คณะสงฆ์พร้อมด้วยข้าราชการร่วมประชุมหารือ กรณีหญิงวัย 57 ปี ร้องเพจดัง เจ้าอาวาสวัดยืมเงินเกือบ 10 ล้านบาท ซ้ำพอขอคืนโดนไล่ให้ยึดโบสถ์ยึดศาลา
วันที่ 5 ก.ย. 67 มีรายงานว่า จากกรณีผู้เสียหายอ้างว่าถูกเจ้าอาวาสวัดดัง ย่านลำลูกกาคลอง 13 ยืมเงินไปเกือบ 10 ล้านบาทและบอกให้ผู้เสียหายไปยึดโบสถ์ยึดศาลา พร้อมกับไปร้องเพจสายไหมต้องรอด ต่อมาทางเจ้าอาวาสวัดได้ชี้แจงว่า เงินนำมาทำบุญผู้ร้องเป็นคนนำเงินมาทำบุญอันเป็นกุศลเอง แต่ถ้ามีหนังสือกู้ยืมเงินก็สามารถดำเนินการไปตามกฎหมายได้ พร้อมกับยืนยันว่า การยื่นกุญแจโบสถ์ค้ำประกันเงินกู้นั้นไม่เป็นความจริง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : หนังคนละม้วน เจ้าอาวาสแจงดราม่ายืมเงินหญิงวัย 57 ซ้ำเป็นฝ่ายโดนทำร้าย)
โดยล่าสุด พระราชสุทธิธรรมจารย์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เจ้าอาวาสวัดประยูรธรรมาราม ได้เรียกเจ้าคณะอำเภอเจ้าคณะตำบล มาหารือถึงประเด็นดังกล่าว โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งการหารือได้เรียก เจ้าอาวาสรูปดังกล่าวมาร่วมชี้แจงด้วย แต่จากการตรวจสอบไม่ได้อยู่ที่วัดและทราบว่าไปรักษาตาที่โรงพยาบาลบ้านแพ้วไม่สามารถกลับมาหารือได้ทันภายในวันนี้
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุม วัดพืชอุดม หมู่ 9 ตำบลพืชอุดม อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี นายคมสัน ญาณวัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยนายสมชาย ตรีณาวงษ์ นายอำเภอลำลูกกา, พระครูสุวรรณวรการ ดร. เจ้าคณะอำเภอลำลูกกา ประธานฝ่ายสงฆ์ เจ้าอาวาสวัดสุวรรณบำรุงราชวราราม พระอธิการสมบูรณ์ บุญศรี อายุ 75 ปี เจ้าอาวาสวัดพืชอุดม คณะสงฆ์ฝ่าย ณ วัดพืชอุดม ตำบลพืชอุดม อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ได้ร่วมกันเข้าประชุมพูดคุยเรื่องดังกล่าว ซึ่งไม่ยินยอมให้สื่อมวลชนเข้ารับฟังการประชุม
...
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้ข้อมูลมาว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 67 พระอธิการสมบูรณ์ บุญศรี อายุ 75 ปี ได้ไปแจ้งความกับ พ.ต.ต. ธนสรณ์ แช่มข้อย สารวัตรสอบสวน สภ.ลำลูกกาว่า เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 67 ได้มีเศรษฐินีท่านหนึ่ง ได้ข่มขู่ทางผู้แจ้งให้ยินยอมรับสภาพหนี้จำนวนเงิน 9,200,000 บาทและเงินค่าจ้างค้างจ่ายสถานีวิทยุทหารอากาศมีนบุรี AM 1251 ให้กับนางจิราวัฒน์ พิมพ์ภูราราย จำนวนเงิน 230,000 บาท เป็นสภาพบังคับที่ทำให้ผู้แจ้งไม่สามารถหลบเลี่ยงจากการถูกบีบบังคับขืนใจให้กระทำในสิ่งที่ตนมิได้ยินยอม แต่ไม่สามารถขัดขืนได้ จึงมาลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป และขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น
ทางด้าน พระอธิการสมบูรณ์ บุญศรี อายุ 75 ปี เจ้าอาวาสวัดพืชอุดม กล่าวว่า โดยเรื่องที่ไปเซ็นรับสภาพหนี้นั้น วันนั้นอาตมาไปหาคณะสงฆ์ แล้วเขาก็ขู่ถ้าไม่ยอมรับสภาพหนี้ก็จะให้สึก เราก็อยู่ในสภาวะจำยอม จึงได้เซ็นไป แล้วหลังจากนั้นก็ได้ไปแจ้งความว่าถูกบังคับให้เซ็นรับสภาพหนี้ ส่วนเรื่องการยืมเงินถ้าหมายถึงการกู้ยืมนั้นไม่มี แต่ถ้ายืมปากเปล่านั้นจะว่าไปก็เป็นการสร้างโน่นบูรณะนี่ ก็บอกกล่าวแล้วเขาก็จะมาช่วย โดยการบริจาคนั้นก็แล้วแต่ละครั้งมากน้อยแตกต่างกันไป มีทั้งหมื่น 2 หมื่น 3 หมื่น แสนนึงประมาณนี้ หลังจากได้เงินมาก็เอาไปทำเลย โดยผ่านทางบัญชีของหลวงพ่อ
ด้านนายอ้วน หรือ สิทธิโชค แก้วประเสริฐ เป็นโยมอุปัฏฐาก กล่าวว่า ที่มีการอ้างว่าจะเอาโบสถ์ไปใช้หนี้นั้นไม่เป็นความจริง ใครจะเอาไปให้เขา เรื่องของเรื่อง สาเหตุที่มีการทวงหนี้กัน เนื่องจากที่ผู้หญิงท่านนี้มาทำบุญที่วัดมายาวนาน 12-13 ปี โดยพระอาจารย์บอกบุญไปนั้น ถ้าใครไม่สะดวกมาทำบุญที่วัดก็จะเป็นการโอนเงินมาทำบุญ หรือบางทีก็จะมาทำบุญที่ท่านเอง
ส่วนเรื่องที่เป็นหนี้กันนั้น ตนเองไม่ทราบว่าเป็นเรื่องอะไรกันแน่ โดยกล่าวหาว่า หลวงพ่อเป็นหนี้ 9.2 ล้านบาท เป็นหนี้เกือบ 20 ปี โดยการทำบุญนั้นก็ทำมาเรื่อย แต่ครั้งละเท่าไรนั้นไม่รู้ว่าเท่าไรที่เขาแอบอ้าง ที่เขามีหลักฐานการโอนเงิน ซึ่งเขาบอกพวกผมว่า พระอาจารย์เป็นหนี้เขารวมทั้งต้นและดอก รวมทั้งหมด 9.2 ล้านบาท แต่เงินต้นเขาไม่ได้พูดถึงว่าเป็นหนี้เท่าไร ผมก็ถามหลวงพ่อว่าเป็นหนี้เท่าไร โดยพระอาจารย์ก็บอกว่าไม่เคยเป็นหนี้ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการบอกบุญก็โอนมา แล้วก็มีการเอามาถวายเท่านั้น ซึ่งที่ผมรู้มานะครับ ก็จะมีการทำบุญภายในวัดโดยมีการเชิญพระมาร่วมสวดมนต์ ซึ่งทางวัดก็ได้บอกบุญโดยคุณผู้หญิงท่านนี้ก็บอกว่า เดี๋ยวจะช่วยทำบุญ ซึ่งวันนั้นมีเงินที่เขาช่วยมาประมาณ 6-7 หมื่นบาท ซึ่งกรรมการวัดก็ลงบัญชีไว้
...
แต่พอวันต่อมา เขาได้มาขอคืนเงินจากคณะกรรมการ บอกว่าไม่อยากทำแล้ว ขอคืนดีกว่า ซึ่งการกระทำของเขาเป็นแบบนี้บ่อยครั้ง ผมไม่รู้นะเขาอาจจะเป็นคนที่มี 2 บุคลิกหรือเปล่า พอดีก็ทำบุญ แต่พอนั้นก็มาขอเงินคืน แล้วทางวัดก็คืนให้ โดยเงินที่เขาทำบุญกับวัดนั้น ส่วนใหญ่จะโอนเงินเข้าบัญชีพระอาจารย์ แต่ว่าทำบุญกับวัด หรือให้อาจารย์นั้นเราก็ไม่แน่ใจ.