เมื่อสัปดาห์ที่แล้วระหว่างที่เขียนแนะนำวิทยากรที่จะมาเสวนาแสดงความคิดความเห็นในงาน Thairath Afternoon Gala ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท นั้นผมได้เอ่ยถึงโครงการที่ริเริ่มขึ้นสมัย “บิ๊กตู่” เป็นนายกรัฐมนตรีช่วงแรกๆ อยู่โครงการหนึ่ง

เรียกกันย่อในสมัยโน้นว่า “โครงการประชารัฐ” เพราะจะเป็นการร่วมมือในการพัฒนาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในระดับรากหญ้าระหว่าง ภาครัฐ และ ภาคเอกชน เคียงคู่กันไปในหลายๆด้าน

ในด้านการศึกษานั้นก็มีโครงการที่ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการใน พ.ศ.ดังกล่าว พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ไปร่วมมือกับภาคเอกชน ซึ่งมีคุณ ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ มาเป็นประธานร่วมกับอีกหลายๆ บริษัทและหลายๆ องค์กรจัดทำ โครงการประชารัฐ ด้านการศึกษาขึ้น

ผมจำได้คลับคล้ายคลับคลาเพียงเท่านั้น ดังนั้นเมื่อจะเขียนแนะนำคุณศุภชัยซึ่งจะมาแสดงวิสัยทัศน์ด้านการศึกษาผมจึงเข้ากูเกิลไปค้นดูว่าโครงการที่ว่านี้ยังอยู่หรือไม่? ทำงานมาถึงไหนแล้ว? เพื่อจะนำมาเขียนให้เกี่ยวโยงกับคุณศุภชัย

แม้จะค้นด้วยเวลาจำกัด เพราะต้องปั่นต้นฉบับล่วงหน้าเป็นปึกแต่ผมก็รู้สึกปลาบปลื้มอย่างยิ่งที่ทราบว่าโครงการที่เริ่มด้วยคำว่า “ประชารัฐ” ที่ว่านี้ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทดลองโน่น ทดลองนี่ จนในที่สุดก็กลายมาเป็น “มูลนิธิ” ที่มีชื่อว่า CONNEXT ED และมีชื่อภาษาไทยว่า “โครงการผู้นำเพื่อการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน” ย่างเข้าสู่ปีที่ 8 แล้ว

หลังจากดีใจว่าความร่วมมือด้านการศึกษายังอยู่ ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่ายังมีอีกประชารัฐ หนึ่งที่ผมเอาใจช่วยอย่างมาก เพราะเห็นว่าเป็นการร่วมมือที่ดีระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน

...

เขียนผ่านคอลัมน์นี้แบบให้กำลังใจก็หลายหน นั่นก็คือโครงการประชารัฐเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในระดับฐานรากโดยเฉพาะหมู่บ้านและชุมชนต่างๆ

มีกระทรวงมหาดไทยโดย กรมการพัฒนาชุมชน เป็นเจ้ามือ และในส่วนของภาคเอกชนนั้นก็ได้นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอีกท่านหนึ่งนำทีมบริษัทเอกชนต่างๆเข้ามาร่วม ได้แก่ คุณ ฐาปน สิริวัฒน ภักดี ประธานผู้บริหารไทยเบฟฯ นั่นเอง

มีคณะกรรมการร่วมทั้ง 2 ฝ่ายจับมือกันทำงาน ทั้งลงไปพัฒนาฝีมือของพี่น้องในชุมชนให้รู้จักผลิต รู้จักจำหน่ายสินค้าที่เป็นผลผลิตของชุมชนมากขึ้น ถึงขั้นมีการจัดตั้งบริษัทประชารัฐรักสามัคคี (วิสาหกิจเพื่อสังคม) ขึ้นตามจังหวัดต่างๆ

ต่อมาข่าวคราวชักเงียบหายไปจนทำให้ผมเกือบจะลืมโครงการทางซีกนี้ ซึ่งเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจและรายได้ของชาวชุมชนโดยตรงไปเสียสนิท

แต่หลังจากค้นพบว่าทางสายการศึกษา ยังอยู่และมีการพัฒนาไปอย่างราบรื่นจนผมเอามาเขียนแนะนำ คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ก่อนงานเสวนาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเสร็จสรรพ ผมก็ได้ทราบข่าวดีเช่นกันว่าอีกประชารัฐหนึ่ง คือทางด้านพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนก็ยังอยู่อย่างเข้มแข็งเช่นกัน

ได้รับการดูแลจากกรมพัฒนาชุมชนและบริษัทไทยเบฟฯ อย่างเข้มแข็งมาจนทุกวันนี้

คำว่า “ประชารัฐ” ที่นำไปใช้ทางการเมืองถึงขนาดไปตั้งเป็นชื่อพรรค อาจจะเสื่อมมนต์ขลังไปบ้าง เพราะพรรคที่ใช้ชื่อนี้ทำท่าจะกลายเป็นพรรคเล็กไปเสียแล้ว

แต่คำว่า “ประชารัฐ” ของแทร่ ตามรากศัพท์ที่ใช้ในเพลงชาติไทยและในแผนพัฒนาฯฉบับที่ 8 (2540-2544) ยังคงอยู่ครับ จะไม่ให้ผมดีใจได้อย่างไร

พรุ่งนี้ขออนุญาตเขียนถึงโครงการของคณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ ซึ่งเป็นชื่อล่าสุดของโครงการประชารัฐเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจระดับชุมชนสักนิดเพื่อเป็นการยืนยันว่า “ประชารัฐ” ของแทร่ ยังมีพลังอยู่เหมือนเดิม.

“ซูม”

คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม