พายุลูกใหม่จ่อ ซ้ำเติมเหนือ-อีสาน เร่งพร่องแก้มลิงรับ "ภูมิธรรม" ถกเยียวยา

ถึงคิวเมืองรถม้าลำปาง ฝนถล่มหนัก น้ำป่าทะลัก ท่วม 3 อำเภอ กว่า 1 เมตร ระทึกกู้ภัยลุยน้ำเชี่ยวช่วยทารกวัย 8 เดือนหนีน้ำโกลาหลอุทยานฯดอยสุเทพ-ปุยเชียงใหม่ สั่งปิดน้ำตกตาดหมอก-แม่สา หวั่นนักท่องเที่ยวไม่ปลอดภัย ขณะที่จังหวัดลุ่มน้ำโขงยังไม่พ้นวิกฤติ ส่วนเมืองพัทยาเจอฝนกระหน่ำน้ำท่วมซ้ำซาก ด้านเขื่อนเจ้าพระยาจ่อปรับระบายน้ำเพิ่มรับพายุลูกใหม่ หลังอุตุฯออกโรงเตือนพัดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนกลาง ทำเหนือ-อีสานโดนเต็มๆ ด้าน “ภูมิธรรม” ถก ศปช. นัดแรกเร่งเยียวยาน้ำท่วม

รัฐบาลเดินหน้าแก้ปัญหาน้ำท่วมที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างแสนสาหัส พร้อมตั้งศูนย์บูรณาการเยียวยาเร่งด่วน ขณะที่สถานการณ์อุทกภัยหลายจังหวัดยังไม่คลี่คลาย หลังยังมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีพายุลูกใหม่ก่อตัวจ่อพัดถล่มซ้ำอีกระลอก

ฝนถล่มเมืองรถม้าสูง 1 เมตร

สถานการณ์น้ำท่วมเมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่ จ.ลำปาง เมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักในเขต อ.เมืองลำปาง ทำให้น้ำป่าไหลหลากจากภูเขาลงคลองส่งน้ำเข้าท่วมเขตชุมชนในตัวเมือง โดยเฉพาะในชุมชนเขลางค์ทอง หน้าโรงเรียนเขลางค์นคร ต.บ่อแฮ้ว บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบนับร้อยหลังคาเรือน ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร และไหลเชี่ยวกราก ชาวบ้านติดค้างออกมาไม่ได้ รถจมน้ำเสียหาย สิ่งของเครื่องใช้ลอยไปกับกระแสน้ำ นับเป็นภัยพิบัติหนักที่สุด ส่วนบ้านห้วยเป้ง หมู่ 5 ต.บ้านค่า น้ำล้นสปิลเวย์อ่างเก็บน้ำห้วยเป้งท่วมบ้านเรือนประมาณ 50-80 ซม. และที่บ้านแม่ก๋ง หมู่ 3 ต.บ้านเป้า ลำห้วยแม่ก๋งทะลักเข้าท่วมบ้านเดือดร้อนไม่ต่ำกว่า 100 หลังคาเรือน

ระทึกช่วยทารก 8 เดือนหนีน้ำป่า

ส่วนที่ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ฝนตกหนักตลอดทั้งคืนเช่นกัน ส่งผลให้น้ำป่าไหลบ่าท่วมในหลายพื้นที่ โดยที่หมู่ 1 ต.แม่เมาะ น้ำในลำห้วยเป็ดไหลเชี่ยวเข้าท่วมบ้านริมห้วยสูงกว่า 1 เมตร ได้รับความเสียหายกว่า 40 หลัง ชาวบ้านติดอยู่ในบ้าน ไม่กล้าฝ่ากระแสน้ำออกมา หน่วยกู้ภัยเทศบาลตำบลแม่เมาะต้องระดมทีมงานเข้าไปช่วยอพยพออกไปอยู่ในที่ปลอดภัย ในจำนวนนี้มีเด็กทารกเพศหญิงวัย 8 เดือน และผู้ป่วยที่เพิ่งได้รับการผ่าตัด เจ้าหน้าที่ช่วยอุ้มเด็กลุยน้ำออกมาอย่างทุลักทุเล ขณะที่ผู้ประสบอุทกภัยหลายคนเป็นห่วงบ้านไม่ยอมย้ายออกมา เจ้าหน้าที่นำอาหารและน้ำไปให้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าหากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ สถานการณ์จะกลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็ว

ฝายหมู่บ้านพังจมใต้บาดาล

นอกจากนี้ในพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง ฝนตกหนักวัดปริมาณน้ำฝนได้กว่า 100 มิลลิเมตร น้ำป่าไหลทะลักลงมาตามลำห้วยแม่ค่อมเข้ามาสบทบลำน้ำแม่ตุ๋ยเอ่อล้นเซาะฝายน้ำของหมู่บ้านพังเสียหาย น้ำทะลักเข้าท่วม ต.บ้านค่า สูงกว่า 1 เมตร บ้านจมน้ำกว่า 70 หลัง ส่วนที่ ต.บ้านเอื้อม ได้รับผลกระทบจากลำน้ำแม่ตุ๋ยเข้าท่วม 5 หมู่บ้าน เจ้าหน้าที่กู้ภัยนครลำปางนำเรือท้องแบนไปช่วยลำเลียงออกมาอยู่ในศูนย์อพยพชั่วคราว ขณะที่บางคนออกไปเลี้ยงวัวในทุ่งหน้าอีกฝั่งแม่น้ำ ไม่สามารถข้ามกลับมาได้ เจ้าหน้าที่ต้องไปช่วยพาข้ามฝั่ง

น้ำไหลซัดควายลอยตาย 2 ตัว

ส่วน จ.แม่ฮ่องสอน เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง และน้ำป่าไหลบ่าซัดควายของชาวบ้านใน ต.แม่คง ลอยตายไป 2 ตัว หลังเกิดเหตุนายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่า นายวรศักดิ์กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้รับรายงานจากนายสิงห์คำ อมรใฝ่สุนทร กำนันตำบลแม่คง ว่าเกิดฝนตกหนักตั้งแต่ตอนค่ำ ทำให้น้ำป่าไหลหลากซัดควายของนายเหว่พะเชอร์ สุดสุขสันต์ อยู่บ้านเลขที่ 2/1 หมู่ 11 ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง ลอยไปตามกระแสน้ำตาย 2 ตัว ขณะนี้อยู่ระหว่างช่วยเหลือชาวบ้าน

สั่งปิดน้ำตกตาดหมอก-แม่สา

ด้านนายสุรเชษฐ์ พินิจงาม นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ รักษาการในตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จ.เชียงใหม่ ออกประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวน้ำตกตาดหมอกและน้ำตกแม่สา ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หลังมีฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดทั้งคืน ทำให้น้ำป่าไหลหลากลงสู่น้ำตกตาดหมอกและน้ำตกแม่สา ปริมาณน้ำมากและไหลเชี่ยวกราก เกรงว่าจะไม่ปลอดภัยกับนักท่องเที่ยว อีกทั้งเพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดจากน้ำป่าไหลหลาก จึงประกาศปิดน้ำตกทั้งสองแห่งเป็นการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ขณะเดียวกันหลังฝนตกหนักได้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ ต.แม่แรม อ.แม่ริม ที่อยู่ท้ายน้ำให้เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน

บิ๊กคลีนนิ่งหอพักหน้า ม.พะเยา

ส่วนความคืบหน้าการฟื้นฟูอาคารบ้านเรือนประชาชนที่ประสบภัยน้ำป่าถล่มชุมชนหอพักหน้ามหาวิทยาลัยพะเยาเสียหายอย่างหนักเมื่อคืนวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดทีมงานจิตอาสาหน่วยงานต่างๆ นิสิตของมหาวิทยาลัยพะเยาร่วมกับเจ้าของผู้ประกอบการหอพักและอาคารที่ประสบอุทกภัยช่วยกันทำความสะอาดล้างดินโคลนตามถนน และหอพัก นอกจากนี้มีช่างจิตอาสาตั้งศูนย์ซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ให้กับนิสิตที่ได้รับผลกระทบจมน้ำเครื่องยนต์พังไม่ต่ำกว่า 100 คัน บริเวณหน้าศูนย์ประสานงานภัยพิบัติมหาวิทยาลัยพะเยา

เจ้าของหอครวญหมดทุกอย่าง

พ.ต.ท.จารุวัจน์ สุปินะ 1 ในเจ้าของหอพักที่ได้รับผลกระทบ เปิดเผยว่า ไม่เคยเจอเหตุการณ์น้ำท่วมหนักแบบนี้มาก่อน รู้สึกเสียใจ เพราะสูญเสียหมดทุกอย่าง ไม่รู้ว่าจะได้รับการเยียวยาอย่างไร แต่ไม่ได้โทษใคร ส่วนการพัฒนาโครงการต่างๆในพื้นที่ควรศึกษาระบบนิเวศให้ดีก่อน เพราะการสร้างทางบีบบังคับทางน้ำจนทำให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วม ครั้งนี้ ทำให้อาคารหอพักร่วม 20 หลังเสียหายหมด

เผยนิสิตเดือดร้อนนับหมื่นคน

ด้าน รศ.ดร.สุภกร พงศบางโพธิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยพะเยา กล่าวว่า มหาวิทยาลัยตั้งศูนย์ประสานงานภัยพิบัติเพื่อช่วยเหลือนิสิตที่ประสบกับอุทกภัยน้ำป่าไหลหลากท่วมที่พักในหอพักบริเวณด้านนอกของมหาลัย ส่วนมากนิสิตจะพักอยู่ตามหอพักข้างนอกบริเวณมหาวิทยาลัยเป็นหมื่นคน มหาวิทยาลัยเตรียมการช่วยเหลือทั้งเครื่องอุปโภคบริโภค อาหาร พร้อมฟื้นฟูสุขภาพจิตใจ เพราะบางคนไม่เคยเจอเหตุการณ์หนักอย่างนี้ หากมีผู้ต้องการช่วยเหลือนิสิตสามารถติดต่อได้ที่มหาวิทยาลัยพะเยาโดยตรง

ทหารซ่อมพนังน้ำสายชำรุด

ขณะที่การกู้ตลาดชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่น้ำท่วมเสียหายอย่างหนักในรอบหลายสิบปี เจ้าหน้าที่จากหลายภาคส่วนยังคงระดมความช่วยเหลือไปให้ชาวแม่สายไม่ขาดสาย ขณะที่ชาวบ้านช่วยกันทำความสะอาดกวาดล้างดินโคลนที่ทับถมเต็มบ้าน คาดว่าต้องใช้เวลาอีกหลายวัน ด้าน พ.อ.สิงหนารท โลสุยะ รอง เสธ.มทบ.37 นำถุงบิ๊กแบ็กไปปิดพนังกั้นน้ำแม่สายในซอยต้นโพธิ์บ้านไม้ลุงขนและใต้สะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 ซอย 14 ชุมชนเกาะทราย ทำให้น้ำยังไหลเข้าในบางพื้นที่ ด้านนายวรรณศิลป์ จีระกาศ ปลัดเทศบาลตำบลแม่สาย กล่าวว่า ทหารช่วยซ่อมพนังที่ชำรุดสองจุดจากทั้งหมด 8 จุด

ตร.น้ำปันน้ำใจชาวแม่สาย

ขณะที่ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป.รรท.ผบก.รน. ร่วมกับ พ.ต.อ.พยงค์ เอี่ยมสกุล ผกก.4 บก.รน. และ พ.ต.อ.อนรรฆ ประสงค์สุข ผกก.12 บก.รน. นำกำลังจัดกิจกรรมจิตอาสา “ร่วมฝ่าฟันวิกฤติน้ำท่วม ปันน้ำใจเคียงข้างชาวแม่สาย“ มอบถุงยังชีพมูลนิธิตำรวจสอบสวนกลางให้กับนักเรียนโรงเรียนบ้านสันมะนะที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย อ.แม่สาย จ.เชียงราย รวมทั้งบูรณะฟื้นฟูโรงเรียนบ้านสันมะนะ บริเวณลานกิจกรรมของน้องๆนักเรียนให้กลับสู่สภาพเดิม รวมถึงมอบให้ประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ และไปเยี่ยมให้กำลังใจผู้สูงอายุในศูนย์พักพิงชั่วคราว วัดพรหมวิหาร รวมถึงข้าราชการตำรวจ กก.12 บก.รน. ที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

น้ำโขงทะลักหนุนลำน้ำสาขา

สถานการณ์น้ำท่วมลุ่มแม่น้ำโขง เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่ จ.นครพนม ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดระดับน้ำอยู่ที่ 11.80 เมตร ห่างจากจุดวิกฤติล้นตลิ่ง 12 เมตร เพียง 20 ซม. ทำให้น้ำโขงเริ่มเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำหลายจุด อีกทั้งยังหนุนลำน้ำสาขาสายหลักทั้งลำน้ำอูน และลำน้ำสงครามที่มีปริมาณน้ำล้นเกินความจุ ไม่สามารถระบายลงแม่น้ำโขงได้ โดยเฉพาะที่บ้านท่าบ่อ ต.ท่าบ่อสงคราม อ.ศรีสงคราม ถือเป็นหมู่บ้านเสี่ยงภัยริมลำน้ำสงครามที่มีบ้านอยู่กว่า 300 หลังคาเรือน ขณะนี้น้ำเอ่อล้นพื้นที่รอบนอกล้อมหมู่บ้านจนกลายเป็นเกาะกลางน้ำ บางจุดเริ่มทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนที่อยู่ติดริมน้ำได้รับความเดือดร้อนหลายหลังคาเรือน

นาจม 4 หมื่นไร่-ควายอดหญ้า

นอกจากนี้น้ำยังไหลท่วมนาข้าวในพื้นที่บ้านท่าบ่อ ต.ท่าบ่อสงคราม จมน้ำเสียหายแล้วไม่ต่ำกว่า 40,000 ไร่ ขณะที่เกษตรกรส่วนใหญ่ในหมู่บ้านก็มีอาชีพเลี้ยงควายรวมกันไม่ต่ำ 1,000 ตัว ได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถปล่อยควายไปเลี้ยงตามธรรมชาติในท้องทุ่งได้ เนื่องจากถูกน้ำท่วมเกือบหมด ต้องต้อนควายไปอยู่บนที่สูงและจัดหาฟางซื้อฟางอัดก้อนที่ปรับราคาช่วงน้ำท่วมจากก้อนละ 15-20 บาท ขึ้นเป็นก้อนละ 40-50 บาท ต้องซื้อฟางให้ควายกินวันละ 1,000 บาท ชาวบ้านเผยว่า ปีนี้แม่น้ำโขงมีปริมาณมากและมาเร็วกว่าทุกปี ตอนนี้หมู่บ้านถูกน้ำท่วมมาหลายวันแล้ว ต้องแบกภาระค่าฟางให้ควาย 15 ตัว เกือบ 20,000 บาท แม้ว่าหน่วยงานภาครัฐจะนำฟางแห้งอัดก้อนสนับสนุนแจกจ่ายให้เกษตรกร แต่ยังขาดแคลนอีกมาก

บึงกาฬท่วมหนักสุดรอบ 10 ปี

ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่ไหลผ่าน จ.บึงกาฬ ลดลงเล็กน้อย แต่สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ เนื่องจากน้ำเหนือจาก จ.หนองคาย ไหลมาเพิ่ม โดยเฉพาะพื้นที่ อ.โพนพิสัย ประกอบกับจะมีพายุดีเปรสชันพัดผ่านเข้ามาในอีก 1-2 วันนี้ จุดที่น่าเป็นห่วงคือที่ลุ่มต่ำใน ต.หอคำ อ.เมืองบึงกาฬ ขณะนี้มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมมานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ล่าสุดนายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผวจ.บึงกาฬ นำคณะผู้มีจิตศรัทธาจากหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนลงเรือท้องแบนกองทัพเรือไปมอบถุงยังชีพให้กับชาวบ้านที่บ้านโคกสะอาด หมู่ 4 ต.หอคำ นายไสว ขันอาสา อายุ 60 ปี 1 ในผู้ประสบภัยกล่าวว่า น้ำท่วมบ้านตั้งแต่วันที่ 11 ก.ย. สูงเกือบ 2 เมตร หนักสุดในรอบ 10 ปี

รัตนวาปีเดือดร้อน 4 ตำบล

ส่วนที่ จ.หนองคาย แม่น้ำโขงเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมหลายพื้นที่มาตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย. โดยเฉพาะที่ อ.รัตนวาปี น้ำขึ้นสูงสุดวันที่ 16 ก.ย. ที่สถานีเรือรัตนวาปี 19.75 เมตร เกินจุดวิกฤติล้นตลิ่งอยู่ 75 ซม. ทำให้น้ำไหลท่วม 4 ตำบลมี ต.รัตนวาปี 7 หมู่บ้าน ต.โพนแพง 1 หมู่บ้าน ต.บ้านต้อน 4 หมู่บ้าน และ ต.พระบาทนาสิงห์ 1 หมู่บ้าน แม้ว่าขณะนี้น้ำเริ่มลดลง แต่ยังคงล้นตลิ่งเกือบ 10 ซม. หากไม่มีน้ำเหนือหนุนหรือฝนตกในพื้นที่เพิ่มเติม คาดว่าในอีก 1-2 วันจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ขณะที่ความช่วยเหลือจังหวัดล่าสุด นายสมภพ สมิตะสิริ ผวจ.หนองคาย นำส่วนราชการไปแจกจ่ายถุงยังชีพและน้ำดื่มให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบที่บ้านตาลชุม ต.รัตนวาปี

พร่องน้ำแก้มลิงรับพายุลูกใหม่

นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น ลงพื้นที่ติดตามการขุดลอกท่อระบายน้ำถนนศรีจันทร์บริเวณด้านหน้า รพ.ขอนแก่นราม เขตเทศบาลนครขอนแก่น เพื่อรองรับพายุลูกใหม่ นายไกรสรเปิดเผยว่า นอกจากขุดลอกท่อเอาสิ่งปฏิกูลออกแล้วยังเพิ่มพื้นที่รับน้ำในเขตแก้มลิงขนาดใหญ่ที่บึงหนองโคตร ต.บ้านเป็ด ขณะนี้เร่งพร่องน้ำมาตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา วันนี้น้ำบึงหนองโคตรจากเดิมเต็มความจุอ่าง 5 ล้าน ลบ.ม. เหลือ 4 ล้าน ลบ.ม. เป็นไปตามแผนการพร่องน้ำที่จังหวัดดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ต้องเคลียร์ท่อระบายน้ำถนนศรีจันทร์สองฝั่ง โดยเฉพาะช่วงจากชุมชนศรีฐาน ผ่านหน้า รพ.ขอนแก่นราม ไปตามเส้นทางน้ำที่ต้องเปิดพื้นที่รับน้ำและระบายน้ำให้มากที่สุด

สตูลน้ำสูง-เจอทะเลหนุนซ้ำ

ภาคใต้ที่ จ.สตูล น้ำท่วมหลายอำเภอลดระดับลงเล็กน้อย ยกเว้น อ.ละงู น้ำยังท่วมสูง เนื่องจากยังมีฝนตกลงมาต่อเนื่อง หนักสุด ต.เขาขาว และ ต.กำแพง เป็นพื้นที่รับน้ำด้านทิศใต้ก่อนไหลลงสู่ทะเลอันดามัน บางจุดระดับน้ำสูงถึงหน้าอก นายอีสา เขียวยับ ชาวบ้านหมู่ 13 ต.ละงู กล่าวว่า น้ำไหลท่วมบ้านมา 2 วันแล้ว ต้องหนีออกมานอนอยู่บน

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่