แม่โล่งใจพบ "น้องเฟิร์น" ลูกสาววัย 9 เดือนแล้วที่ จ.นครสวรรค์ หลังถูกญาติอุ้มหนีหายไปจนต้องประกาศตามหา ยันไม่ขอเอาเรื่องคนพาไป-สัญญาจะดูแลลูกให้ดีขึ้น

จากกรณีที่เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 67 น.ส.อุ้ม อายุ 21 ปี ร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า น้องเฟิร์น ลูกสาววัย 9 เดือน ถูก น.ส.แป้ง อายุ 24 ปี ลูกพี่ลูกน้องตน ซึ่งเป็นผู้พิการทางสติปัญญาอุ้มลูกหนีหายไป โดยไม่รู้ว่าไปไหนและไม่ทราบชะตากรรมของลูกสาว

น.ส.อุ้ม เล่าว่า เดิมที น.ส.แป้ง พื้นเพเป็นคน จ.นครสวรรค์ มาอยู่กับตาได้ประมาณ 1 ปี มีศักดิ์เป็นน้าของน้องเฟิร์น ช่วยเลี้ยงน้องมาตั้งแต่เล็ก ทุกวันจะพาไปขายข้าวเกรียบว่าวที่ตลาดดีดี แยกอุทัย โดยมีตาไปด้วย จะไปกันตั้งแต่ 4 โมงเย็น ปกติจะกลับบ้านกันประมาณ 3 ทุ่ม

แต่เมื่อวานนี้ 19 ก.ย. ตนกลับจากขายของมาถึงบ้านเกือบเที่ยงคืน แต่ก็ไม่เห็นลูกสาว ซึ่งตาเองก็ไม่รู้ว่า น.ส.แป้งอุ้มหายไปไหน แม่จึงโพสต์ทางโซเชียลประกาศตามหาลูกด้วยความเป็นห่วง มีพลเมืองดีที่เปิดร้านขายของอยู่ในปั๊มแก๊ส NGV สิงห์บุรี แจ้งเบาะแสว่า ตอน 2 ทุ่ม วันที่ 19 ก.ย. เห็น น.ส.แป้ง เข้าไปซื้อนมให้ลูกอยู่ในปั๊ม และได้สอบถามว่าจะไปไหน เขาบอกว่าจะไป จ.นครสวรรค์ นอกจากนี้ยังมีพลเมืองดีอีกหลายคนช่วยแจ้งเบาะแสมา ตนเกรงว่าลูกสาวจะได้รับอันตราย ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามลูกสาวให้ด้วยนั้น

หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา รรท.ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา และพ.ต.อ.มนัส อัดโดดดร ผกก.สภ.อุทัย ช่วยเร่งติดตามหาน้องเฟิร์นให้ได้กลับสู่อ้อมอกแม่อย่างปลอดภัยโดยเร็ว

...

ต่อมาเช้าวันนี้ 21 ก.ย. 67 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยาว่า พบน้องเฟิร์นแล้ว หลังได้รับเบาะแสจากพลเมืองดีว่าเห็น น.ส.แป้ง อุ้มน้องเฟิร์นเดินขายลูกโป่งอยู่ที่ตลาดบ่อนไก่ พื้นที่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ เดินทางไปพร้อมกับพ่อแม่เพื่อรับตัวน้องเฟิร์น และนำตัว น.ส.แป้ง มาทำการสอบสวนที่ สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา

จากการตรวจสอบพบว่าน้องเฟิร์นปลอดภัยดี แต่ตามร่างกายถูกยุงกัดจนเป็นผื่นเต็มตัว ซึ่งจะได้ให้แพทย์ตรวจร่างกายและตรวจเลือดเพื่อป้องกันเชื้อไข้เลือดออก

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา รรท.ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา และพ.ต.อ.มนัส อัดโดดดร ผกก.สภ.อุทัย ได้ร่วมกันแถลงข่าวกรณีการติดตามหาช่วยเหลือน้องเฟิร์น

โดย พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากการสอบสวน น.ส.แป้ง เบื้องต้นอ้างว่าทะเลาะกับแฟน จึงจะกลับบ้านที่ จ.นครสวรรค์ ด้วยความรักน้องเฟิร์นจึงอยากจะพาไปอยู่ด้วยโดยไม่ได้บอกพ่อแม่ของน้อง หลังจากที่แม่ประกาศตามหาลูกในโซเชียล และแม่ได้ร้องทุกข์ไปยังมูลนิธิปวีณาฯ มีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสเข้ามาจำนวนมากจนทำให้การช่วยเหลือน้องเฟิร์นได้อย่างรวดเร็ว

จากการสืบสวนเชื่อว่าไม่ได้มีเจตนาจะลักพาตัวเด็กไป ประกอบกับตัวแม่ของเด็กไม่ได้เจตนาจะแจ้งความดำเนินคดีเนื่องจากเป็นเครือญาติกัน อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะต้องมีการลงบันทึกประจำวันและทำทัณฑ์บนไว้ หากมีการกระทำอีกก็จะเข้าข่ายการลักพาตัวเด็กไปจากบิดามารดา

นางปวีณา กล่าวว่า พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา รรท.ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา และพ.ต.อ.มนัส อัดโดดดร ผกก.สภ.อุทัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ ที่สำคัญขอขอบคุณพลเมืองดีที่ช่วยกันแจ้งเบาะแสกับตำรวจและมูลนิธิปวีณาฯ จนสามารถช่วยเหลือน้องเฟิร์นกลับมาได้สำเร็จ

ทั้งนี้ ขอฝากพ่อแม่ผู้ปกครองทุกท่านควรดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิดให้อยู่ในสายตา อย่าไว้ใจใครง่าย ๆ เพราะเด็กอาจจะเป็นอันตรายได้ โชคดีที่น้องเฟิร์นได้กลับสู่ครอบครัวอย่างปลอดภัยและได้รับการช่วยเหลือจากพลเมืองดีและเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างรวดเร็ว

...

น.ส.อุ้ม กล่าวด้วยความดีใจที่ได้ลูกคืนอ้อมกอด ขอบคุณ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา รรท.ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา และพ.ต.อ.มนัส อัดโดดดร ผกก.สภ.อุทัย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ และพลเมืองดีทุกท่านที่ให้การช่วยเหลือน้องเฟิร์นครั้งนี้ ถ้าไม่ได้ทุกท่านก็ไม่รู้ว่าลูกสาวตนจะเป็นอย่างไร จากนี้ตนจะดูแลลูกให้ดี จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกเด็ดขาด แต่ก็ยืนยันที่จะไม่เอาเรื่องแป้ง เนื่องจากเชื่อว่าแป้งไม่ได้มีเจตนาจะลักพาลูกของตนเองไป

ด้าน น.ส.แป้ง กล่าวสั้น ๆ ว่าไม่ได้มีเจตนาจะลักพาตัวเด็กไปแต่มีปัญหากับแฟนและตั้งใจจะกลับจังหวัดนครสวรรค์เพื่อไปหาย่า แต่เพราะว่าไม่มีโทรศัพท์จำเบอร์ใครไม่ได้จึงไม่ได้ติดต่อใคร ซึ่งคิดว่าจะไปหาย่าแค่สองวัน แล้วก็จะกลับมาบ้านที่จังหวัดอยุธยา.