"กรมอุตุนิยมวิทยา" ประกาศฉบับที่ 4 เตือน 19-21 ต.ค. "อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทย" ระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก พร้อมเช็กจังหวัดไหนบ้างที่ได้รับผลกระทบ

วันที่ 18 ตุลาคม 2567 เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเรื่อง "อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทย" ฉบับที่ 4 มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 19-21 ตุลาคม 2567 โดยระบุว่า ในช่วงวันที่ 19 - 21 ต.ค. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก

ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมาก กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งเกิดขึ้นได้ในระยะแรก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย โดยจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้

วันที่ 19 ตุลาคม 2567

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง : จังหวัดลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

...

ภาคใต้ : จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

วันที่ 20 ตุลาคม 2567

ภาคเหนือ : จังหวัดตาก และกำแพงเพชร

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์

ภาคกลาง : จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้ : จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา และภูเก็ต

วันที่ 21 ตุลาคม 2567

ภาคกลาง : จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสมุทรสงคราม

ภาคตะวันออก : จังหวัดชลบุรี และระยอง

ภาคใต้ : จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง และพังงา

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

อย่างไรก็ตาม จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.