 2 คนใช้เวลาเข้าเยี่ยมประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง ก่อนจะถือถุงข้าว 2 ถุงเดินออกมา ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงสภาพจิตใจ น.ส.กฤษอนงค์ว่าเป็นอย่างไร ชายคนดังกล่าวตอบว่า “พี่พัชยังโอเคครับ และไม่เรียกร้องหรือขออะไรเป็นพิเศษ แค่นำกาแฟมาเยี่ยมเฉยๆ” เมื่อถามอีกว่า น.ส.กฤษอนงค์ มีอาการเครียดหรือไม่ ชายคนดังกล่าวตอบว่า “กินข้าวไม่ได้” และเมื่อถามถึงแนวทางการต่อสู้คดีหรือการประกันตัวในชั้นศาลพรุ่งนี้ (18 พ.ย.) ได้รับคำตอบว่า “ผมไม่ใช่ทนายความ” ก่อนรีบเดินขึ้นรถกลับทันที
วันเดียวกัน มีรายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งให้ทีมสืบสวน บช.ก.ตรวจสอบพฤติกรรม น.ส.กฤษอนงค์ หรือเจ๊พัช สุวรรณวงศ์ ตั้งแต่เริ่มร้องเรียนดิ ไอคอน กรุ๊ป และการแอบอ้างตำรวจผู้ใหญ่ใน บช.ก. แนวทางสืบสวนพบว่า ตั้งแต่เดือน พ.ค.65 น.ส.กฤษอนงค์ หรือ “พัช กฤษอนงค์ต้านโกง” เป็นประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ รวมทั้งเปิดเพจกฤษอนงค์ต้านโกง/กฤษอนงค์ online/ศคอ. ศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ ให้ความรู้คำแนะนำรับเรื่องราวร้องทุกข์ประสานงานหน่วยงานภาครัฐและภาคีเครือข่ายบูรณาการเพราะมีชื่อเสียงในวงการแชร์ลูกโซ่มานาน รวมทั้งเป็นผู้ก่อตั้งองค์การต่อต้านแชร์ลูกโซ่อีกด้วย
...
ทั้งนี้ ชุดสืบสวน บช.ก. ได้สอบปากคำพยานสำคัญคนหนึ่งคือนายชนะชล (สงวนนามสกุล) อดีตผู้ร่วมงานกับเจ๊พัช ทราบว่า เคยเป็นนักเรียนพลตำรวจรุ่นเดียวกับอดีตสามีเจ๊พัช ปัจจุบันเป็นผู้กำกับอยู่ใน บช.ภ. 3 ส่วนนายชนะชลลาออกจากตำรวจตั้งแต่ยศ ส.ต.ท. จากนั้นมาร่วมทำงานให้เพื่อนนายตำรวจกับเจ๊พัช ขณะนั้นทั้งคู่ยังอยู่กินด้วยกันมีลูกด้วยกัน 2 คน นายชนะชลรับหน้าที่คอยเดินสายร้องเรียนบริษัทต่างๆที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายความผิด โดยเฉพาะ บ.ดิ ไอคอน กรุ๊ป จะคอยร้องเรียนมาตลอด
ส่วนกรณีเจ๊พัชนำกลุ่มผู้เสียหายจำนวนหนึ่งเข้าพบตำรวจ บก.ปคบ.ขณะนั้นยังอยู่กินกับอดีตสามีสังกัด ปคบ.อยู่ นายชนะชลร่วมนำผู้เสียหายมาด้วยเพื่อร้องเรียนบริษัทดิ ไอคอน กรุ๊ป แต่คดีไม่มีความคืบหน้าทำให้ถูกกล่าวหาว่าเหตุที่ไม่คืบหน้าเพราะมี “ตำรวจผู้ใหญ่เข้ามาแทรกแซง” จากการให้ปากคำของนายชนะชลระบุว่า เรื่องที่พาดพิงตำรวจผู้ใหญ่ใน บช.ก.เข้ามาแทรกแซง เป็นเพราะเจ๊พัชและอดีตสามีตำรวจให้พูด จากสาเหตุเพราะเมื่อผู้เสียหายถามกันมากเข้าเจ๊พัชและสามี เลยกล่าวอ้างพาดพิงนายตำรวจผู้ใหญ่นายหนึ่งของ บช.ก.ออกไป นอกจากนี้ นายชนะชลยังให้การว่าที่ผ่านมาได้รับคำสั่งให้ร้องเรียนอย่างเดียว ไม่ทราบรายละเอียดใดๆทั้งสิ้น ส่วนที่เหลือจากนี้จะเป็นหน้าที่เจ๊พัช แต่ไม่ทราบว่าจะไปดำเนินการต่ออย่างไรบ้าง
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่