เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่สนามช้างอารีนา จ.บุรีรัมย์ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาอาเซียน ครั้งที่ 13 พร้อมการประชุมที่เกี่ยวข้อง ภายใต้หัวข้อ “พลิกโฉมการศึกษาในยุคดิจิทัล” (Transforming Education in the Digital Era) ว่า การประชุมครั้งนี้เป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้นำด้านการศึกษาจากประเทศสมาชิกอาเซียน อาเซียนบวกสาม (จีน เกาหลี ญี่ปุ่น) และอาเซียนบวกแปด (จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย สหรัฐอเมริกา รัสเซีย) มารวมตัวกันเพื่อแสดงวิสัยทัศน์และแลกเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาการศึกษา โดยมุ่งเน้นการรับมือกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงระดับโลก ที่จะหล่อหลอมอนาคตการศึกษาในอาเซียน โดยเฉพาะการเตรียมทรัพยากรมนุษย์ให้พร้อมสําหรับโลกการทํางาน จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โครงสร้างทางประชากรและเศรษฐกิจสีเขียว รวมถึงการพัฒนาทักษะใหม่และการยกระดับทักษะเพื่อให้แรงงานยังคงมีความสามารถในการปรับตัว ยืดหยุ่น และแข่งขันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยคุกคามและความท้าทายที่เกิดขึ้นอย่างทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เวทีนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประเทศไทย โดยเฉพาะการส่งเสริมบทบาท และภาพลักษณ์ของประเทศไทยกับอาเซียน และประเทศคู่เจรจา เพื่อผลักดันประเทศในภูมิภาคสู่การบรรลุเป้าหมายการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงและครอบคลุม รวมถึงการสนับสนุน การศึกษาตลอดชีวิต ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ

ด้านนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ทุกประเทศสมาชิกสนใจเรื่องโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ เนื่องจากประชากรไทยมีจำนวนมากและผู้เรียนจำนวนมาก ทั้งให้ความสนใจระบบการบริหารจัดการเรื่องการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการศึกษาที่บุรีรัมย์ โดยเฉพาะที่ ร.ร.มีชัยพัฒนา นอกจากนี้ ในกลุ่มสมาชิกอาเซียนยังพบปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ซึ่งที่ประชุมเชื่อว่าการนำเทคโนโลยีทางการศึกษามาใช้จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำและสร้างโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียม ดังนั้น การศึกษาของไทยจะเปลี่ยนไปสู่การศึกษายุคดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งทุกฝ่ายมองว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ จะเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อการศึกษา.

...