ช่วงนี้การประชุม ก.ตร.ดูจะเงียบเหงาหน่อย เพราะการเมืองยังไม่สะเด็ดน้ำ อยู่ระหว่างตั้ง ครม.ใหม่

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เลยนั่งเป็นประธานเอง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องรูทีนไม่มีอะไรหวือหวา เรื่องสำคัญต้องรอ ประธาน ก.ตร.คนใหม่ ที่ตามกฎหมายต้องเป็นนายกรัฐมนตรีคนนั้นคือ นายกฯอิ๊งค์

แต่การประชุม ก.ตร.เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา มีเรื่องสะดุดตาเกี่ยวกับการอนุมัติเยียวยาตำแหน่งนายตำรวจระดับ “ผู้กำกับ”?

หลังจาก พ.ต.ท.วรวิทย์ ยามารี รอง ผกก.สส.สภ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ร้องขอความเป็นธรรมกับ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) กรณี ผบช.ภ.8 ไม่แต่งตั้งขึ้นเป็น ผกก. ตามระเบียบอาวุโส 33 เปอร์เซ็นต์ อ้างว่า เพราะไม่มีสเปกในกลุ่มสายงานใด?!

แต่หลังจาก ก.พ.ค.ตร.รับเรื่องพิจารณาแล้วพบว่าเป็นเรื่องจริง ต้องส่งเรื่องให้ ก.ตร.พิจารณากำหนดตำแหน่งเพื่อเยียวยาตามขั้นตอน!

เรื่องการแต่งตั้งผิดเพี้ยนมีมาทุกยุคทุกสมัย ทั้งๆที่เห็นข้อมูลข้อเท็จจริงอยู่ทนโท่ แต่ยังดำดินมองข้ามไปแต่งตั้งคนอื่นขึ้นมารับตำแหน่งแทนหน้าตาเฉย

ที่น่าห่วงคือ มันเริ่มกลายเป็นเรื่องปกติ!

ต้องให้ตำรวจผู้เสียผลประโยชน์ไปร้องแรกแหกกระเชอเอาเอง ก่อนมี ก.พ.ค.ตร. ส่วนใหญ่ถึงขั้นฟ้องศาลปกครอง สุดท้าย ก.ตร.ก็ต้องมาเยียวยาทุกครั้ง?!

สงสัยต้องมีกำหนดลงโทษผู้บังคับบัญชาที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบการแต่งตั้งโยกย้ายอย่างเคร่งครัดซะบ้าง

ยิ่ง พ.ร.บ.ตำรวจใหม่พยายามให้การแต่งตั้งโยกย้ายเป็นธรรม ข้ามหัวกันน้อยลง กำหนดให้แต่งตั้งผู้อาวุโสถึง 50 เปอร์เซ็นต์ด้วยแล้ว ปัญหาการแต่งตั้งผิดเพี้ยนน่าจะตามมาอีกเยอะ

ปล่อยให้ผิดพลาดทุกรอบ วงการสีกากีเองนี่แหละ ที่จะเสื่อม?

...

สหบาท

คลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม