"ครูปรีชา" เอาด้วย แฉพฤติกรรม "ทนายดัง" อ้างเป็น DSI หลอกขอข้อมูลหวย 30 ล้านบาท พร้อมชี้ใครทำสิ่งไหนไว้ก็ต้องรับผลของการกระทำนั้นไป

วันที่ 1 พ.ย. 2567 นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา ได้เผยถึงเรื่องราวคดีความที่กำลังเกิดขึ้นกับทนายชื่อดังอยู่ในขณะนี้ โดยระบุว่า "ตนเองเคยพูดมาตลอด และจะขอย้ำอีกครั้งว่าไอ้ตั้มมันร้าย ส่วนตัวเคยถูกทนายตั้ม ซึ่งตอนนั้นเดินทางมาพร้อมทีมงาน 3 คน มาหาตนที่โรงเรียน ซึ่งตนกำลังสอนหนังสืออยู่ ก่อนจะอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่จาก DSI มาขอดูข้อมูลรายการสั่งซื้อลอตเตอรี่จากในโทรศัพท์ของครู

ตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าเป็นทนายของลุงจรูญ จึงได้เปิดข้อมูลในโทรศัพท์ให้ดู เพราะทนายตั้มในตอนนั้นอ้างว่าหากครูมีข้อมูลรายการสั่งซื้อลอตเตอรี่รวมถึงภาพถ่ายลอตเตอรี่ฉบับที่ถูกรางวัล ก็จะไปเจรจากับลุงจรูญให้ยอมมอบเงินทั้งหมดให้กับครู แต่ในขณะที่ครูส่งโทรศัพท์ให้ทนายตั้มดู กลับพบว่ามีทีมงานของทนายตั้มพยายามที่จะถ่ายรูปจากโทรศัพท์มือถือของครู จึงเริ่มเอะใจว่าจะไม่ใช่เจ้าหน้าที่จาก DSI จริง เมื่อขอดูบัตรประจำตัว ทนายก็ไม่ได้ส่งให้ดูโดยอ้างว่าไม่ได้เอามา และยังขู่อีกว่าหากตนไม่ให้ดูข้อมูลรูปถ่ายและรายการสั่งซื้อลอตเตอรี่การเจรจาทั้งหมดก็จะไม่เกิดขึ้น

กระทั่งเมื่อเริ่มขึ้นศาลในคดีหวย 30 ล้าน จึงได้รู้ว่าที่แท้ตั้มเป็นทนายฝั่งของลุงจรูญ คู่กรณีในคดีหวย 30 ล้าน ซึ่งการกระทำในลักษณะนี้ทนายดีๆ ไม่ทำกัน และตนเองก็ได้มีการเดินทางไปร้องมารยาททนายความที่สภาทนายความแห่งประเทศไทย แต่จนถึงตอนนี้เรื่องก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ

อีกเรื่องหนึ่งที่ไม่เคยบอกใคร คือหลังจากที่มีการต่อสู้คดีกันมาอย่างยาวนาน กระทั่งศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องลุงจรูญนั้น ทางทนายได้โทรศัพท์มาและเรียกตนเองให้ออกไปหาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองกาญจนบุรี ก่อนจะมีการพูดคุยให้ตนเองยอมจ่ายเงินจำนวน 2,500,000 บาท แลกกับการที่ลุงจรูญจะไม่ฟ้องดำเนินคดีกับครูปรีชา ส่วนตัวเองก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลก จึงได้ตัดสินใจไม่ได้จ่ายเงินดังกล่าวให้ไป แล้วจะไปขอเจรจาในชั้นศาลดีกว่า

...

ครูปรีชา ยังกล่าวอีกว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับทนายดังในตอนนี้ ตนเชื่อว่าเรื่องใดๆ ก็แล้วแต่ที่เกิดขึ้นล้วนเป็นผลมาจากการกระทำ ใครทำสิ่งไหนไว้ก็ต้องรับผลของการกระทำนั้นไป เหมือนอย่างที่กำลังเกิดขึ้นกับทนายในตอนนี้ ยันความจริงคือความจริง".