ตำรวจจับ นักศึกษา ปี 4 มหา'ลัยดัง ที่อุดรธานี พร้อมไอซ์ 354 กก. ซุกในรถ ร่ำไห้บอกพ่อเอามาฝากไว้ ถามทำไมทำแบบนี้กับหนู อยากให้มารับผิดชอบ

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 ตุลาคม 2567 ที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24 ค่ายเสนีย์รณยุทธ อ.เมือง จ.อุดรธานี พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ ปลาทอง ผบก.ตชด.ภาค 2 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าว จับกุมเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ ของกลางเป็นยาไอซ์ 354 กก. มูลค่ากว่า 354 ล้านบาท

สืบเนื่องจากได้รับการประสานข้อมูลจากชุดสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี ว่าจะมีการส่งมอบยาเสพติดในพื้นที่ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2567 จึงนำกำลังไปดักซุ่มอยู่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี กระทั่งเวลา 18.30 น. พบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีขาว ทะเบียนอุดรธานี จอดอยู่หน้าโรงแรม และมีผู้หญิง 1 คนเดินลงมาที่รถ ทราบชื่อภายหลังว่า น.ส.ปัญจรัช (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ชาว อ.หนองแสง จ.อุดรธานี จึงแสดงตัวขอตรวจค้น

ภายในห้องโดยสาร และที่เก็บของหลังรถ พบกระสอบสีรุ้ง จำนวน 12 กระสอบ อัดแน่นเต็มคันรถ ในกระสอบพบถุงผลิตภัณฑ์ใบชาแห้ง มีโลโก้ภาษาจีน น้ำหนักถุงละ 1 กก. จำนวน 354 ถุง จากการตรวจสอบพบว่า เป็นยาไอซ์ทั้งหมด จึงควบคุมตัว น.ส.ปัญจรัช พร้อมของกลางมาทำการสอบสวน

เบื้องต้นสารภาพ โดยอ้างว่า พ่อชื่อวี สัญชาติลาว อายุประมาณ 50 ปี โทรมาติดต่อขอฝากของ เดี๋ยวจะมีคนมารับไปอีกทอดหนึ่ง ตนไม่รู้ว่าข้างในเป็นยาเสพติด เพียงแต่รับฝากจากพ่อเท่านั้น โดยมีการบันทึกภาพขณะเข้าจับกุมไว้เป็นหลักฐาน

พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ ปลาทอง ผบก.ตชด.ภาค 2 เปิดเผยว่า มีสายรายงานมาโดยตลอดว่า จะมีการนำยาเสพติดลอตใหญ่มาพักไว้ที่ จ.อุดรธานี ก่อนที่จะมีการกระจายเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน บริเวณภาคกลางของประเทศไทย มีการจับกุมได้อยู่บ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้ถือว่าเป็นลอตใหญ่ เป็นยาไอซ์ จำนวน 354 กก. มูลค่ากว่า 354 ล้านบาท และหากหลุดเข้าไปในพื้นที่ชั้นใน อาจจะมีมูลค่ามากกว่านี้หลายเท่าตัว ถือเป็นการสกัดเส้นทางลำเลียงของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดข้ามชาติ 

...

จากการสอบสวน น.ส.ปัญจรัช เล่าทั้งน้ำตาว่า พ่อแม่ตนแยกทางกันตั้งแต่ยังเล็ก ตนโตมากับตาและยายที่ อ.หนองแสง แม่มีครอบครัวใหม่อยู่ต่างประเทศ พ่อจะติดต่อกันบ้าง 2 – 3 เดือนครั้ง แม่จะดูแลค่ากิน ค่าเรียน ส่วนพ่อจะส่งเงินมาให้ใช้บ้าง เป็นค่าเช่าหอ ไม่เคยรู้ว่าพ่อทำงานแบบนี้ ไม่รู้ว่าพ่อฝากส่งอะไรมา แต่ก็ยอมรับว่าเคยไปช่วยพ่อขับรถดูเส้นทางส่งสินค้าอะไรบางอย่าง ซึ่งพ่อไม่ได้บอกว่าเป็นอะไร ทำมาแล้ว 2 ครั้ง ที่อุดรธานี ตนก็เช่าโรงแรมและเช่ารถขับอยู่แล้ว มาครั้งนี้พ่อบอกแค่ว่าจะฝากของ จะมีคนเอาของมาใส่รถ ตนรู้แค่นั้น แล้วพ่อก็บอกว่าให้ขึ้นไปนอนที่ห้อง ตนลงมาก็ถูกจับ

"เมื่อวานพ่อโทรหา แต่ไม่ได้รับสาย พอเกิดเรื่องแล้ว โทรกลับไปหาพ่อ พ่อก็ไม่รับสาย ตนรักพ่อมาก อยากให้พ่อรักหนูบ้าง พ่อทำไมทำกับหนูแบบนี้ หนูกำลังเรียนหนังสือ เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 หนูจะเรียนจบอยู่แล้ว แต่พ่อก็มาทำกับหนูแบบนี้ หนูไม่เคยได้รับความรักจากพ่อเลย ซ้ำยังต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ หนูขี้เกรงใจ กลัวพ่อดุด่า ก็ทำไปตามที่เขาบอก อยากให้พ่อออกมารับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไป ตอนนี้หนูกลัวมาก ไม่รู้จะหันไปพึ่งใครได้บ้าง"

เบื้องต้นจะได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อสืบสวนหาผู้กระทำความผิดในขบวนการดังกล่าวทั้งหมด เพื่อติดตามมาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป