เขื่อนเจ้าพระยา คัมแบ็กจ่อระบาย 1,900 ลบ.ม./วินาที อีกครั้ง รับฝนเหนือ-น้ำทะเลหนุน เตือน 11 จังหวัดเตรียมรับมือ

วันที่ 23 ต.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน ออกประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 11 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 11 จังหวัด ประกอบด้วย จ.อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และ กรุงเทพมหานครฯ

เนื่องจาก สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) ได้ติดตามสถานการณ์สภาพอากาศพบลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นมาจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ร่องมรสุมผ่านภาคใต้ทำให้ประเทศไทยตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันออก ฝนตกหนักบางพื้นที่ ทาง สนทช.ประเมินสถานการณ์น้ำฝนตามการคาดการณ์กรมอุตุนิยมวิทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวัง ช่วงวันที่ 19-23 ต.ค. และช่วง 19-21 ต.ค. มีฝนตกหนักบริเวณจังหวัดอุทัยธานีถึง 191.6 มิลลิเมตร ทำให้น้ำในลุ่มสะแกกรังเพิ่มมากขึ้น

...

ปัจจุบันเขื่อนเจ้าพระยา ระบายอยู่ที่ 1,548 ลบ.ม./วินาที จากการคาดการณ์ของกรมชลประทานในอีก 1-7 วันข้างหน้า วันที่ 26 ต.ค. 2567 ที่สถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 1,900 ลบ.ม./วินาที และคาดการณ์ปริมาณ Sideflow ประมาณ 50 ลบ.ม./วินาที รวมกับการคาดการณ์ปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังประมาณ 350 ลบ.ม./วินาที ทำให้ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยามีประมาณ 2,300 ลบ.ม./วินาที และรับน้ำเข้าระบบชลประทาน 2 ฝั่ง อัตรา 400 ลบ.ม./วินาที

กรมชลประทานมีความจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตราไม่เกิน 1,900 ลบ.ม./วินาที เป็นการระบายแบบขั้นบันได ส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีก 30-50 ซม. บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ บริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ในพื้นที่แม่น้ำน้อย ที่ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน รวมไปถึงผลักดันน้ำทะเลที่หนุนสูงในช่วงนี้อีกด้วย หากมีปริมาณน้ำเหนือเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 1,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไป

สำหรับปัจจุบัน ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 1,793 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 17.24 เมตร/รทก. สูงขึ้นจากเมื่อวาน 17 เซนติเมตร มีปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 13.00 เมตร/รทก. สูงขึ้นจากเมื่อวาน 80 เซนติเมตร ซึ่งระดับน้ำห่างจากตลิ่งอยู่ที่ 3.34 เมตร และเขื่อนเจ้าพระยามีอัตราการระบายน้ำผ่านเขื่อนอยู่ที่ 1,548 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงส่งผลทำให้ที่สถานีวัดน้ำ C.3 บ้านบางพุทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 1,518 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำ ทางกรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ กรมชลประทานได้แจ้งเตือน 11 จังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย ขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด.