กระทรวงอุตสาหกรรม เติมกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีฯ อัดฉีด 10 ล้าน ปั้น SME ไทย สู่ยุคดิจิทัล-ยั่งยืน เพิ่มรายได้-ลดต้นทุน-รักษาสิ่งแวดล้อม

กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ โดยกระทรวงอุตสาหกรรม เดินหน้า 2 โครงการสำคัญ มุ่งพัฒนา SME ไทยกว่า 200 ราย สู่ยุคดิจิทัลและความยั่งยืน ด้วยงบประมาณรวม 10 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับ  ขีดความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มรายได้ ลดต้นทุน และรักษาสิ่งแวดล้อม ผ่านการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ และปรับปรุงกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นางสาวณิรดา วิสุทธิชาติธาดา ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ เปิดเผยว่า SME ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 35 ของ GDP ประเทศ และมีสัดส่วนการจ้างงานสูงถึงร้อยละ 72 แต่ในยุคที่โลกหมุนเร็วด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล SME ไทยต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวให้ทันต่อเทรนด์ การเข้าถึงแหล่งทุน และการพัฒนาธุรกิจให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การนำของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนา SME ไทย จึงได้ประกาศเดินหน้า 2 โครงการผ่านกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ที่มีนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐกำกับดูแล โดยทุ่มงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท เพื่อผลักดัน SME ไทย กว่า 200 ราย ให้ก้าวสู่ยุคดิจิทัลและความยั่งยืน โดยมีเป้าหมายหลักคือ การเพิ่มรายได้ ลดต้นทุน และรักษาสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย โครงการแรก “พัฒนาธุรกิจด้วยดิจิทัลสู่การเปลี่ยนแปลงวิถีใหม่ (Digital Transformation)” มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการทางธุรกิจ ตั้งเป้าหมายช่วยเหลือ SME 100 ราย ในสาขาอุตสาหกรรม S-Curve ดิจิทัล เกษตรแปรรูป อาหารแปรรูป แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ รวมถึงอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยมีกิจกรรมหลัก ได้แก่  1.ให้คำปรึกษาเชิงลึก แนะนำการปรับปรุงและเตรียมความพร้อมก่อนนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ เพื่อเพิ่มรายได้หรือลดต้นทุน 2.สนับสนุนด้านเงินทุน ให้คำปรึกษาเพื่อยื่นขอสินเชื่อจากกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ หรือแหล่งเงินทุนอื่นๆ 3.พัฒนาบุคลากร จัดฝึกอบรมให้ความรู้เจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม เกี่ยวกับ Digital Transformation โดยโครงการนี้คาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อมรวมกว่า 54 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนความคุ้มค่าต่อต้นทุน (Cost Benefit Ratio) ถึง 8.4 เท่า โดยโครงการนี้ใช้งบประมาณ 5 ล้านบาท ดำเนินการทั่วประเทศ ตั้งแต่ ตุลาคม 2567-มีนาคม 2568

ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม

โครงการที่ 2 คือ โครงการ “ยกระดับประสิทธิภาพการผลิตอย่างยั่งยืน (Sustainable Productivity)” มุ่งเน้นปรับปรุงกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยตั้งเป้าหมายช่วยเหลือ SME 100 ราย ในสาขาอุตสาหกรรม S-Curve ดิจิทัล เกษตรแปรรูป อาหารแปรรูป แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ และอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่มีการใช้พลังงานสูง โดยมีกิจกรรมหลัก 4 ด้าน คือ 1.ให้คำปรึกษาเชิงลึก แนะนำการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ยั่งยืน 2.สนับสนุนด้านเงินทุน ช่วยเหลือ SME ให้เข้าถึงสินเชื่อ 3.พัฒนาบุคลากร อบรมพนักงานในสถานประกอบการ และ 4.พัฒนาเจ้าหน้าที่ อบรมเจ้าหน้าที่กระทรวงฯ ให้เป็น Green Productivity Specialist โครงการนี้ใช้งบประมาณ 5 ล้านบาท ดำเนินการทั่วประเทศ ตั้งแต่ ตุลาคม 2567 - มีนาคม 2568 คาดว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่าย ด้านพลังงานและทรัพยากร เพิ่มรายได้ และขยายโอกาสทางการค้า คิดเป็นอัตราส่วนผลประโยชน์ต่อต้นทุน (Benefit to Cost Ratio) 1.6 เท่า คาดว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและทรัพยากร ได้ 5,000,000 บาท เพิ่มรายได้และส่วนแบ่งการตลาด 2,000,000 บาท ขยายโอกาสการค้าและการส่งออก 1,000,000 บาท 

ณิรดา วิสุทธิชาติธาดา ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
ณิรดา วิสุทธิชาติธาดา ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม

อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 โครงการ จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 ถึง มีนาคม 2568  สำหรับ SME ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และยื่นขอสินเชื่อได้ที่ https://i.industry.go.th หรือศึกษารายละเอียดได้ที่ www.thaismefund.com หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ สำนักงานกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด หรือธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ทั่วประเทศ