"สมศักดิ์" เตือนสุราปลอมระบาด เผยช่วงนี้เข้าโรงพยาบาลแล้ว 16 ราย "อาการหนัก-ใส่ท่อช่วยหายใจ" ชี้เป็นภาวะพิษจากเมทานอล ย้ำเมื่อดื่มเข้าไปจะคลื่นไส้-อาเจียน-ตาพร่ามัว ปวดหัว-อ่อนเพลียมากดื่มมาก เลือดจะเป็นกรด-เกิดอาการชัก-หมดสติ-อาจเสียชีวิตได้ แนะหลีกเลี่ยงบริโภค สั่ง สธ.เร่งให้ความรู้
เมื่อวันที่ 24 ส.ค.67 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงกรณีพบผู้ป่วยดื่มสุราปลอม (เมทานอล) เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลหลายรายว่า ตนได้รับรายงานว่าในช่วงนี้ 22-24 สิงหาคม 2567 พบว่า มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี และโรงพยาบาลใกล้เคียง รวม 16 ราย โดยทุกรายมีอาการหนัก ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ เนื่องจากมีภาวะพิษจากเมทานอล ซึ่งสาเหตุมาจากการดื่มสุราปลอมที่มีส่วนผสมเมทานอล โดยขณะนี้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาพยาบาลแบ่งเป็น รพ.นพรัตนราชธานี จำนวน 9 ราย, รพ.นวมินทร์ 9 จำนวน 4 ราย, รพ.เกษมราษฎร์ จำนวน 1 ราย, รพ.เสรีรักษ์ จำนวน 1 ราย, และ รพ.ราชวิถี จำนวน 1 ราย
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การดื่มสุราปลอมถือเป็นมหันตภัยร้ายคร่าชีวิต ซึ่งตั้งแต่ปี 2551-2562 พบผู้ป่วยทั้งหมด 573 ราย โดยผู้ป่วยที่ได้รับพิษจากเมทานอล มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสุราปลอมส่วนใหญ่เกิดจากการที่ผู้ผลิตต้มและกลั่นเองโดยไม่มีมาตรฐาน พบบ่อยในยาดองเหล้า โดยคนทำอาจนำสารแปลกปลอมมาผสม เช่น พิษจากสัตว์มีพิษ สารเคมีกำจัดแมลง รวมถึงผสมชนิดที่เป็นพิษ หรือเมทานอลที่มีราคาต้นทุนต่ำ ซึ่งเมทานอลเป็นแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่ง ไม่มีสีนำมาใช้เป็นตัวละลายอินทรีย์เป็นเชื้อเพลิง หรือเป็นสารตั้งต้นในการผลิตพลาสติก โดยเมื่อเมทานอลเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้ระคายเคืองทางเดินอาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ตาพร่ามัว ปวดหัว อ่อนเพลีย ซึ่งหากร่างกายได้รับในปริมาณมาก อาจส่งผลให้เลือดเป็นกรด เกิดอาการชัก หมดสติ และเสียชีวิตได้
...
"ผมขอเตือนพี่น้องประชาชนให้หลีกเลี่ยงการบริโภคสุราปลอม โดยสังเกตได้จากแสตมป์สรรพสามิตที่ขวด พร้อมสังเกตลักษณะขวดต้องไม่มีการแยกบรรจุใหม่ ไม่มีการใช้ขวดเครื่องดื่มอื่นมาบรรจุแทน รวมถึงควรสังเกตสุราหากพบว่า มีสี กลิ่น รสเปลี่ยนไปจากเดิม ไม่ควรดื่ม นอกจากนี้ผมก็อยากให้บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เร่งให้ความรู้โทษและภัยสุขภาพ โดยสื่อสารความเสี่ยงของสุราปลอม ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสถานประกอบการ รวมทั้งส่งเสริมการออกกำลังกาย เพื่อลดการดื่มสุราด้วย" รมว.สาธารณสุข กล่าว