“ผู้ช่วยอ้อ-บิ๊กก้อง” เปิดปฏิบัติการ “หนุมานถล่มกรุง THEiCON GROUP” สั่งชุดสืบสวน บช.ก.ลุยจับยกยวง หลังศาลอาญาอนุมัติหมายจับ 18 ผู้ต้องหาแก๊งดิ ไอคอนกรุ๊ป ใน 2 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ แฉ “บอสพอล” ถึงกับหน้าซีดหลังถูกจับพร้อมพวกรวม 4 คน คาห้องประชุม สคบ. ส่วนบอสแซม-บอสมิน ไม่รอดถูกจับได้เช่นกัน ยังเหลือบอสกันต์กับพวกรวม 4 คน ที่ยังลอยนวล เผยก่อนถูกจับ “บอสพอล” ดิ้นส่งทนายยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมนายกฯอิ๊งค์ โอดโดนอายัด 125 ล้านบาท มีผลต่อการเยียวยาผู้เสียหาย ดีเอสไอร่วมลงแขกอายัดที่ดิน บ.ดิ ไอคอน กรุ๊ป 63 ไร่ ใน อ.ลำลูกกา มูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท

ภายหลังตำรวจเดินหน้ารับเรื่องแจ้งความร้องทุกข์เหยื่อ บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด ทั่วประเทศ หลังถูกวลีเด็ดล่อลวง “ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย” ซ้ำยังใช้ศิลปินดาราเกรดเอโปรโมตเป็นแรงดึงดูด ผู้เสียหายไม่ต่างจากแมลงเม่าบินเข้ากองไฟเสียเงินเสียทองจำนวนมาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. มีคำสั่งให้ทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศรับแจ้งความก่อนส่งมาที่ บก.ปคบ. รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล เจ้าของบริษัท และศิลปินดาราบางคนที่ร่วมดำเนินธุรกิจขายตรงเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์แล้ว 1,067 ราย เสียหายกว่า 378.2 ล้านบาท ขณะที่ “ประทีป-สุวิทย์ “ยันไม่ใช่เทวดารับสินบน แถมพูดตรงกันระบุการปล่อยคลิปอาจมาจากทั้งคู่เป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่งเลขาธิการ สคบ.ที่ว่าง ด้าน ปปง.เปิดฉากอายัดทรัพย์ลอตแรก 125 ล้านบาท บอสพอลและกันต์ กันตถาวร ล่าสุดช่วงสายวันที่ 16 ต.ค. พนักงานสอบสวนขออำนาจศาลอาญาให้อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาคดีดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด หลายคน ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ มีบอสพอล ดาราและแม่ข่ายรวมอยู่ด้วย ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

...

“บิ๊กอ้อ-บิ๊กก้อง” สั่งลุยจับ 18 ผู้ต้องหา

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 16 ต.ค. ที่อาคารกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. เดินทางมาที่ชั้น 8 ห้องซีซีโอซี เพื่อประชุมร่วมกับ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก.และคณะทำงานคดี ดิ ไอคอน กรุ๊ป เพื่อดูผลการปฏิบัติการ “หนุมานถล่มกรุง The Icon Group”ของชุดสืบสวนสอบสวน บช.ก.ที่กำลังสืบสวนจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาคดีดิ ไอคอน กรุ๊ป แบบเรียลไทม์ หลังศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 18 รายในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ

“บอสพอล” ซีดถูกรวบคา สคบ.

สำหรับเป้าหมายสำคัญคือบอสพอล หรือนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ปคบ.นำกำลังจับกุมพร้อมแจ้งข้อหาตามหมายจับในห้องประชุม สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) อาคารศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ขณะมาชี้แจงตามหนังสือเรียกของ สคบ. โดยบอสพอลถึงกับตะลึงหน้าซีดเพราะไม่คาดคิดว่าจะถูกจับกุม ก่อนถูกตำรวจคุมตัวออกไปทันที

ก่อนหน้าถูกจับกุมบอสพอลได้เดินทางมารายงานตัวตามหนังสือเรียกของ สคบ. ทีมงานและการ์ดคุ้มกันพร้อมผู้ติดตาม หลังขอเลื่อนพบไป 15 วัน แต่ทาง สคบ.ไม่ยอม เมื่อเปิดลิฟต์ยังชั้น 5 ที่ทำการ สคบ.พบกับผู้สื่อข่าวและช่างภาพที่รออยู่จำนวนมาก ทางบอสพอลและคณะได้พยายามดันกลุ่มผู้สื่อข่าวจนเกิดการชุลมุน พร้อมกันนั้นคณะของบอสพอลได้ตะโกนว่าอย่าทำร้ายๆ ก่อนที่จะเข้าห้องเพื่อไปชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ สคบ.และถูกจับกุมในที่สุด

ทนายเผยถูกจับพร้อม 3 บอส

ด้านนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความบอสพอล ซึ่งเดินทางมาด้วยกันเปิดเผยว่า ไม่รู้มาก่อนบอสพอลจะถูกตำรวจจับกุมที่ สคบ.โดยตำรวจ ได้อ่านหมายจับไป 4 คน ในข้อหาฉ้อโกงประชาชนกับผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ประกอบด้วย บอสพอล บอสปัน-น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร บอสป็อป-นายหัสยานนท์ เอกชิสนุพงศ์ และบอสสวย-น.ส.นัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์ ทั้ง 3 คนได้เดินทางมาชี้แจงที่ สคบ.ด้วย จริงๆทำใจอยู่แล้วว่าจะต้องมีวันที่ถูกออกหมายจับแต่ไม่คิดว่าจะเป็นวันนี้ เพราะได้นำบอสพอลไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนหน้านั้น เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่ได้หลบหนี จากนี้ทีมทนายจะทำเรื่องขอประกันตัว ต้องปรึกษากับทางญาติว่าเตรียมหลักทรัพย์อะไรไว้บ้าง เพราะจากที่บอสพอลถูกอายัดทรัพย์ อาจจะไม่สามารถมีหลักทรัพย์มาประกันได้คงจะต้องไปขอยืมเพื่อนๆแทน

ผู้การกองปราบฯสั่งล้างคุกรอ

ต่อมาเวลา 16.30 น. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. สั่งการเจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลอาคารและสถานที่ ดำเนินการเตรียมความพร้อมสถานที่ที่จะสอบปากคำ รวมไปถึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดของอาคาร ทำความสะอาดห้องคุมขัง ที่อาคาร บก.ป. เพื่อรองรับกลุ่มผู้ต้องหาคดีดิไอคอน ซึ่งคาดว่าจะถูกจับกุมคุมขังในคืนนี้เป็นจำนวนมาก

...

บอสแซม-บอสมิน ไม่รอด

มีรายงานว่าสำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ขณะนี้รวม 14 คน คือ 1. นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล 2. น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือ บอสตัน 3.นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ หรือ บอสหมอเอก 4.น.ส.นัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์ บอสสวย 5.น.ส.ญาสิกัญจณ์ เอกชิสนุพงศ์ บอสโซดา 6.นายนันท์ธรัฐ เชาวนปรีชา บอสโอม 7.นายธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ บอสวิน 8.นายหัสยานนท์ เอกชิสนุพงศ์ บอสป๊อบ 9.นายยุรนันท์ ภมรมนตรี บอสแซม 10.น.ส.พิชญา วัฒนามนตรี หรือ บอสมิน 11.นางวิไลลักษณ์ เจ็งสุวรรณ บอสออย 12.นายธนะโรจน์ ธิติจริยาวัชร์ หรือบอสอ๊อพ

“บอสกันต์” ยังไม่ถูกจับ

ส่วนผู้ต้องหาที่ยังไม่ถูกจับประกอบด้วย 1.นายกันต์ กันตถาวร หรือบอสกัน 2.นายเชษฐ์ณภัฎ อภิพัฒนากานต์ หรือบอสทอมมี่ 3น.ส.เสาวภา วงษ์สาขา หรือบอสอูมมี่ 4.นายกลด เศรษฐนันท์ หรือ บอสปีเตอร์

ล็อก “บอสกันต์” หลังขอมอบตัว

ล่าสุดมีรายงานว่า ชุดสืบสวน บช.ก.สามารถจับกุมนายกันต์ หรือบอสกันต์ กันตถาวร อายุ 38 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 5023/2567 ลงวันที่ 16 ต.ค.67 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอม พิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน หลังเจ้าตัวติดต่อขอมอบตัวในสถานที่แห่งหนึ่งเมื่อคํ่าวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปแสดงหมายจับแจ้งข้อหาและควบคุมตัวมาสอบปากคำที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

...

บอสพอลดิ้นส่งทนายร้อง “อิ๊งค์”

มีรายงานถึงความเคลื่อนไหวของบอสพอลและพวกก่อนถูกตำรวจกองปราบฯเปิดฉากจับกุม เมื่อเวลา 10.40 น. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ผู้บริหารดิ ไอคอน กรุ๊ป นำตัวแทนผู้ขายกว่า 50 คน ที่ได้รับผลกระทบกรณีมีผู้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด ยื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขอความเป็นธรรม มีนายพันศักดิ์ เจริญ ผู้เชี่ยวชาญด้านมวลชน ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักฯเป็นตัวแทนรับหนังสือ เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีทำให้ผู้ขายขายสินค้าได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากการนำเสนอเหตุการณ์ทางโซเชียลไปในทิศทางเดียว ทั้งนี้ตัวแทนผู้ขายหลายคนให้สัมภาษณ์ไปในทิศทางเดียวกันยังเชื่อมั่น “บอสพอล” ไม่เคยหลอกหลวงให้ลงทุนเป็นขันบันได ทั้งหมดเกิดจากผู้ขายบางคนทำผิดเงื่อนไขให้ขายสินค้าไม่ได้เอง

อายัด 125 ล. มีผลต่อการเยียวยา

นายวิฑูรย์ยังกล่าวถึงกรณีการเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายว่า จะพิจารณาเป็นอันดับแรกในการเยียวยากลุ่มบุคคลที่เอาเงินก้อนสุดท้ายของตัวเองไปซื้อของมาสต๊อกไว้ แต่ขายไม่ได้ แต่มีเงื่อนไขให้คนกลุ่มนี้มาลงชื่อไว้และส่งหลักฐานให้เรา เพื่อดูว่าบุคคลเหล่านี้เสียหายจริงหรือไม่ ซื้อของไปแล้วขายไม่ได้จริงไหม ส่วนกรณีที่ ปปง.อายัดเงินบอสพอล 125 ล้านบาท มีผลกระทบต่อการเยียวยา แต่ต้องหาทางว่าจะทำอย่างไร ขอให้คนเหล่านี้มาลงชื่อไว้ก่อนหลังจาก 90 วัน จะชดเชยให้ เมื่อถามว่าบอสพอลว่าอย่างไรบ้างหลังถูกอายัดเงิน นายวิฑูรย์ตอบว่า ก็พูดไม่ออก เมื่อถามว่า บอสพอลเคยโพสต์เฟซบุ๊กให้ลบคลิปไม่อย่างนั้นจะฟ้อง บอสพอลกำชับเรื่องนี้อย่างไร นายวิฑูรย์ตอบว่า ไม่มีๆ ไม่รู้ว่าบอสพอลโพสต์อย่างไรน่าจะเครียดตอนนั้นตอนหลังเห็นลบไปแล้ว คงไม่มีการฟ้องสื่อ ยอมรับว่าบอสพอลเจอปัญหาขนาดนี้ต้องเครียด

...

แฉ “บอสพอล” ขอเลื่อนพบ สคบ.

ก่อนหน้านี้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) อาคารศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กรณีนายจิติภัทร์ บุญสม ผอ.กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง ในฐานะนายทะเบียนด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง สคบ.ได้ออกหนังสือเรียกนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล เจ้าของบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด มาชี้แจงรูปแบบการทำธุรกิจว่า เข้าข่ายการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายที่ตกลงจะให้ผลประโยชน์ตอบแทน ซึ่งขัดต่อมาตรา 19 ของ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง และจะนำไปสู่การถอนใบอนุญาตขายตรงหรือไม่ ในเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ต.ค.67 แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายบอสพอลไม่ได้เดินทางมา โดยช่วงเช้ารับแจ้งว่าบอสพอลจะมาพร้อมทนาย แต่แจ้งขอเลื่อนไปอีก 15 วัน ระบุว่ายังไม่พร้อม แต่เจ้าพนักงานสอบสวนไม่อนุญาตเพราะเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องเร่งสอบข้อเท็จจริง และ สคบ.มีหนังสือเรียกออกไปแล้ว

เรียก 3 บอสดาราพบ 17 ต.ค.

นายจิติภัทร์กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีเชิญ 3 บอสดารา ได้แก่ บอสกันต์-กันต์ กันตถาวร บอสมิน-พีชญา บอสแซม-ยุรนันท์ มาชี้แจงวันที่ 17 ต.ค. เป็นหนังสือเชิญไม่ใช่หนังสือเรียก แต่ถ้าไม่มาจะพิจารณาต่อไปว่าจะออกหนังสือเรียกหรือไม่ ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบพฤติกรรม ดิ ไอคอน กรุ๊ป ได้สืบข้อเท็จจริงไปบางส่วนแล้วว่าองค์ประกอบพยานหลักฐานต่างๆเข้าข่ายคดีอาญาฉ้อโกงประชาชนหรือไม่เพื่อนำเสนอไปยังตำรวจต่อไป ส่วนเรื่องการยึดโล่คืนขณะนี้ได้ตั้งเรื่องขึ้นไปแล้วและไปดูข้อเท็จจริงว่าบริษัทได้เอาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ นอกจากนั้น เรื่องของเทวดา สคบ.ที่รับสินบนทาง น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ตั้งคณะกรรมการสอบโดยเร่งด่วนแล้ว

“ซี-ศิวัฒน์” เสียบพิธีกรแทน “กันต์”

มีรายงานว่าหลังจากที่ “กันต์ กันตถาวร” ประกาศยุติบทบาทพิธีกรจากทุกรายการของค่าย เวิร์คพอยท์ และถูกออกหมายจับคดีบริษัทธุรกิจ ดิ ไอคอน กรุ๊ป ล่าสุดรายการดัง “ร้องข้ามกำแพง” ได้เปิดตัวพิธีกรคนใหม่คือพระเอกพิธีกรหนุ่มชื่อดัง “ซี-ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์” แทนกันต์ กันตถาวร ตามที่แฟนๆพากันคาดการณ์ เริ่มทำหน้าที่เทปแรกในวันพฤหัสบดีที่ 17 ต.ค. 20.05 น. ช่องเวิร์คพอยท์

ดีเอสไออายัดที่ดินมูลค่า 1 พัน ล.

ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 16.00 น. พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รรท.อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่ตรวจสอบและอายัดทรัพย์สิน เป็นที่ดินบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด อยู่ริมถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก ตรงข้ามมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี มีเนื้อที่ 63 ไร่เศษ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

3 แปลงเนื้อที่กว่า 60 ไร่

พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวว่า จากการร่วมสืบสวนร่วมกับ ตำรวจ บก.ปคบ.พบว่า ที่ดินแห่งนี้มี 3 แปลง เนื้อที่กว่า 60 ไร่ บอสพอลซื้อไว้ในนามนิติบุคคล เพื่อใช้ขยายธุรกิจก่อสร้างหอประชุม บ้านผู้บริหาร และอาคารศูนย์การเรียนรู้ออนไลน์ ภายใต้ชื่อ the icon city จึงตรวจอายัดไว้ไม่ให้ทรัพย์สินรายการนี้ถูกถ่ายโอน พร้อมเตรียมประสาน ปปง.ให้ทรัพย์สินนี้เปลี่ยนเป็นเงินคืนแก่ผู้เสียหาย ตรวจสอบพบบอสพอล ซื้อไว้เมื่อปี 2564 จำนวน 2 แปลง แปลงแรกเนื้อที่ 30 ไร่ แปลงที่ 2 มีเนื้อที่ 4 ไร่ จากนั้นในปี 2565 ซื้อเพิ่มอีก 1 แปลง มีเนื้อที่กว่า 29 ไร่ เบื้องต้นพบเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงิน และฉ้อโกงประชาชน ตามบัญชีแนบท้ายคดีพิเศษ

ระบุข้อมูลพยานยังไม่มีน้ำหนัก

รรท.อธิบดีดีเอสไอกล่าวต่อว่า กรณีมีพยานปากสำคัญเข้าให้ข้อมูลว่ามีเจ้าหน้าที่ในสังกัดดีเอสไอ เข้าไปรับผลประโยชน์จากบริษัทดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด การให้ข้อมูลของพยานยังไม่มีความละเอียด ไม่สามารถระบุตัวบุคคล หรือหน่วยงานในสังกัดที่เข้าไปรับผลประโยชน์ได้ คำให้การจึงยังไม่มีน้ำหนัก อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้นิ่งนอนใจ เตรียมสืบสวนหาข้อเท็จจริง หากพบมีเจ้าหน้าที่รายใดเข้าไปเกี่ยวข้องจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป บทบาทกรมสอบสวนคดีพิเศษในตอนนี้คือ มาร่วมสืบสวนสอบสวนในคดีนี้ ซึ่งถ้าได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จะมอบให้พนักงานสอบสวน บช.ก. ขณะนี้ยังไม่ถือว่าเป็นคดีพิเศษ ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษรับไปทำคดีเต็มตัว

2 คนดังพาพยานลับพบดีเอสไอ

ก่อนหน้านี้ ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ร่วมกันนำพยานสำคัญ ซึ่งรู้เห็นการจ่ายสินบนให้แก่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษระดับสูง เข้าพบ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รรท.อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้ข้อมูลลับ

“ทวี” ประสานมาให้ข้อมูล

นายษิทรากล่าวก่อนเข้าพบ รรท.อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษว่า เมื่อวันที่ 15 ต.ค. มีสายลับได้เข้าพบนายเอกภพ สายไหมต้องรอด ปรากฏข้อมูลที่พูดถึงเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้ประสานมาอยากให้เข้าให้ข้อมูลกับดีเอสไอ วันนี้จึงพาสายลับมาให้รายละเอียดกับ รรท.อธิบดีดีเอสไอ สำหรับนาย ธ. คนนี้คือบอสคนสุดท้าย หรือเกจิอาจารย์บอสพอล เคยติดต่อตนมาเมื่อปี 61 ให้ไปทำธุรกิจขายตรงด้วยกัน และเขาจะลงการเมืองโดยให้ตนไปสนับสนุน แต่ตนไม่เคยเจอเขา แต่น่าจะเคยคุยโทรศัพท์และเชื่อว่าบุคคลดังกล่าวตนรู้จักเป็นอย่างดี ส่วนกรณีที่นาย ธ. ได้มีการออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจของบอสพอลนั้น ตนขอบอกว่าวันที่ 17 ต.ค.ก็จะได้รู้ เพราะจะงัดหลักฐานเด็ดมาให้ได้ดูกัน

“ตั้ม” ชี้ช่องยึดที่ดินได้เพิ่มพัน ล.

ทนายตั้มกล่าวอีกว่า ขอบคุณ ปปง.ที่ออกคำสั่งอายัดทรัพย์สินของบอสพอลและพวก 125 ล้านบาท เป็นการฟรีซทรัพย์สิน เพราะมิเช่นนั้นอาจจะมีการถ่ายโอนทรัพย์สินไปที่อื่น แต่ในวันที่ 17 ต.ค. ทางคณะกรรมการธุรกรรม ปปง.จะดำเนินการเพิ่มเติมถ้าหากพบว่ามีความผิดจะยึดทรัพย์สินไว้ได้จนจบคดี แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่เงินสดที่มีมูลค่าหลักร้อยล้านบาท แต่ก็ยังมีที่ดินอีกเชื่อว่าถ้ายึดมาได้จะมีมูลค่าเป็นหลักพันล้านบาท ในช่วงบ่ายวันนี้จะไปยื่นหนังสือที่ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐถึงผู้บริหารพรรค โดยประสานไปแล้ว ทางพรรคแจ้งกลับมาว่าไม่มีใครอยู่ที่พรรค ดังนั้น ตนก็ยืนยันว่าจะไปยื่นหนังสือเหมือนเดิมถ้าหากไม่มีใครออกมารับก็จะยื่นไว้กับ รปภ.

“เอกภพ” ปูดเทวดาฝากมาอยู่

ด้านนายเอกภพ สายไหมต้องรอด กล่าวว่า ในช่วงที่ธุรกิจของบริษัทดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด กำลังพีกขึ้นมากๆ และมีเทวดาเข้ามาเกี่ยวข้องนั้น ดีเอสไอก็ถูกเทวดาแผลงฤทธิ์เช่นกัน เพราะในช่วงปี 64-65 เทวดาได้ฝากฝังข้าราชการท่านหนึ่งมาอยู่ที่ดีเอสไอให้เป็นผู้มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบหน่วยงานที่กำกับหรือสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่โดยตรง มีผลต่อการตัดสินใจ แต่ข้าราชการรายนี้ไม่ถึงขั้นมานั่งตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงเพราะมีการล็อกสเปกฝากฝังเลยว่าต้องเป็นคนนี้มาคุม หากเกิดเหตุไม่คาดฝันคนของเทวดาจะได้คุ้มครองบริษัทได้ วันนี้ตนและพยานจึงมาเพื่อขอคำมั่นและคำยืนยันจาก รรท.อธิบดีดีเอสไอ คนปัจจุบัน และ รมว.ยธ.ว่าเทวดาคนนั้นจะไม่แผลงฤทธิ์ คุ้มครองดีเอสไอ เพื่อได้ทำงานให้ประชาชน

นั่งเก้าอี้บริหารระดับบิ๊ก

ส่วนที่ถามว่าข้าราชการคนดังกล่าวที่ถูกเทวดาฝากฝังให้มาอยู่ดีเอสไอมีส่วนเกี่ยวข้องกับกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ หรือมีตำแหน่งเป็นรองอธิบดีดีเอสไอที่กำกับกองคดีดังกล่าว หรือกำกับสำนวนแชร์ Forex-3D หรือไม่ นายเอกภพกล่าวว่า ไม่ได้หมายถึงขนาดนั้น แต่พูดเพื่อให้รู้ว่าตนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งนี้ ข้าราชการรายนี้ที่เทวดาฝากฝังยังอยู่ในหน่วยงาน เป็นผู้บริหารระดับสูงอยู่ แต่ยืนยันว่า พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รรท.อธิบดีดีเอสไอ คนปัจจุบันไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อวันนี้รู้เรื่องแล้วก็ต้องเดินหน้าเอาผิดให้ด้วย ได้พูดกับทนายตั้มว่าที่นี่เจ้าที่เฮี้ยนนะ แต่ถ้าพร้อมเดินหน้าทำงานก็พร้อมให้ข้อมูล แต่ถ้ายังเฮี้ยนอยู่ เราก็พร้อมเปิดเผยข้อมูลของเจ้าหน้าที่คนนี้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตนไม่รู้ว่าเทวดาจะมีการเซ่นไหว้กันอย่างไร แต่ในช่วงเวลานั้น เทวดากำหนดให้ข้าราชการคนนี้มาอยู่ที่นี่

วันหน้าอาจมีคลิปเสียงโผล่

นายเอกภพกล่าวอีกว่า ส่วนคนที่ปรากฏในคลิปเสียงสนทนาเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ย้ำว่าคนนี้ไม่ใช่เทวดา แต่เป็นเพียงลูกกรอกเท่านั้น สาเหตุที่วันนี้กล้าเอาพยานรายสำคัญมาที่ดีเอสไอ แม้ข้าราชการรายนั้นยังอยู่ในองค์กร ก็เพราะต้องการมาสู้กัน อย่ามัวกลัว แม้คุณอยู่ ผมก็กล้ามา จะชนก็ได้ไม่กลัว และคนระดับนี้เขาไม่เจอใคร แค่คอยดูแลกำกับ ได้เช็กจากคนในกระทรวงยุติธรรม และในดีเอสไอก็พบว่าข้อมูลของการฝากฝังเป็นเรื่องจริง ส่วนข้าราชการคนนี้เคยมาเป็นรองอธิบดีกรมฯ หรือรองปลัดกระทรวงฯ หรือไม่ในอดีตนั้น ขอแจงว่ารองอธิบดีฯมีอำนาจแทนอธิบดีฯก็จริง แต่ไม่ได้มีอำนาจเยอะ เพราะอธิบดีฯ มักสั่งงานไปอีกระดับนึงที่เขากำกับดูแลโดยตรง ส่วนจะเป็นตำแหน่ง ผอ.กองคดีหรือไม่ ไม่ขอตอบ แต่คนนี้ที่เทวดาฝากฝังไว้ มีมูลค่าการเซ่นไหว้กว่า 10,000 ล้านบาท ทั้งนี้ อนาคตอาจมีคลิปเสียงสนทนาของบอสกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอถูกปล่อยออกมาก็เป็นไปได้

ไอคอนสยามโพสต์อย่ามาโยง

วันเดียวกัน ศูนย์การค้า ICONSIAM ออกแถลงการณ์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า ตามที่เกิดความไม่เข้าใจในกลุ่มลูกค้าและผู้ที่เกี่ยวข้อง บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจศูนย์การค้าไอคอนสยาม ขอเรียนให้ทุกท่านทราบว่าบริษัทมิได้มีความเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นกับ The Icon Group ที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด ขอเรียนย้ำว่า บริษัทดำเนินธุรกิจศูนย์การค้าไอคอนสยามด้วยพันธกิจที่ยึดมั่นในธรรมาภิบาลและความโปร่งใสเป็นธรรม ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัดตลอดมา ใคร่ขอความร่วมมือจากทุกท่านงดเว้นการกล่าวหรือพาดพิงถึงบริษัทและศูนย์การค้าไอคอนสยาม ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนต่อสาธารณชนเพิ่มขึ้น

เหยื่อแห่แจ้งความต่อเนื่อง

สำหรับบรรยากาศที่อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ตั้งแต่ช่วงเช้า ยังคงมีผู้เสียหายที่ลงทุนกับ บ.ดิ ไอคอน กรุ๊ปทยอยเข้ามารอแจ้งความร้องทุกข์เอาผิดกันอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่มีการจัดเตรียมเก้าอี้ไว้บริการประชาชนบริเวณห้องโถงชั้น 1 สำหรับนั่งพักรอเข้าพบพนักงานสอบสวน ทั้งนี้ ในการจัดระเบียบผู้เสียหายเข้าพบพนักงานสอบสวนจะให้ขึ้นไปครั้งละ 30 คน มีการให้แลกบัตรประจำตัวประชาชน สแกนใบหน้า ก่อนจะแจกบัตรคิวให้ขึ้นไปที่รอพบพนักงานสอบสวน เพื่อสอบปากคำ ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศูนย์รับแจ้งความ บก.ปคบ. สำหรับตัวเลขผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว รวม 1,063 ราย มูลค่าความเสียหาย 386,475,171 บาท ขณะที่ในส่วนตัวเลขยอดผู้เสียหายที่ลงทะเบียนเข้ามาเพิ่มเติมตั้งแต่ช่วงเช้านี้อยู่ 141 ราย ขณะที่ในส่วนของกลุ่มศิลปินดาราอย่าง ป้อง-ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์, ลีเดีย-ศรัณย์รัชต์ ดีน ยังไม่มีกำหนดจะเข้ามาให้ข้อมูลแต่อย่างใด

“ประทีป” นัด “บิ๊กเต่า” แจ้งความ

วันเดียวกัน มีรายงานว่า พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จะเดินทางมาพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางในช่วงบ่าย โดยให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์เพื่อชี้แจงกรณีมีคลิปเสียงที่อ้างว่ามีชื่อตนไปเกี่ยวข้องเรื่อง บริษัท ดิ ไอคอน นั้นไม่เป็นความจริง รวมทั้งแจ้งความร้องทุกข์เอาผิดกับบุคคลที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เพราะในคลิปเสียงมีการเอ่ยชื่อ ประทีป รองเลขาฯ สคบ. ซึ่งคนชื่อประทีป ตำแหน่งรองเลขาฯ สคบ.นั้นมีคนเดียว เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่า พ.ต.อ.ประทีปจะมาพบด้วยเรื่องอะไร ยังไม่ได้คุยรายละเอียด มีแต่การโทร.มาคุยกันเมื่อวันศุกร์ที่แล้วว่าจะเข้ามาแต่ก็เงียบหายไป ส่วนที่จะเข้ามาวันนี้คงไม่สะดวกเพราะตนทำงานอยู่ต่างจังหวัด คงต้องเลื่อนนัดไปเป็นวันพรุ่งนี้แทน

“ธนกฤต” นำ สบส.ตรวจคลินิก

ก่อนนี้เมื่อเวลา 10.00 น. นายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ตำรวจ ปคบ. เจ้าหน้าที่ สบส. และ อย. ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกเวชกรรม ดิ ไอคอน เวลเนส (The Icon Wellness) ของบริษัทในเครือดิ ไอคอน กรุ๊ป เลขที่ 165/7 อาคาร B โครงการเนอวาน่า แอตเวิร์ค 9 ซอยรามอินทรา 7 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. เพื่อตรวจสอบข้อมูลว่ามีการประกอบกิจการทางการแพทย์ถูกต้องตามมาตรฐานหรือไม่

สงสัยรู้แกวไม่เปิดทำการ

ตรวจสอบพบเป็นอาคารทาวน์โฮมปลูกติดกัน ลักษณะเป็นอาคาร 5 ชั้น 5 คูหา ตกแต่งสวยงามอลังการ โดยคลินิกอยู่ชั้นล่าง 1 ห้องด้านขวาของอาคารอยู่ระหว่างปิดทำการ ทั้งนี้ สำนักงานใหญ่ของบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป ประกอบด้วยร้านต่างๆ อาทิ กาแฟ ฟิตเนส และสถานที่เก็บสินค้าผลิตภัณฑ์ รวมทั้งคลินิกเสริมความงาม ส่วนของสำนักงานดิ ไอคอน กรุ๊ป มีลูกค้าที่เดินเข้ามาติดต่อจำนวนมาก เนื่องจากมีการเปิดให้กลุ่มลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการลงทุนเข้ามาลงทะเบียนรับการเยียวยา

ไม่ใช่ปัญหามาใหม่ได้

นายธนกฤตกล่าวว่า หลังจากไปแจ้งความเอาผิด นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ หรือบอสหมอเอก ของบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ปฯ กรณีแอบอ้างเป็นแพทย์ตามข้อมูลที่ปรากฏตามสื่อสาธารณะ กระทรวงสาธารณสุข ต้องการขยายผลจากภาพที่นายฐานานนท์รักษาผู้หญิงไม่น้อยกว่า 5 ราย เป็นการกระทำของผู้ประกอบ วิชาชีพเวชกรรม แต่วันนี้คลินิกปิดให้บริการไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบด้านในได้ แต่ไม่ใช่ปัญหา เจ้าหน้าที่พร้อมที่จะกลับมาตรวจสอบใหม่เพื่อพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าคลินิกแห่งนี้ให้บริการถูกต้อง ยาที่ใช้มีคุณภาพตามมาตรฐานการแพทย์หรือไม่

อ้างตัวเป็นหมอโทษหนัก

ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า การตรวจสอบว่าเป็นแพทย์หรือไม่ ของแพทยสภาสามารถเข้าไปตรวจสอบที่เว็บไซต์ได้เลย เพราะจะมีฐานข้อมูลหากไม่มีในฐานข้อมูลก็ไม่ใช่แพทย์ตามที่ขึ้นทะเบียนกับแพทยสภาก็เป็นหมอเถื่อน ถ้าหากไปหลอกลวงจะมีความผิดตามกฎหมายวิชาชีพเวชกรรม มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับถือเป็นโทษขึ้นรุนแรง หากมีการประกอบวิชาชีพในสถานที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตจะมีโทษจำคุกอีก 5 ปี ถ้าแสดงตนเป็นผู้ดำเนินการจะมีโทษของผู้ดำเนินการอีก 5 ปี ขอฝากเตือนหากไม่ใช่ผู้ประกอบวิชาชีพอีกอย่าแสดงตนหรือไปให้บริการเพราะโทษค่อนข้างร้ายแรง

ค้นจุด 2 ร้านนวดบอสหมอเอก

ต่อมาเวลา 11.00 น. นายธนกฤต และคณะร่วมกันตรวจสอบสถานบริการร้านนวดมาสสาจ สยามแอนด์สปา ชั้น 1 โรงแรมแกรนด์ไดมอนด์ สวีท ถ.เพชรบุรี แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กทม. หลังพบปรากฏคลิปนายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ หรือบอสหมอเอก ใช้เป็นสถานที่โฆษณาเสริมความงามให้กับลูกค้า โดยพบว่าร้านสปาดังกล่าวแบ่งเป็นล็อกๆ แบ่งเป็น 2 ฝั่ง ในอาคารฝั่งขวามี 1 ห้อง มีเก้าอี้โซฟา 1 ตัว สำหรับต้อนรับลูกค้า ส่วนฝั่งตรงข้ามมีห้องสำหรับนวดมีกว่า 10 เตียง มีผ้าม่านปิดทึบ เจ้าหน้าที่ ปคบ. และ อย.ร่วมกันเข้าตรวจสอบดูตัวยาภาย ในร้าน และขอดูใบอนุญาตการจดทะเบียนสถานประกอบการ โดยมีนายกัน จอมพลัง ได้ทดสอบนั่งโซฟาตัวที่ปรากฏตามคลิป เพื่อตรวจสอบว่าใช้จุดเดียวกันหรือไม่

พบเช่าที่ถ่ายทำคลิป

นายธนกฤตกล่าวว่า พบคลิปหมอเอกบรรยายเรื่องการรักษาและประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามคลิป จึงมาตรวจสอบดูว่าพื้นที่เป็นอย่างไร ทราบว่าใช้พื้นที่ส่วนนี้สำหรับให้ลูกค้านั่งพักคอย จุดที่นายกัน จอมพลังนั่งอยู่ ใช้สำหรับการรีวิวคลินิก หากใช้ตรงนี้เป็นการประกอบสถานพยาบาลถือว่าไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล ด้วย ที่สำคัญตัวหมอเอกใช่หมอจริงหรือไม่ หากไม่ใช่จะมีความผิด 2 กรณีคือ ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต และประกอบสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกสูงถึง 5 ปี งั้นต้องเรียกคุณเอกแทนคำว่าหมอเอก ให้มาพบเถอะนะคิดถึง ที่มาในวันนี้ต้องการจะรู้ว่าสถานที่แห่งนี้มีการเปิดนวดจริงหรือไม่ มีใบอนุญาตหรือไม่ ส่วนที่ใช้สถานที่แห่งนี้รีวิวประกอบการรักษาถือว่าผิดตามกฎหมายตาม พ.ร.บ.เวชกรรม และผิด พ.ร.บ.สถานพยาบาล โดยจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เรียกเจ้าของกิจการหรือผู้ประกอบการดำเนินคดีในส่วนที่ไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุก 6 เดือน จากการสอบถามเจ้าของทราบว่านายเอกไม่ได้เป็นเจ้าของสถานที่แห่งนี้เพียงแต่มีมาเช่าเพื่อใช้มุมของร้านถ่ายคลิปให้บริการลูกค้าลงในสื่อโซเชียลมีเดียเท่านั้น

กมธ.ยันตามคดีจนถึงที่สุด

เวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส.เลย พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน กมธ.ปปง. สภาฯแถลงว่า สัปดาห์หน้า กมธ.จะเชิญ เลขาธิการ ปปง. บช.ก.ผู้เสียหายจากดิ ไอคอน และผู้บริหารดิ ไอคอน มาชี้แจง และ กมธ.จะตั้งคณะอนุ กมธ.ขึ้นมาติดตามเรื่องนี้จนถึงที่สุด จนกว่าผู้เสียหายได้รับความเป็นธรรมและเยียวยา หลังจากไปแจ้งความแล้วสามารถติดต่อกับทางอนุ กมธ.เพื่อติดตามได้ นอกจากนี้ กมธ.ได้ข้อสรุปว่า มีโอกาสเข้าข่ายกระทำผิดข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องแน่นอน คือ 1. พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค 2.พ.ร.บ.ขายตรงและการตลาดแบบตรง และ 3.พ.ร.ก.การให้กู้ยืมที่เกี่ยวเนื่องกับการฉ้อโกงประชาชน อีกอย่าง ส่วนองค์ประกอบของคณะอนุ กมธ.ที่จะตั้งขึ้นมาจากผู้ทรงคุณวุฒิเชี่ยวชาญเรื่องกฎหมายขายตรง ผู้ที่มีชื่อเสียง ด้วยภูมิความรู้ศักดิ์ศรีประสบการณ์ และสิ่งที่สังคมยอมรับ เชื่อว่าอนุ กมธ.จะเป็นเกราะกำบังชั้นดีจากผู้ที่หวังที่จะมาเคลียร์ตามที่เป็นข่าว

“ประเสริฐ” ตั้งทีมสอบปมเทวดา สคบ.

วันเดียวกัน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์ ประกอบด้วย 1.นายชาติพงษ์ จีระพันธุ์ อัยการอาวุโส เป็นประธาน 2.พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. 3.นายนิรันด์ ยั่งยืน รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน 4.นายกฤช เอื้อวงศ์ ที่ปรึกษา น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกฯ 5.พ.ต.ต.จตุพล บงกชมาศ ผอ.กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค กรมสอบสวนคดีพิเศษ 6.นายวิทยา นีติธรรม ผอ.กองกฎหมาย สำนักงาน ปปง. 7.นายปวริศ ผุดผ่อง คณะที่ปรึกษาของ รมต.ประจำสำนักนายกฯ และ 8.นายวิสุทธิ์ ฉัตรานุฉัตร ผอ.สำนักกฎหมาย และระเบียบกลาง สปน.เป็นเลขานุการ โดยจะประชุมนัดแรกในวันที่ 17 ต.ค.ทันที

เวิร์คพอยท์ยุติสัญญา “กันต์”

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า บริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด ในเครือบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ต้นสังกัดของกันต์ กันตถาวร ได้ส่งจดหมายประกาศระบุว่า ขอแจ้งยุติสัญญาการเป็นพิธีกรและศิลปินในสังกัดของคุณกันต์ กันตถาวร และจะได้มีการแจ้งเป็นหนังสือยุติสัญญาไปยังศิลปินต่อไป

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่