“รองต่าย-ผู้ช่วยสำราญ” ควงกันไป ปส.คุมตรวจค้นยาเสพติดทั่วประเทศแบบเรียลไทม์ มีเป้าปิดล้อมตรวจค้น 2,941 จุด 2,941 เป้าหมาย 770 เครือข่าย ผลจับกุม 1,938 คดี ได้ผู้ต้องหา 2,017 คน ยึดยาเสพติดมโหฬาร อายัดทรัพย์สินรวมมูลค่า 136,155,089บาท เผยทำจริง จับจริง ยึดจริง โวผลงานตั้งแต่ ต.ค.66ถึงปัจจุบัน ยอดจับกุมผู้ค้าได้ 1 แสนกว่าราย ยึดอายัดทรัพย์สินรวม 1 หมื่นกว่าล้านบาท รับเข้าพบนายกฯอิ๊งค์เป็นเรื่องของการขับเคลื่อนปราบยาเสพติด ปัดทาบทามตำแหน่งและไม่ได้มีการแถลงข่าวเร่งสร้างผลงานโชว์

“บิ๊กต่าย” คุมเข้มตรวจค้นยานรกทั่วประเทศแบบเรียลไทม์ เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 22 ส.ค. ที่ศูนย์ปฏิบัติการห้องประชุมพรมนอก ชั้น 2 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมผู้แทนจาก กอ.รมน. สำนักงาน ป.ป.ส.ร่วมแถลงผลปิดล้อมตรวจค้นทั่วประเทศแบบ เรียลไทม์ของ บช.ภ.1-9, บช.น., บช.ปส. บูรณาการกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีเป้าหมายปิดล้อมตรวจค้น 2,941 จุด 2,941 เป้าหมาย 770 เครือข่าย

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวว่า วันนี้มาติดตามการปิดล้อมตรวจค้นจากทุกจุดทั่วประเทศที่รายงานผลแบบเรียลไทม์ มีผลปฏิบัติดังนี้ จับกุมคดียาเสพติดรวม 1,938 คดี ผู้ต้องหา 2,017 คน จับกุมตามหมายจับคดียาเสพติด 126 หมายจับ ยึดยาบ้า 11,040,694 เม็ด ยาไอซ์ 645.51 กก. คีตามีน 177.47 กก. เฮโรอีน 2.23 กก. ยาอี 94 เม็ด ปืน 169 กระบอก ยึดอายัดทรัพย์สิน 827 รายการ รวมมูลค่า 136,155,089 บาท

รอง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ผลปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดทั่วประเทศในครั้งนี้ จะเห็นว่าตำรวจทั่วประเทศรุกหนักอย่างเป็นรูปธรรม ทำจริง จับจริง ยึดจริง ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีนโยบายเน้นปราบปรามผู้ค้ารายย่อยมีผลกระทบโดยตรงกับประชาชนในชุมชนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เห็นได้ว่าจากสถิติจับกุมและยึดของกลางคดียาเสพติดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่ ต.ค.66-ปัจจุบัน มีผลจับกุมผู้ค้ายาเสพติดถึง 108,275 ราย ยึดยาเสพติด เป็นยาบ้า 883,601,155 เม็ด ยาไอซ์ 21,246 กก. คีตามีน 4,761 กก. เฮโรอีน 1,336 กก. ยาอี 131,597 เม็ด และโคเคน 52.6 กก. ยึดอายัดทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 11,705 ล้านบาท

...

จากนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.เดินทางต่อไปที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกับ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.แถลงข่าว พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ บก.สปพ.หรือ 191 จับกุมนายจิรภัทร หรือเจมส์ วงศ์กว้าง อายุ 25 ปี และนายอานนท์ หรือเบียร์ วงษ์สมุทร อายุ 25 ปี พร้อมยาบ้า 5,464,000 เม็ด ยาไอซ์3.5กก.กระสุนปืน 38 นัด จับได้ที่บ้านเลขที่ 15/55หมู่บ้าน เวิร์ฟ พระราม 9 แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กทม. ต่อเนื่องซอยรัชดาภิเษก 10 แยก 11-6 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม.

หลังแถลงเสร็จสิ้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ตอบคำถามสื่อกรณีมีข่าวเข้าพบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กทม.ว่า ถูกเรียกไปขับเคลื่อนเรื่องยาเสพติดเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น คิดว่ารัฐบาลจะมีนโยบายเน้นหนักเข้มข้นเรื่องปราบปรามยาเสพติด รูปแบบปัจจุบันที่มุ่งไปที่ผู้เสพ เรียกว่า demand ที่ต้องนำไปบำบัดรักษา และเรื่องการคลุ้มคลั่งทำร้ายร่างกายคือเป้าหมายที่ต้องหาตัว นำไปดำเนินการตามขั้นตอนและจำคุก สิ่งเหล่านี้มาจากพ่อค้ายาตอนนี้มุ่งเป้าไปที่พวกรายย่อยถือเป็นนโยบาย นอกจากนี้จะต้องรอฟังการแถลงนโยบายของรัฐบาลจะมีเรื่องใดบ้างที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องขับเคลื่อน

เมื่อถามว่าที่ผ่านมา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีผลปราบปรามยาเสพติดชัดเจนจะเข้าไปขอคำปรึกษาหรือไม่ รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า เชื่อว่าผู้บริหารบ้านเมืองมั่นใจว่าทุกคนเห็นความสำคัญและมุ่งมั่นจะปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง ยืนยันว่าการเข้าพบนายกรัฐมนตรีไม่มีการทาบทามใดๆร้อยเปอร์เซ็นต์ มีเพียงเรื่องยาเสพติดเพราะมีทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ และ ป.ป.ส. รวมถึงสาธารณสุขด้วย เพื่อรับฟังการขับเคลื่อนและสิ่งที่ต้องทำในอนาคต เมื่อถามเรื่องการแถลงข่าวช่วงนี้มีการเร่งทำผลงานอะไรหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ไม่มี เนื่องจากตนรับผิดชอบเรื่องการป้องกันปราบปราม และ ผอ.ศูนย์อำนวยการป้องกันปราบปรามเรื่องยาเสพติดด้วย เรื่องยาเสพติดถือเป็นภัยคุกคามต่อประชาชนและเป็นผลกระทบทำให้เกิดบุคคลคลุ้มคลั่ง มีการระบาดแพร่หลาย เป็นหน้าที่ตนที่ต้องเดินหน้าปราบปราม ไม่ได้คิดถึงเรื่องการสร้างผลงานใดๆ

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่