หนุ่ม-กรรชัย โร่พบ บิ๊กเต่า เอาผิด 2 นักตบทรัพย์ 20 ล้าน ออกทีวีฟอกขาว ดิ ไอคอน

“หนุ่ม-กรรชัย” แฉคลิปใหม่ นักร้องสาวสุดแสบ แอบอ้างซี้ “น้ำ-จิราพร สินธุไพร” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ มีอำนาจสั่งการ สคบ.ทั้งหมด ไปตีกินบอสดิ ไอคอนฯ กล้าพูดต้องเอาเงินไปดูแลถึงพ่อ รมต. ทั้งที่ไม่มีมูลความจริง รมต.สาวเดือด ยันไม่เคยรู้จักมาก่อน แถมเอาพ่อมาอ้าง เตรียมแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ทนายบอสพอลได้ฟังยังตกใจ ยันไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีคลิปนี้ ถึงบางอ้อทำไมลูกความถึงกลัวนักร้องเรียนสาวรายนี้ “อี้-แทนคุณ” แฉฟิล์มหลอกเหยื่อใน จ.ตรัง เทรดเงินจนสูญเงิน 60 ล้านบาท เหมือนคดีฟอเร็กซ์ ปูดบริษัทพลังงานใน จ.ราชบุรี ก็โดนด้วย แต่คดียังอยู่ในกระบวนการของตำรวจ ด้าน หนุ่ม-กรรชัย เดินทางเข้าให้การเอาผิด “เจ๊พัช-ฟิล์ม รัฐภูมิ” กับตำรวจกองปราบฯแล้ว

การสืบสวนคลี่คลายคดีบริษัทดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด ดำเนินธุรกิจขายตรงเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ กล่าวหาหลอกให้ลงทุนและหาลูกข่ายมาเป็นสมาชิก สร้างความน่าเชื่อถือด้วยการนำดารานักแสดงชื่อดังมาร่วมโปรโมต หลังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เดินเครื่องสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา 18 คน ตั้งแต่นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล เจ้าของบริษัท นายยุรนันท์ หรือบอสแซม ภมรมนตรี น.ส.พีชญา หรือบอสมิน วัฒนามนตรี และนายกันต์ หรือบอสกันต์ กันตถาวร รวมถึงแม่ข่ายและผู้เกี่ยวข้อง คุมตัวฝากขังเข้าเรือนจำไปแล้วทั้ง 18 คน ต่อมาโอนสำนวนให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พิจารณาแจ้งข้อหากู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน หรือแชร์ลูกโซ่ และ พ.ร.บ.ขายตรงฯ เข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับ 18 บอสในเรือนจำแล้ว ต่อมาเรื่องราวบานปลายกลุ่มบอสดิไอคอน กรุ๊ป ร้องเรียนดำเนินคดีกับนักร้องเรียนและบุคคลหลายกลุ่มที่เข้ามารีดทรัพย์อีกหลายรายตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

...

หนุ่ม–กรรชัย ให้ปากคำตำรวจ

ความคืบหน้าจากศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 14 พ.ย. นายภูดิท กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม-กรรชัย พิธีกรชื่อดัง พร้อมทนายความเข้าพบ พ.ต.ท.สายยุทธ ยศคำ สว. (สอบสวน) กก.1 บก.ป. เพื่อให้ปากคำกรณีถูก น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือเจ๊พัช ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ และนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม-รัฐภูมิ ศิลปินนักร้องชื่อดัง พาดพิงในคลิปเสียงเพื่อแอบอ้างเรียกเงินจากกลุ่มผู้ต้องหาคดีดิ ไอคอนฯ เบื้องต้นเข้าให้การตำรวจทันทีโดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ

หนุ่ม–กรรชัยยันเอาเรื่องถึงที่สุด

ต่อมาเวลา 19.20 น. หนุ่ม-กรรชัย เผยหลังให้ปากคำว่า มาให้ปากคำกรณีคลิปเสียงฟิล์ม-รัฐภูมิ และ น.ส.กฤษอนงค์ พูดคุยกับบอสปัน มีการกล่าวอ้างพาดพิงชื่อตนเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท เพื่อออกรายการโหนกระแส ใช้ถ้อยคำประมาณว่า สามารถเขียนบทหรือเขียนสคริปต์รายการให้บอสพอลได้และกล่าวอ้างอีกว่า ตนเปิดทางให้แล้ว สามารถชี้ผิดให้เป็นถูกได้ ทุกสิ่งที่พูดในคลิปเป็นการหมิ่นประมาทตน และโกหกหลอกลวงคนอื่นเพื่อกรรโชกทรัพย์ เบื้องต้นแจ้งดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทก่อน หากเอาผิดข้อหาอื่นได้จะดำเนินการทุกเรื่องให้ถึงที่สุด

ชาวบ้านกินข้าวไม่ได้กินหญ้า

ถามว่า นอกจากคลิปเสียงที่เรียกรับเงินกับบอสปันแล้ว ยังมีคลิปเสียงที่กล่าวอ้างถึงรัฐมนตรีท่านหนึ่งด้วย วันนี้นำมามอบให้ตำรวจหรือไม่ หนุ่ม-กรรชัย กล่าวว่า ในส่วนนี้ต้องให้รัฐมนตรีคนดังกล่าวเป็นคนดำเนินการเอง ส่วนตัวส่งคลิปให้กับท่านรัฐมนตรีแล้ว ยืนยันว่าภายหลังแจ้งความแล้ว ตนไม่ได้ติดต่อกับฟิล์ม-รัฐภูมิ แต่ก่อนแจ้งความ 1 วันโทรศัพท์หาฟิล์มไปแล้วถึง 3 ครั้ง เพื่อถามข้อเท็จจริง แต่ฟิล์มยืนยันว่าไม่ได้กระทำเป็นคลิปตัดต่อ ทั้งที่หวังให้ฟิล์มพูดความจริง ตนจะไม่เผยแพร่คลิปในมือ จะให้โอกาสเจ้าตัวออกมาชี้แจงสังคม หลังจากนี้ตัวฟิล์มจะออกมาพูดอะไรก็เป็นส่วนของตัวเขา “อยากพูดอะไรก็เชิญ แต่ผมคิดว่าประชาชนรวมถึงผมเองไม่ได้กินหญ้า ทุกคนกินข้าว ไม่ใช่ควาย เรามีสมอง มีสามัญสำนึกและวุฒิภาวะ รู้ได้ว่าอะไรคืออะไร สิ่งที่ออกมาพูดคุณจะกลายเป็นตัวตลกด้วยซ้ำ”

จะเรียกค่าเสียหายเกิน 20 ล้านบาท

หนุ่ม-กรรชัยกล่าวด้วยว่า ตนไม่ชอบคนที่อาศัยจุดอ่อนคนอื่นเพื่อผลประโยชน์ อยากให้ทุกคนที่ถูกบุคคลเหล่านี้กระทำออกมาร้องทุกข์เพิ่ม ไม่ต้องอาย อย่าปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในสังคม สำหรับเรื่องเรียกค่าเสียหาย สำหรับตนเชื่อว่าชื่อเสียงของตนที่เสียไปไม่ใช่แค่ตัวเลข 20 ล้านบาท เพราะทำงานมานานและมีมูลค่ามากกว่านั้น หากจะเรียกต้องมากกว่า 20 ล้านบาท ที่ผ่านมาตนและทีมงานรายการโหนกระแสถูกนำชื่อไปอ้างและหลอกลวงประชาชนมาเยอะ แต่ไม่คิดว่าจะถูกนำไปหลอกเอาเงินมูลค่าขนาดนี้

ทนายพอลให้การถูกรีดทรัพย์

เวลา 16.50 น. นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความ บอสพอล เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อนำข้อมูลมามอบให้เพิ่มเติม หลังจากเข้าไปเยี่ยมบอสพอลในเรือนจำ พร้อมทั้งให้ข้อมูลใหม่หลังปรากฏคลิปที่นักร้องเรียนหญิงแอบอ้าง น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายก รัฐมนตรี (รมต.น้ำ) เพื่อตบทรัพย์บอสพอล นายวิฑูรย์ เผยว่า วันนี้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำ 3 ประเด็นหลัก ประเด็นแรกคือ เรื่องไทม์ไลน์การจ่ายเงินก้อนแรก 300,000 บาท และก้อนที่สอง 450,000 บาท ก้อนแรกจ่ายเป็นเงินสดและก้อนที่ 2 โอนเข้าบัญชี

ตกใจกล้าอ้าง รมต.หญิง

“ประเด็นที่ 2 คือคลิปเสียงที่นักร้องเรียนหญิงพาดพิงถึงรัฐมนตรีน้ำ เรื่องดังกล่าวตนรู้สึกตกใจที่คลิปนี้หลุดออกมา นักร้องเรียนหญิงยังอ้างว่า รัฐบาลไม่ได้จ่ายเงินให้ตน แต่ตนเองกลับเป็นคนต้องจ่ายเงินให้พ่อของรัฐมนตรี จึงเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่ทำให้บอสพอลต้องจ่ายเงินให้นักร้องเรียนหญิงคนดังกล่าว ก่อนหน้านี้ตนยังสงสัยอยู่ว่าทำไมต้องจ่ายเงินให้นักร้องเรียนหญิงคนนี้ แต่เมื่อมีคลิปนี้ออกมาจึงเข้าใจ และประเด็นที่ 3 กรณีจ่ายเงินให้ผู้เสียหายบางรายจะใช่ผู้เสียหายตัวจริงหรือไม่ เนื่องจากบางคนนำของไปขายและกินหมดแล้ว แต่ยังไปหา น.ส.กฤษอนงค์ (นักร้องเรียนหญิง) อ้างว่าเป็นผู้เสียหายและมาเรียกรับเงินกับบอสพอล” ทนายวิฑูรย์กล่าว

...

เข้าใจทำไมบอสพอลถึงกลัว

นายวิฑูรย์กล่าวอีกว่า กรณีคลิปเสียงที่แอบอ้างถึงรัฐมนตรีน้ำ คาดว่าจะเกิดขึ้นก่อนเดือน ต.ค. ก่อนหน้านี้แจ้งความข้อหากรรโชกทรัพย์กับนักร้องเรียนหญิงคนนี้ไว้เพียงข้อหาเดียว แต่หลังจากมีคลิปเสียงปรากฏออกมาก็ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนว่าจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอย่างไรหรือไม่ ส่วนตัวไม่เคยรู้เรื่องคลิปเสียงนี้มาก่อนและบอสพอลก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องดังกล่าวมาก่อน ที่ผ่านมาบอสพอลกังวลใจว่า น.ส.กฤษอนงค์จะมีเส้นสายใน สคบ.หรือไม่ แต่เมื่อเห็นคลิปนี้จึงเข้าใจว่าทำไมบอสพอลถึงกังวลใจ เรื่องดังกล่าว

ยันไม่ดำเนินคดี “สามารถ” แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ทนายวิฑูรย์กล่าวว่า ที่บอสพอลไม่ได้ดำเนินคดี ไม่ใช่การเปลี่ยนใจภายหลัง แต่มีจุดประสงค์ไม่ดำเนินคดีตั้งแต่แรก เพราะเป็นเพื่อนกัน สนิทสนมกันระดับหนึ่ง ที่สำคัญถึงแม้มีคลิปเสียงของนายสามารถออกมา แต่บอสพอลไม่ได้จ่ายเงินให้แต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดจึงไม่เปิดเผยเรื่องนี้ตั้งแต่แรกและคลิปเสียงนายสามารถออกมา นายวิฑูรย์ยอมรับว่าเป็นความผิดของตนเอง ที่รู้ข้อมูลนี้อยู่แล้วแต่ไม่ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนตั้งแต่แรก ยอมรับว่ารู้สึกเห็นใจนายสามารถที่ต้องสูญเสียตำแหน่งทางการเมืองไปจนหมดสิ้น

แจงบอสปัน อนุญาตเปิดคลิป

วันเดียวกัน รายการ “โหนกระแส” ทางช่อง 3 มีการนำเสนอภาคต่อของเรื่องราวฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ และเจ๊พัช-กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ที่กำลังเป็นประเด็นว่า เรียกร้องเงิน “บอสปัน” หรือ น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร คดีดิ ไอคอน 20 ล้านบาท เพื่อมาฟอกขาวในรายการโหนกระแส เริ่มต้น หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกร กล่าวว่า ตนได้ยินเรื่องราวว่ามีการแอบอ้างเรียกร้องเงิน 20 ล้านบาทเพื่อมาออกรายการก่อนหน้านี้แล้ว เพียงแต่ยังไม่มีหลักฐาน จนเมื่อได้คลิปเสียงมาจึงโทร.หาฟิล์ม ซึ่งฟิล์มปฏิเสธว่าไม่ได้ตบทรัพย์ อ้างว่าเป็นค่าจ้างทำงานพาไปออกรายการต่างๆ ตนจึงตัดสินใจเปิดคลิปเสียงหลักฐานสำคัญในรายการโหนกระแส หลังได้รับอนุญาตจากบอสปันแล้ว

...

แฉอีกคลิปอ้าง รมต.คุม สคบ.

ทนายอ๋อง-วิฑูรย์ เก่งงาน มาออกรายการฐานะตัวแทนบอสปัน กล่าวว่า บอสปันแจ้งกับตนว่า ให้ดำเนินคดีในเรื่องนี้ ตนจะคิดข้อหาให้พยายามฉ้อโกง เพราะไม่ได้มีการชำระเงิน 20 ล้านไป โทษ 2 ใน 3 ของ 3 ปี ในรายการยังเปิดคลิปเสียงระหว่างบอสพอลกับผู้หญิงคนหนึ่งอ้างว่าทำงานให้กับ รมต.น้ำ ให้อำนาจคุม สคบ.และยังบอกอีกด้วยว่า ให้เงินแก่พ่อของ รมต.น้ำ จากนั้นทางรายการต่อสายคุยกับ รมต.น้ำ หรือนางจิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธข้อกล่าวอ้างของผู้หญิงในคลิปเสียงว่า ตนให้ดาบในการดูแล สคบ. ยืนยันว่าเป็นความเท็จร้อยเปอร์เซ็นต์ ตนไม่เคยแต่งตั้งหรือรับผู้หญิงคนนี้มาเป็นคณะทำงาน และไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้เป็นการส่วนตัว จากนี้จะดำเนินคดีด้วย

“ฟิล์ม” ถูกกล่าวหาอีกคดี

หลังจากนั้นรายการเปิดอีกหนึ่งคลิป นักธุรกิจความงาม เอก-ณกรณ์ กรณ์หิรัญ อดีตผู้บริหารวุฒิศักดิ์คลินิก ออกมาแฉในโลกออนไลน์ว่า คนที่ตนรู้จักคนหนึ่งอยู่ในวงการธุรกิจความงามโดนดาราที่กำลังเป็นข่าวอยู่ตอนนี้เรียกรับเงิน 68 ล้านบาท แต่เนื่องจากไม่มีเงินให้ขนาดนั้นจึงให้ไป 5 ล้านบาท ตนขอให้ดาราคนดังกล่าวเอาเงิน 5 ล้านบาทไปคืนภายใน 7 วัน ตนมีข้อมูลหลักฐานพร้อม จากนั้นทางรายการได้โทร.พูดคุยกับเอกยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวเป็นความจริง เกิดเมื่อ 1-2 ปีที่แล้ว ตอนแรกเรียกเงิน 5 ล้านบาท แต่ต่อมาแจ้งว่าผู้ใหญ่ที่จะช่วยขอเงิน 68 ล้านบาท

“จิราพร” งงไม่รู้จักคนแอบอ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโหนกระแส กรณีมีคลิปเสียงแอบอ้างว่าได้รับอำนาจเบ็ดเสร็จในสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สบค.) ว่า ได้ฟังรู้สึกงงและตกใจเล็กน้อยแต่ไม่มาก เพราะรายละเอียดในคลิปทราบอยู่แล้วว่า ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ผู้ดำเนินรายการถามว่า มีคนอ้างว่า น.ส.จิราพรให้อำนาจเบ็ดเสร็จใน สคบ. น.ส.จิราพรกล่าวว่า รายละเอียดในคลิปที่แอบอ้างว่าตนให้เป็นคณะทำงานให้ดาบให้แสงทำได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นเท็จ 100 เปอร์เซ็นต์ ตนไม่เคยตั้งบุคคลที่แอบอ้างเป็นคณะทำงาน ไม่เคยประสานงานขอข้อมูลประกอบการทำงานใดๆทั้งสิ้น

...

ฉุนเอาพ่อมาอ้าง

“เท่าที่ฟังในคลิปบอกด้วยว่า ทำงานฟรีเงินเดือนไม่ได้แล้วเอาเงินเดือนมาให้เราอีก อ้างไปถึงคุณพ่อ (นายนิสิต สินธุไพร) หากใครติดตามการเมืองมาจะทราบว่า คุณพ่อไม่อยู่ในสถานะที่จะทำงานการเมืองหรืองานอะไรได้ ไม่ว่าจะติดต่อคุณพ่อหรือใครใดๆ ชัดเจนว่าเป็นข้อมูลเท็จ เพราะไม่เคยให้ใครไปติดต่อ หรือให้เขามาทำงานให้ หรือรับประโยชน์จากเขาอยู่แล้ว ไม่มีแน่นอน และไม่ใช่เฉพาะกรณีนี้ ทุกกรณีมีการแอบอ้างหลายครั้งว่า เป็นคณะทำงาน เป็นทีมงานไปเรียกรับผลประโยชน์ มีคนมาเตือนอยากให้ระมัดระวัง ไม่ว่าใครจะแอบอ้างว่าเป็นทีมงานทำงานอะไรต่างๆเรียกรับประโยชน์ ขอให้ทราบว่าเป็นการแอบอ้าง ไม่เคยมีนโยบายให้ใครไปหาประโยชน์เข้าตัวเอง แต่ถ้าเป็นการประสานงานเพื่อให้ข้อมูลเพื่อประโยชน์กับการทำงาน ยินดีมาก ขออย่าหลงเชื่อ” น.ส.จิราพรกล่าว

เตรียมแจ้งความเอาผิดแน่

ถามว่ารู้จักผู้หญิงที่มีอ้างถึงหรือไม่ น.ส.จิราพรกล่าวว่า ไม่รู้จัก เพิ่งมารู้จักตอนที่เป็นข่าวดิ ไอคอน ผู้ดำเนินรายการถามว่า แสดงว่า น.ส.จิราพร รู้ว่าเขาเป็นใครใช่หรือไม่ น.ส.จิราพรตอบว่าที่รู้เพราะทีมงานรายงานให้ทราบ เพราะประสานสอบถามมา ตนต้องถามกลับไปว่าเป็นใคร เพราะตนประสานหลายส่วน ถ้าบอกว่าเป็นใครตนจะได้ตอบคำถามได้ว่า ใช่หรือไม่ หากเป็นบุคคลที่หลายคนสงสัยอยู่ไม่ใช่ทีมงานแน่นอน ผู้ดำเนินรายการกล่าวว่า ในฐานะคนไทยคนหนึ่งอยากเรียกร้องให้ น.ส.จิราพรแจ้งความร้องทุกข์เอาผิดคนที่นำชื่อไปแอบอ้างเพื่อเป็นเยี่ยงอย่าง น.ส.จิราพร กล่าวว่า แน่นอน ขณะนี้ให้ฝ่ายกฎหมายนำคลิปเสียงมาตรวจสอบว่า จะผิดกฎหมายประเด็นใดบ้าง ถ้าได้ข้อมูลครบถ้วนจะดำเนินคดีต่อไป เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคดีที่อยู่ในหน่วยงานที่เราดูอยู่ กรณีนี้หากทำให้ประชาชนสงสัยต้องปกป้องตัวเองเพื่อให้เกิดความกระจ่างแก่ประชาชน

“จิราพร” พร้อมให้ข้อมูลดีเอสไอ

ที่ จ.อุดรธานี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์อีกว่า ตอนนี้ให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบคลิปเสียง และข้อเท็จจริงเพื่อแจ้งความดำเนินคดี ถ้าตรวจสอบแล้วพบว่าคดีนี้มีข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์กับการสืบสวนคดีดิ ไอคอนก็ยินดีที่จะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สอบสวน และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงต่อไป ยืนยันว่า เราเดินหน้าตรวจสอบอย่างเต็มที่ หากเกี่ยวโยงไปที่ใคร ไม่ว่าหน้าไหนก็ไม่เว้น ส่วนกรณีที่มีคลิปเสียงตบทรัพย์ถือเป็นอีกประเด็นนึง ไม่ว่าจะมีการตบทรัพย์หรือไม่ จะไม่ทำให้การตรวจสอบคดีดิ ไอคอนเปลี่ยนแปลงไป

เทวดา สคบ.ยังสอบสวนอยู่

ถามว่าส่วนตัวรัฐมนตรีเคยเจอกับนักร้อง ก.หรือไม่ น.ส.จิราพรกล่าวว่า ยืนยันว่าไม่รู้จักนักร้องดังกล่าวเป็นการส่วนตัว ไม่เคยคุย ไม่เคยประสานงาน ไม่เคยเชิญมาทำงานทั้งทางตรงและทางอ้อม และไม่เคยถ่ายรูปด้วย หากจะพบกันในที่สาธารณะแล้วเขามาขอถ่ายรูปตนจำไม่ได้ ถามว่าสอบถามทีมงานหรือไม่ว่ารู้จักผู้หญิงคนดังกล่าวหรือไม่ น.ส.จิราพร กล่าวว่า เรื่องนี้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯที่กำกับดูแล สคบ.แต่งตั้งคณะกรรมการ สอบสวนข้อเท็จกรณีเทวดาใน สคบ.จะตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย ถามว่า ตกใจหรือไม่อยู่ดีๆมีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้อง น.ส.จิราพรกล่าวว่า งงมากกว่า แต่พอเยอะขึ้นรู้สึกเริ่มโมโหเหมือนกัน

หลอกเทรด 60 ล้านเหมือนฟอเร็กซ์

ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม กล่าวถึงกรณีเปิดเผยข้อมูลนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม ศิลปินชื่อดัง และพี่ชายหลอกประชาชน จ.ตรัง ลงทุนเทรดหุ้นดูไบ 60 ล้านบาทว่า นายรัฐภูมิและพี่ชายไปเชิญคนมาลงทุนคล้ายกรณีฟอเร็กซ์ (Forex) ให้ผู้เสียหายจ่ายเงินสด 20 ล้านบาท ส่วนที่เหลือให้ผู้เสียหายไประดมทุนมา ปรากฏว่าการเทรดไม่มีอยู่จริง ฝั่งนายรัฐภูมิระบุว่า เทรดแล้วแต่ผิดพลาด ภายหลังผู้เสียหายพบว่า เอาเงินที่เทรดแบ่งกันเอง คนในกลุ่มบางคนรู้สึกผิดเอาเงินไปคืนผู้เสียหายเพราะไม่อยากเป็นคดีกว่า 20 ล้านบาท กรณีนี้ไปหลอกแม่ผู้เสียหายไปถ่ายรูปถึงบ้าน แม่ผู้เสียหายก็ปลื้มไปเชิญคนมาลงทุน 60 ล้านบาท บอกจะได้กลับมา 300 ล้านบาท ไม่คิดว่าสุดท้ายจะไม่ได้อะไรกลับมา ไม่มีเงินปันผล ติดตามทวงถามเป็นปีนำไปสู่การฟ้องดำเนินคดี กำลังตรวจสอบว่า คนที่ร่วมเดินทางในเครื่องบินไปเอาเงินสดวันนั้นมีใครบ้าง มีผู้บริหารบริษัทเกี่ยวกับแอปพลิเคชันที่นายรัฐภูมิเคยทำงานอยู่ ผู้เสียหายตั้งข้อสังเกตบริษัทดังกล่าวมีปัญหา ต้องนำเงินส่วนนี้ไปโปะหรือไม่

ปูดบริษัทพลังงานโดนด้วย

ถามว่าตามใบแจ้งความ ผู้ถูกกล่าวหาคือพี่ชายนายรัฐภูมิ ความผิดจะมาถึงนายรัฐภูมิหรือไม่ นายแทนคุณตอบว่า ถ้ารู้เห็นเป็นใจตั้งแต่แรกถือเป็นตัวการร่วมหรือไม่ เพราะพูดคุยกันตั้งแต่ต้น ไม่ใช่รายนี้แค่รายเดียว ยังมีบริษัทพลังงานแห่งหนึ่งใน จ.ราชบุรี ติดต่อมาว่า โดนคล้ายๆกัน ไม่ได้ตบทรัพย์ ชวนมาลงทุนเกี่ยวกับพลังงานสะอาด จัดอีเวนต์ระดมทุน แต่สุดท้ายไม่มีอยู่จริง ขณะนี้ยังพูดอะไรมากไม่ได้ เรื่องอยู่ในกระบวนการ หากตำรวจส่งฟ้องอัยการคงพูดได้มากขึ้น ส่วนที่นายรัฐภูมิระบุว่า ทำบริษัทเกี่ยวกับพีอาร์ แสดงว่าไม่ได้ทำจริงหรือไม่ อาจเป็นลักษณะไปช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้บริษัทต่างๆ นายรัฐภูมิเป็นที่รู้จัก บางทีมีบริษัทลักษณะนี้ชวนลงทุนขายตรง ชวนศิลปินมีชื่อเสียงไปร่วมอีเวนต์ต่างๆ ฝากถึงคนที่ใช้ภาพลักษณ์ชื่อเสียงตัวเองทำให้ผู้เสียหายตายใจ คิดว่าไม่ยั่งยืน เป็นเงินบนความทุกข์ผู้อื่น ไม่ว่านายรัฐภูมิหรือใครถ้ามีเงินคืนผู้เสียหาย อยากให้คืน เงินหรือรถที่ได้มา ตายไปก็เอาไปไม่ได้ แต่บุญบาปจะติดตามตัวไปตลอดชีวิต

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่