“ดิฉันเองก็เป็นลูกหลานตำรวจ ภูมิใจเสมอที่ได้เป็นลูกตำรวจ วันนี้มีวาระพิจารณาที่สำคัญหลายเรื่อง จึงอยากขอให้กรรมการทุกท่านร่วมกันพิจารณาด้วยความละเอียดรอบคอบตามกรอบของกฎหมาย และข้อเสนอแนะอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติยินดีรับฟังเสมอ”

คำพูดของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และประธาน ก.ตร.ย้ำถึงความภาคภูมิใจในความเป็นครอบครัวตำรวจ เข้ามารับฟังปัญหาทุกฝ่ายร่วมกันทำให้องค์กรตำรวจกลับมาเป็นที่เชื่อมั่นและศรัทธา

ด้วยความเข้าใจ

จากปัญหาความขัดแย้งตลอดเวลา 1 ปี ทำให้การขับเคลื่อนงานตำรวจทำได้กระท่อนกระแท่น ตำรวจอยู่ในสภาพอึดอัด แตกแยกและขัดแย้งรุนแรง ต่างฝ่ายต่างหาทางออกไม่ได้ การเข้ามาของผู้นำที่มีอำนาจเด็ดขาด มีความรักเข้าใจชีวิตตำรวจและครอบครัวตำรวจชั้นผู้น้อย ถือเป็นช่วงโอกาสที่ดีของกำลังพลตำรวจทั่วประเทศ

เริ่มต้นด้วยการสร้างประวัติศาสตร์แต่งตั้ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. อาวุโสลำดับ 1 เป็น ผบ.ตร.คนที่ 15 ยึดหลักอาวุโสและความรู้ความสามารถ ซึ่งถือเป็นประเพณีการปฏิบัติสืบต่อกันมาแต่เดิม

เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นในรอบหลายปีของ “วงการสีกากี” นำมาซึ่งการปัดแข้งปัดขากันเอง ต่างคนวิ่งหาการเมือง “คนนอก” ที่มีบารมีให้ได้เป็น ผบ.ตร. ทำให้ขาดความเป็นเอกภาพ และสายการบังคับบัญชา

น.ส.แพทองธารเข้ามาบริหารงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าที่ประธาน ก.ตร. เพียงครั้งแรกในการแสดงความจริงใจในการเสนอชื่อ ผบ.ตร. สร้างความคาดหวัง “ตำรวจน้ำดี” ทุ่มเท เสียสละทำงานเพื่อองค์กร

กลัดกระดุมเม็ดแรกที่ถูกต้อง

ท่าทีเปิดรับของนายกฯ เปิดโอกาสให้มีการอภิปรายตรวจสอบข้อมูลทั้งประวัติการรับราชการ ความประพฤติ ลำดับอาวุโส รอบคอบและถี่ถ้วน ต่างจากอดีตสิ้นเชิง นำมาสู่การลงมติแต่งตั้ง ผบ.ตร. เป็นเอกฉันท์

...

ไม่มีเสียงคัดค้านใดๆทั้งสิ้น.

"เพลิงพยัคฆ์"
pluengpayak@thairath.co.th

คลิกอ่านคอลัมน์ “เลขที่1 วิภาวดีฯ” เพิ่มเติม