สพฐ. เลื่อนแถลงผลสอบ กรณีครูเบญ สอบได้ที่ 1 แต่ชื่อหาย เตรียมดึงตำรวจพิสูจน์หลักฐานร่วมสอบอีกครั้ง ขณะที่มีรายงาน ผลสอบครูเบญ คะแนนไม่ถึง 60% ทั้งภาค ก. และ ภาค ข.

วันที่ 20 ก.ย. 67 นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) ชี้แจงข้อเท็จจริง การเลื่อนแถลงผลสอบกรณีคุณครู (ครูเบญ) สอบตำแหน่งพนักงานราชการได้ลำดับที่ 1 แต่ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงประกาศและชื่อหายไป โดย สพฐ. ได้นัดหมายแถลงข่าวผลการสอบในวันนี้ และได้มีการแจ้งเลื่อนการแถลงออกไป

นายธีร์ กล่าวว่า สำหรับประเด็นนี้ สพฐ. ขออภัยที่ได้มีการเลื่อนแถลงข่าวในวันนี้ โดยขอเรียนชี้แจงว่า ตั้งแต่ทราบเรื่อง สพฐ. ได้ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงโดยทันที และกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน ซึ่งได้ดำเนินการตรวจสอบเอกสารหลักฐานและได้รับผลการสืบเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 67 ที่ผ่านมา แต่เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ยุติธรรม ตรงไปตรงมา กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และ สพฐ. เห็นว่าควรให้หน่วยงานกลางภายนอกเข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย จึงมีมติว่าจะทำหนังสือถึงสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย ขณะเดียวกัน ศธ. ก็จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกชุด ที่ประกอบด้วยผู้ที่มีความน่าเชื่อถือ เข้ามาร่วมตรวจสอบอีกทางหนึ่ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับสังคมว่ากระบวนการตรวจสอบทั้งหมดมีความโปร่งใส และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียม

...

เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการตรวจสอบของสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจและคณะกรรมการของ ศธ. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สพฐ. จะดำเนินการแถลงผลการสอบให้สาธารณชนทราบต่อไป โดยจะเชิญคุณครูเบญญาภา พร้อมเจ้าหน้าที่ของสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ และผู้ที่เกี่ยวข้อง มาร่วมในการแถลงผลการสอบด้วย เพื่อให้ความกระจ่างและสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคม และเป็นมาตรฐานสำหรับการดำเนินการในกรณีที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ให้มีความถูกต้องตรงกันต่อไป

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ว่าที่ ร.ต.ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ออกมาเผยข้อมูลว่า ผลสอบเบื้องต้นของ สพฐ. พบว่าคะแนนของ "ครูเบญ" ไม่ผ่านเกณฑ์ คือ ไม่ถึง 60% ตามที่ระเบียบกำหนดไว้ ทั้งภาค ก. และ ภาค ข. รวมถึงไม่ติด 1 ใน 10 ส่วนคนที่ได้ที่ 1 พบว่าได้คะแนนสูงสุดจริง ซึ่งบุคคลดังกล่าวมีผลการเรียนที่ได้เกียรตินิยม และอีกหลายอย่างที่เชื่อได้ว่าน่าจะสอบได้จริง แต่ต้องรอผลการสอบของผู้เชี่ยวชาญยืนยันอีกครั้ง

ด้าน นายรณณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ให้สัมภาษณ์กรณี สพฐ. เลื่อนการแถลงข่าวกรณีครูเบญว่า วันที่ครูเบญซ้อมรับปริญญา ปรากฏมีคนไปวุ่นวาย คือ สพฐ. ส่งคนจำนวนมากลงไปหาครูเบญ ไม่ได้ไปธรรมดา มีระดับ ผอ.โรงเรียนที่ครูเบญเคยเรียนหนังสือลงไปด้วย เพื่อหว่านล้อมให้เซ็นเอกสารรับรองกระดาษคำตอบตอนค่ำ ถามว่าการกระทำเช่นนั้นอยู่ในอำนาจหน้าที่หรือไม่ และระหว่างการสอบสวนครูเบญใช้อำนาจหน้าที่อะไร ทั้งที่ครูเบญยังไม่ใช่ข้าราชการสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีอำนาจอะไรไปตรวจสอบและยึดมือถือครูเบญ ที่สำคัญเรื่องนี้ ได้มีการยื่นหนังสือถึง รมว.ศธ. ก็รู้อยู่ว่ามีใครช่วยดูเรื่องของครูเบญ ทำไมไม่ประสานงานมาตามขั้นตอน ยุติธรรมหรือไม่ ที่นำเด็กอายุ 24 ปี ไปสอบสวนเรื่องใหญ่ขนาดนี้ จนทำให้เด็กกลัว

และวันที่ 20 ก.ย. ที่นัดแถลงข่าวกับสื่อมวลชน ศธ. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นผู้นัดแถลง แต่ทำไมไม่แถลง หรือกลัวว่าแถลงแล้วจะเป็นหลักฐานมัดตัวเอง เพราะมีหลายหน่วยงาน หลายองค์กรดูอยู่ว่า ในการยกเลิกการสอบของครูเบญชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และกระบวนการ 3 วันที่สรุปว่าข้อสอบผิด ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เด็กเก่งหรือไม่เก่งคนละเรื่อง ประเด็นอยู่ที่ว่ากระบวนการชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และกระบวนการที่ตรวจข้อสอบผิดมันประมาทอย่างไร คำว่าประมาท คือ ไม่เจตนา ทั้งที่การสอบผ่านคณะกรรมการร่วม 50 คนที่รับรองครูเบญมาแล้ว ต้องอธิบายให้ได้ว่า ยกเลิกด้วยเหตุผลอะไร ตรวจพบอะไร ใครเป็นคนโทรศัพท์มาให้ตรวจข้อสอบใหม่

"หากครูเบญสอบผ่าน หรือไม่ผ่าน อย่างไรก็ประกาศออกมา ถ้าเราเห็นแล้วรับได้หรือไม่ได้อย่างไร ก็จะได้สอบถามกลับ แต่ก็ไม่แถลง ไม่เปิดโอกาสให้ซักถาม ฝากถึง สพฐ. จะเปิดข้อสอบกี่โมง รออยู่ ทำไมเปิดยากเปิดเย็น" นายรณณรงค์ กล่าว

นายรณณรงค์ กล่าวด้วยว่า ทุกอย่างควรจะอธิบายได้ทางกฎหมายและทางเหตุผล กรณีที่ครูเบญรับปริญญาวันที่ 20 ก.ย. จะเป็นเหตุผลในการเลื่อนแถลงหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่หาก สพฐ. ไม่มีอะไร ก็สามารถแถลงได้หรือไม่ เพราะสื่อมวลชนก็สามารถที่จะสอบถามแทนครูเบญเพื่อไขข้อสงสัยได้ กระบวนการคัดเลือกจะต้องกระจ่างบนเหตุและผล ที่ระบุว่าเป็นความคลาดเคลื่อนในการกรอกรหัสตัวเลขผู้สอบได้ผิด ก็ขอไปให้การกับ ป.ป.ช. ด้วยว่า จะเชื่อหรือไม่ เพราะก่อนการประกาศและรับรองผลจะต้องผ่านการตรวจสอบของคณะกรรมการอย่างน้อยถึง 3 ชั้น จะคลาดเคลื่อนอย่างไร ก็ต้องชี้แจงได้ทันที.

...