แม่เมย์เศร้า เล่านาทีสูญเสีย "น้องเอวา" เผย ใจน้องสู้มาก อยากบอกว่าไม่ต้องห่วง จะใช้ชีวิตให้ดีที่สุด พร้อมยืนยัน ไม่เคยเปิดขอบริจาคเงินแต่อย่างใด

วันที่ 19 กันยายน 2567 จากกรณีที่ "แม่เมย์" ได้แจ้งข่าวเศร้าของ "น้องเอวา" ด.ญ.ภัทรศยา กลิ่นขำ ลูกสาววัย 11 ปี ที่กำลังต่อสู้กับโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ได้เสียชีวิตแล้ว พร้อมแจ้งกำหนดการพิธีรดน้ำศพและสวดอภิธรรม ขณะที่โลกออนไลน์แห่คอมเมนต์แสดงความอาลัย ดังที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น ("น้องเอวา" ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย เสียชีวิตแล้ว เปิดข้อความสุดเศร้าจาก "แม่เมย์")

โดย แม่เมย์ พร้อมญาติ ได้นำร่างน้องเอวา ไปทำพิธีรดน้ำศพที่ วัดสระแท่น ต.นาดี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี  และในช่วงค่ำของทุกคืนจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมศพ รวม 3 คืน และ วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน เวลา 15.00 น. พิธีฌาปนกิจ  ซึ่งบรรยากาศในวันนี้ มีญาติและคนในพื้นที่ที่รักน้องเอวาไปร่วมงานเป็นจำนวนมาก

น.ส.ณัฐสุดา กลิ่นขำ หรือ แม่เมย์ กล่าวว่า น้องให้เคมีบำบัดและฉายแสง จนครบกระบวนการที่หมอวางแผนให้ น้องป่วยเป็นมะเร็ง จะต้องให้คีโมแล้วต้องไปฉายแสง พอครบคอร์ส หมอนัด MRI เพื่อสแกนดูเชื้อ พบว่าเชื้อสงบดี ใช้เวลารักษา 8 เดือนแล้วเชื้อก็กลับมากระจาย ที่กลับมารักษาใหม่น้องปกติทุกอย่าง กินเก่ง พูดเก่ง เล่นได้เหมือนเด็กปกติ แต่ให้คีโมแล้วผมร่วง พูดปกติไม่มีเหนื่อยไม่มีอะไรผิดปกติเลย ร่างกายก็ไม่ได้ผอมโซ เพราะเป็นเด็กที่กินเก่งมากตอนที่น้องจะจากไป ตนไม่ได้พูดอะไรเลย เพราะเมื่อวานตอนเย็นยังเห็นน้องว่ายังดีอยู่ ไม่คิดว่าเพียงกี่ชั่วโมงก็ไปแล้ว ไม่ได้บอกลาอะไรกันเลย

...

แต่ช่วงก่อนหน้านั้น ที่จะนิมนต์พระมาสวด น้องดูแย่มาก ๆ ดูไม่ดี คิดว่าน้องคงไม่อยู่แล้ว คงจะไปแล้ว คนโตก็บอกว่าให้บอกลาลูก วันนั้นหนูก็บอกลาลูก แต่วันนี้มันเร็วไปหมด ตอนที่น้องไม่มีลม ตนยังช็อก มาพูดตอนที่น้องไปแล้ว ถ้าน้องรับรู้ได้ ตนอยากบอกว่าไม่ต้องห่วง ตนจะใช้ชีวิตให้ดีที่สุด เพราะน้องเอวาห่วงตนมาก จะบอกลูกให้ไปรอแม่ก่อนเดี๋ยวแม่ตามไป เดี๋ยวได้เจอกัน น้องเก่งที่สุด ตนกับลูกสู้กันมามาก ๆ แล้ว ไม่ติดใจอะไรแล้ว รู้สึกว่าน้องไปสบายจริง ๆ

ก่อนที่น้องจะเสีย น้องปวดด้วยตัวโรค ปวดมาก ๆ ขนาดนั่งกอดกันสองคน ตนก็คุยถามลูกว่า เอวารู้ไหมตายแล้วจะเป็นอย่างไร เอวาบอกว่าหนูไม่รู้ว่าตายแล้วไปไหน หนูรู้แค่ว่าหนูอยากอยู่กับแม่ ถ้าหนูตายแม่ไปอยู่กับหนูได้ไหม หนูไม่อยากอยู่คนเดียว ตนก็ได้แต่บอกลูกว่าหนูจะมีแม่อยู่ข้าง ๆ อยากรู้ความรู้สึกเขาตอนนี้เป็นอย่างไร เอวาถามว่าตัวโรคของหนูเป็นหนักเลยเหรอ เราก็บอกว่าโรคหนูดื้อมาก ๆ แต่ไม่เป็นไร แม่จะอยู่ข้าง ๆ ลูกตลอด

น้องมีไข้สูง 39 องศา และอวัยวะของน้องเป็นหนอง ลิ้นห้อเลือด มีหนองไหลออกจากปาก แม่ก็พาน้องไปแอดมิดเลย ก็ดูเรื่องติดเชื้อ พอติดเชื้อผ่าน ก็เป็นงูสวัดขึ้นตา น้องมีภูมิต่ำ ช่วงนั้นเป็นไวรัลมาขึ้นมาที่ตา ตนก็ไม่รู้ว่าเป็นงูสวัด เป็นตุ่มเล็ก ๆ ใส ๆ พอตุ่มแตกก็ลามไปหมดเลย ตาปิด 2 ข้างไปเลย น้องก็สู้ ขนาดตาปิดก็ยังกินข้าวได้ แม่จ๋าขอระบายสีได้ไหม น้องสู้จริง ๆ ที่น้องสู้เพราะน้องอยากอยู่กับตนจริง ๆ ตนก็รู้ว่าใจเขาไม่อยากไป แต่น้องใจสู้

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามเรื่องมีการโพสต์ลงว่า "แม่น้องเอวา ขอเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือในการรักษาน้อง" นั้น น.ส.ณัฐสุดา เผยว่า ตนเองไม่เคยขอบริจาคเงินแต่อย่างใดเลย เคยมีเพื่อนโทรมาบอกว่า ในติ๊กต็อกได้เอาชื่อตนเองไปลงเพื่อขอบริจาค ซึ่งตนเองก็ได้ลงเพจไปแล้วว่า ไม่เคยขอบริจาคเงินแต่อย่างใด จึงขอให้สื่อมวลชนลงข่าวเรื่องนี้ให้ด้วย.