ผู้บังคับการฯ ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง "พ.ต.อ." แต่งเครื่องแบบจัดเต็มขึ้นเวที "ดิไอคอน" ขณะที่เจ้าตัวเผยประกอบธุรกิจขายตรง ไม่มีส่วนกับแชร์ลูกโซ่

จากกรณี แฟนเพจเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์วิดีโอ ขณะที่ "พ.ต.อ." แต่งเครื่องแบบขึ้นเวที "ดิไอคอน" พร้อมระบุข้อความว่า "บอสโปลิศ ชีวิตดี๊ดีที่ The icon เส้นทางความสำเร็จที่สำนักงานตำรวจให้ไม่ได้" จนกลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์นั้น

ล่าสุด วันที่ 24 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมายังตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับที่มีนายตำรวจยศ "พ.ต.อ." ของจังหวัดสระบุรีเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับทาง ดิไอคอนกรุ๊ป

ทางด้าน พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี เผยว่า พ.ต.อ. ที่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยนั้นคือ พ.ต.อ.สมคิด สาวิสัย รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี (สบ.7) ซึ่งในขณะนี้ได้เข้าไปรายงานตัวที่กองสอบสวนกลาง (กรุงเทพฯ) โดยหลังจากที่สื่อหลายๆ สำนักได้มีการเผยแพร่ข่าวออกมา โดยมีการกล่าวถึงรองผู้บังคับการจังหวัดสระบุรีที่ไปร่วมกิจกรรมของ ดิไอคอน ซึ่งทางตนเองได้เห็นแล้วนำเรียนต่อ ผบ.ตร. ผู้บังคับบัญชา ซึ่งทาง ผบ.ตร. ได้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว มีการเชิญตัวทางรองผู้การฯ ไปพบยัง สนง.กองปราบปรามแล้ว

ส่วนในขั้นตอนการดำเนินการของทางตนเองนั้น ได้ตั้งคณะกรรมการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แท้จริงขึ้นปรากฏว่า ในขณะที่ทาง พ.ต.อ. ได้ไปขึ้นเวทีนี้มีเจตนาอย่างไร หรือทำธุรกิจขายตรงอย่างไร โดยการตรวจสอบจะต้องตรวจสอบในเรื่องความผิดที่มันคาบเกี่ยวกับคดีอาญาหรือไม่ หรือการที่ทาง พ.ต.อ. กล่าวถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงาน

สำหรับการตรวจสอบ หากพบว่ามีความผิดในส่วนไหนก็จะดำเนินการในส่วนนั้นไป โดยได้ตั้งคณะกรรมการไว้เรียบร้อยแล้ว และให้รายงานผลภายใน 15 วัน ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นทราบว่าเกิดขึ้นในระหว่างที่ทาง พ.ต.อ. ปฏิบัติงานเป็นผู้กำกับสอบสวน ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว และจะต้องเป็นขั้นตอนของพนักงานสอบสวนระดับตำรวจที่จะต้องพิสูจน์กัน โดยตนเองไม่สามารถที่จะไปก้าวล่วงตรงนี้ได้ ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นช่วงก่อนหรือหลังอย่างไร

...

ทั้งนี้ หลังจากมีภาพข่าวออกมาตนเองก็ยังได้พูดคุยกับ รอง ผบก. ซึ่งท่านก็บอกกับตนเองว่า ที่ทำลงไปนั้นมีเจตนาที่จะทำธุรกิจขายตรง และทำยอดจนได้ไปเที่ยวต่างประเทศในช่วงนั้น แต่การพิสูจน์ทราบนั้นก็คงจะต้องเป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนและการสอบสวนทางกฎหมาย ซึ่งหลังจากการสอบสวนแล้วเป็นความผิดทางอาญา ก็ต้องดำเนินคดีอาญา ซึ่งการดำเนินคดีอาญาตอนนี้นั้นตนเองอาจจะต้องรายงานผลการสอบสวน ซึ่งคดีอาญาจะมีคณะทำงานของระดับตำรวจเขาทำงานอยู่แล้ว

ส่วนในเรื่องของความผิดทางวินัยนั้น จะมีลำดับชั้นอยู่ว่า วินัยร้ายแรง วินัยธรรมดา วินัยเล็กน้อย ซึ่งทุกการกระทำจะมีระดับความผิดเพราะฉะนั้น หลังจากตรวจสอบธุรกิจแล้ว ตามวินัยที่ตนเองจะต้องดำเนินการก็จะดำเนินการตามหน้าที่ ซึ่งจากคำชี้แจงของ พ.ต.อ. นั้นได้แจ้งว่าตนเองประกอบธุรกิจขายตรง ไม่ได้มีส่วนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่.