"สาวเอนเตอร์เทน" หวั่นไม่ปลอดภัยร้องเพจ "สายไหมต้องรอด" หลังถูกชายอ้างเป็น "ตำรวจ" มาซื้อบริการ แต่เสร็จแล้วกลับขอเงินคืน แถมขู่รีดทรัพย์เป็นรายเดือน

วันที่ 29 ส.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน พาหญิงสาวผู้เสียหายเดินทางมาที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับชายทั้ง 4 คน อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหน่วยงานหนึ่งพฤติกรรมสุดแสบในข้อหาปล้นทรัพย์

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว สาวเอนเตอร์เทน วัย 27 ปี สุดทนร้องสายไหมต้องรอด หลังถูกชาย 4 คน อ้างเป็นตำรวจกรุงเก่า ติดต่อขอซื้อบริการตามปกติ แต่หลังมีเพศสัมพันธ์จนเสร็จกิจได้ขอเงิน 1,500 บาทคืน โดยอ้างว่าไม่สำเร็จความใคร่ แต่ฝ่ายหญิงปฏิเสธเนื่องจากได้ร่วมหลับนอนกันแล้ว ก่อนฝ่ายชายจะใช้ยุทธวิธีอ้างตัวเองเป็นตำรวจ หากไม่คืนเงินจะขอจับกุมข้อหาค้าประเวณี

จากนั้น ฝ่ายชายได้โทรศัพท์หาเพื่อนที่อยู่กับสาวเอนเตอร์เทนอีก 1 คน โดยให้เอาตัวไปที่โรงพัก สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา เมื่อถึงโรงพักได้มีการแจ้งว่าจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีข้อหาค้าประเวณี ฝ่ายหญิงจึงยอมคืนเงิน 1,500 บาทให้ แต่ชายอ้างตัวเป็นตำรวจไม่ยอมจบ ขู่ขอเงินเพิ่มอีก 20,000 บาท

ทั้งนี้ ฝ่ายหญิงไม่มีเงินจึงแจ้งว่าขอให้ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีเพื่อที่จะได้เสียค่าปรับ ยังไงค่าปรับก็ไม่ถึง 20,000 บาท หลังพูดจบทำให้กลุ่มชายที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พอใจมาก ด่าทอสาวเอนเตอร์เทนว่ารู้มาก จากนั้นได้กดดันให้สาวทั้ง 2 คนโทรหาญาติเพื่อมาที่โรงพัก แต่สาวปฏิเสธพร้อมแจ้งว่าทางครอบครัวไม่รู้ว่ามาทำงานแบบนี้

...

ดังนั้นจึงทำให้กลุ่มชายได้ทีอ้างว่า หากไม่ต้องการให้ญาติรู้ก็ต้องหาเงินมาจ่าย 20,000 บาท สุดท้ายเจรจาต่อรองลดให้เหลือ 5,000 บาท โดยจ่ายเป็นเงินสดแล้วโอนเข้าบัญชี 1,000 บาท สาวเอนเตอร์เทนทั้ง 2 คนจึงรวบรวมเงินมาจ่ายให้

ขณะที่ก่อนจะปล่อยตัวไป ยังแจ้งอีกว่าจะต้องจ่ายส่วนรายเดือนด้วย เดี๋ยวจะติดต่อมา จากนั้นชายทั้ง 4 คน ยังพยายามจะเอาตัวสาวไปให้เพื่อนร่วมหลับนอนแบบฟรีๆ อีก แต่สาวไม่ยอม หลังเกิดเหตุสาวกังวลเรื่องความไม่ปลอดภัย จึงตัดสินใจร้องขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด

ทางด้าน พ.ต.อ.เอกราช อุ่นเจริญ รอง ผบก.ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เผยว่า ทางตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา ได้รับเรื่องจากทางเพจสายไหมแล้ว ซึ่งยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย และก็ความคุ้มครองพยานอย่างเต็มที่ โดยจะมีการสืบสวนสอบสวนแสวงหาเรื่องราวที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิด

อย่างไรก็ตาม เตรียมตรวจสอบว่าชายทั้งสี่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่ พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพสอบร่วม หากเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจของรัฐต้องสืบทราบว่าเป็นการกระทำส่วนตัวหรือเป็นการใช้อำนาจหน้าที่แล้วไปกระทำผิดแล้วความผิดปรากฏ ก็จะมีความผิดในมาตรา 149 ส่วนจะเกี่ยวกับ พ.ร.บ. อุ้มหายหรือไม่ ต้องรอสอบสวนอีกที.