เด็กเยาวชนไทยกำลังตก เป็นเหยื่อ “เว็บพนันออนไลน์” ใช้อุบายการสื่อสารล่อหลอกให้หลงกลเข้าไปเล่นพนันสูงขึ้น กลายเป็นปัญหาต่อสังคม และอาชญากรรมให้ตำรวจต้องไล่จับไม่เว้นแต่ละวัน
แต่ท่ามกลางมรสุมปัญหายังไม่แก้ไข “รัฐบาล” ก็เร่งผลักดันจัดตั้งกาสิโนถูกกฎหมายภายใต้โครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพื่อดึงดูดการลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว “เปิดประตูเข้าสู่ตลาดการพนันระดับโลก” แม้เครือข่ายนักวิชาการ และภาคประชาสังคมจะท้วงติงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นก็ไม่อาจฉุดรั้งได้
จนไม่มานานนี้ “นายกรัฐมนตรี” ก็ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา 10 เรื่องเร่งด่วน ในจำนวนนี้ “ชูนโยบายที่ 4” อันมีแผนจะนำเศรษฐกิจนอกระบบ หรือใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดินเพื่อสร้างรายได้ใหม่ด้วย
แต่หากย้อนมาดูกระบวนการทั้งหมด วัลลภ ตังคณานุรักษ์ อดีตประธาน กมธ.การพัฒนาสังคมและกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา พูดไว้ในปาฐกถาการพนันออนไลน์หายนะของสังคมไทย ในงานการสร้างการรู้เท่าทันสื่อการตลาดเว็บไซต์พนันออนไลน์ จัดโดย สสดย.,สสส.น่าสนใจมากว่า
เรื่องนี้อยากบอก “การวางแผนทำอะไรก็ตามไม่ใช่จู่ๆจะสามารถบรรลุผลได้ทันที” แต่มักต้องวางหลักเป็นขั้นเป็นตอนขับเคลื่อนไปทีละสเต็ป เช่นเดียวกับ “การจัดตั้งกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศ” ที่ได้สะท้อนให้เห็นกลไกการวางแผนชัดเจนมาตั้งแต่ “ตั้ง กมธ.การศึกษาฯ” มีกระบวนการนำเสนอให้เข้าสู่สภาฯ
ก่อนนัดหมาย “กลุ่มเพื่อน สส.ช่วยอภิปราย” เพื่อสนับสนุนยกมือลงมติเห็นชอบแล้วก็ไปเชิญ สส.บางคนที่เห็นชอบด้วยเข้ามาอยู่ใน “คณะ กมธ.การศึกษาฯ” กลายเป็นเสียงสนับสนุนส่วนใหญ่มารวมตัวกันส่งผลให้ผลการศึกษาก็สามารถจะผลักดันไปในทิศทางใดก็ได้ที่ต้องการหรือไม่
...
จึงไม่แปลกใจ “ทำไมรายงานการศึกษาเปิดเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์พูดเฉพาะการสร้างรายได้” ส่วนผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับสังคมกลับไม่ปรากฏในรายงานฉบับนี้ แต่สุดท้ายผลศึกษาการเปิดกาสิโนเสรีก็ผ่านตามที่คาดหมายด้วยผลโหวต 253 ต่อ 0 ซึ่งคะแนนส่วนใหญ่ก็เป็นเสียงมาจากฝั่งรัฐบาลเป็นหลัก
“ยิ่งได้มีโอกาสอ่านรายละเอียดเชิงลึกก็ตกใจเนื้อหามุ่งเน้นให้ความสำคัญเฉพาะมุมสร้างรายได้เข้าประเทศอย่างเดียว แต่ในมุมเชิงลบต่อสังคมไม่ว่าจะเป็นผลกระทบต่อเด็ก เยาวชน ครอบครัว รวมถึงปัญหาสุขภาพจิต การฆ่าตัวตาย หรือการหาเงินโดยไม่ถูกต้อง เรื่องเหล่านี้กลับไม่มีถูกเอ่ยถึงแม้แต่น้อยในรายงานฉบับนี้” วัลลภ ว่า
พอวันต่อมา “อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ท่านหนึ่งก็ออกมาเคลื่อนไหว” อันมีสาระความสำคัญที่น่าสนใจในการมีบ่อนกาสิโนเสรีในประเทศนั้น “ไม่อาจนำโมเดลสิงคโปร์มาเทียบเคียงกับบ้านเราได้” เพราะประเทศไทยมีปัญหาในโครงสร้างทางกฎหมายอ่อนแอ จนไม่อาจจัดการกับบรรดาสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้หลายเรื่อง
ร้ายกว่านั้น “การบังคับใช้กฎหมายยังย่อหย่อนก่อเกิดปัญหาแทบทุกเรื่อง” ทำให้บ่อนพนันเถื่อนผิดกฎหมายเกิดขึ้นมากมายไม่มีท่าทีจะลดน้อยถอยลงเลย แล้วปัจจุบันการพนันออนไลน์ก็ยิ่งเข้ามาแพร่ระบาดเกลื่อนเต็มไปหมด ขณะที่ภูมิคุ้มกันในเด็ก เยาวชน และครอบครัว ยังอ่อนแอมากเมื่อเทียบกับประเทศสิงคโปร์
ทั้งยังมี “สส.อภิปรายในสภาฯถึงปัญหาการพนันออนไลน์” ที่ระบาดหนักในไทยมากกว่า 5 หมื่นเว็บไซต์ก่อความเดือดร้อนให้ผู้ติดพนันจนเป็นหนี้สินรุงรังกระทบครอบครัวมากมาย ก็ได้เรียกร้องให้รัฐบาลปราบปรามควบคู่กับไล่ปิดเว็บพนันเถื่อนจริงจังที่เป็นการจุดประกายปัญหาพนันออนไลน์ในเวทีผู้แทนราษฎรมาถึงทุกวันนี้
ด้วยเหตุจาก “พนันออนไลน์ขยายตัวมากในช่วง 10 ปีมานี้” อย่างกรณีการศึกษาปี 2565 มีแนวโน้มขยายตัวทั่วโลกปีละ 10% เพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสื่อสาร และธุรกิจออนไลน์ ทำให้ประชาชน เด็ก-เยาวชนทั่วโลกเข้าถึงโทรศัพท์สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และสื่อเครื่องอิเล็กทรอนิกส์สะดวกมากขึ้น
สำหรับประเทศไทย “เป็นเรื่องผิดกฎหมาย” ไม่มีใครจัดให้เข้าเล่นได้ และมีการป้องกันปราบปรามจนปรากฏ “เป็นวาระแห่งชาติ” ที่เคยมีมติ ครม.เรื่องลดผลกระทบจากพนันออนไลน์ในเด็กเยาวชนปี 2564 มีวุฒิสภาเป็นเจ้าของเรื่องนี้ แต่ก็พบผู้มีอำนาจถือกฎหมายในมือ หลายคนหลายระดับเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งทางตรง และทางอ้อม
สิ่งที่พูดประเด็นนี้ก็ต้องการสะท้อนให้เห็น “กลไกการจัดตั้งกาสิโนให้ถูกกฎหมาย” ที่อีกไม่นานก็จะมีปัญหาหลายเรื่องตามมาทั้งปัญหาใบกระท่อม กัญชาเสรี บุหรี่ไฟฟ้า การค้าประเวณี และสุราเสรีที่จะเกิดขึ้นเต็มไปหมดในรัฐบาลนี้ กลายเป็นว่าประชาชนต้องอาศัยอยู่ในสังคมท่ามกลางสภาวะที่อบายมุขเต็มไปหมดหรือไม่
ขณะที่ ราชพฤกษ์ ชูดำ ผู้แทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) บอกว่า ตามปกติ DSI มักทำเฉพาะคดีสำคัญสลับซับซ้อน “ไม่ตามจับคดีพนันออนไลน์ทั่วไป” เพราะจะซ้ำซ้อนกับการทำงานของตำรวจที่มีกำลังมากกว่า เว้นแต่เว็บไซต์พนันออนไลน์เป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพล หรือมีเครือข่ายผู้เล่นขนาดใหญ่เงินหมุนเวียนมูลค่าสูงๆ
อย่างล่าสุด “จับกุมเว็บพนันเปิดมาตั้งแต่ปี 2559” มีผู้เข้าเล่นหลักแสนคน และเงินหมุนเวียนกว่า 5 พันล้านบาท แล้วเชื่อว่าเว็บพนันอยู่ได้นานขนาดนี้ต้องมีเจ้าหน้าที่รัฐทั้งระดับเล็กจนถึงระดับใหญ่ให้การช่วยเหลือแน่ๆ
ดังนั้นการจับกุมวันที่ 30 เม.ย.2567 “ขยายผลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องได้อีก 38 คน” สามารถตามจับได้ 15 คน ซึ่งได้มีคนมาเสนอขอประกันตัว 7 หลักด้วยซ้ำ “สุดท้ายก็ถูกส่งเข้าเรือนจำทุกคน” แต่ก็ยังไม่ซัดทอดเจ้าหน้าที่รัฐคนใดเกี่ยวข้องบ้าง เพราะกลัวอำนาจบางอย่าง DSI ก็สืบสวนเส้นทางการเงินมีหลักฐานชัดเจน
...
บวกกับตามสืบสวนในโซเชียลฯ “โพสต์นัดปาร์ตี้โชว์อวดรวยจากเงินทำผิดกฎหมาย” ฉะนั้นการดำเนินคดีเว็บพนันจะใช้กฎหมายทุกมิติทั้งอาญา การฟอกเงินและเกี่ยวกับภาษี ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องก็เปิดเลขคดีพิเศษใหม่ “ดำเนินคดีกัดไม่ปล่อย” แล้วในเร็วๆนี้น่าจะมีปฏิบัติการจับกุมเว็บพนันออนไลน์อีกหลายคดี
สุดท้ายนี้ “การแก้ปัญหาพนันออนไลน์” ต้องเน้นป้องกันมากกว่าการปราบปราม เพราะยิ่งจับก็ยิ่งเปิดมากขึ้นแค่เจ้าหน้าที่รัฐสั่งปิดไม่ถึง 10 นาทีเท่านั้น “กลุ่มเว็บพนัน” ก็ทำการเปิดใหม่โฆษณาในมือถือใช้เป็นช่องทางชักชวนผ่านตัวเลือกเด็กที่สนใจเกม เพลง หนัง ซีรีส์ และการ์ตูน กลายเป็นความยากต่อการป้องกันพอสมควร
ฉะนั้นการป้องกันให้เด็ก-เยาวชนห่างไกลจากพนันทุกรูปแบบเป็นทางออกดีที่สุด “บุคคลใกล้ชิด” ไม่ว่าจะเป็นสถาบันครอบครัว หรือโรงเรียนต้องคอยหมั่นเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ.
คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม