สัปดาห์นี้ ทีมงานซอกแซกขอเชิญชวนท่านผู้อ่านเตรียมตัวเตรียมใจไปร่วมฉลองวันแม่แห่งชาติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสอันเป็นมงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคมเวียนมาบรรจบอีกครั้ง...ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1–3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี

ซึ่งจะมีการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ “ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจด้วยพระบารมี 2567” โดย กรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ระหว่างวันที่ 10-18 สิงหาคมนี้ รวม 9 วัน ตั้งแต่ 10.00 น.จนถึง 21.00 น. ของทุกวัน

เสียดายที่ทีมงานซอกแซกจำเป็นต้องส่งต้นฉบับก่อนที่งานจะเริ่ม ซึ่งมาถึงวันนี้ได้ผ่านไป 1 วัน คือวันเสาร์ที่ 10 สิงหาคมเป็นที่เรียบร้อย ทำให้ไม่มีโอกาสที่จะเดินตระเวนดูงานโดยรวมว่ารูปแบบของงานจะเป็นอย่างไร มีจุดเด่นอะไรบ้าง? ในสายตาของทีมงานซอกแซกดังเช่นที่เขียนถึงงานอื่นๆ

แต่จากการแถลงข่าวโดยละเอียดของท่านอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน สยาม ศิริมงคล เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้า นับเป็นข้อมูลสำคัญที่สามารถนำมาเขียนปูพื้นให้ท่านผู้อ่านสามารถจินตนาการ ถึงภาพรวมและความยิ่งใหญ่ตลอดจนความน่าสนใจได้อย่างดียิ่งในระดับหนึ่ง

ประกอบกับประสบการณ์ของหัวหน้าทีมซอกแซกที่เคยมีโอกาสไปร่วมงานนี้มา 3-4 ครั้ง ในช่วงเวลากว่า 10 ปี ที่มีการจัดงานเป็นต้นมา สามารถที่จะยืนยันได้ว่า กรมพัฒนาชุมชน ไม่เคยทำให้ผิดหวัง แถลงข่าวล่วงหน้าไว้อย่างไร...ผลที่ออกมาก็จะเป็นดังที่แถลงไว้หรือดีกว่าในบางเรื่องบางประเด็นด้วยซ้ำ

การจัดงานครั้งแรก ภายใต้ชื่องาน “ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี” เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 21-27 กุมภาพันธ์ 2555 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ประสบความสำเร็จอย่างสูงยิ่ง มีประชาชนไปเยี่ยมชมงานและจับจ่ายซื้อสินค้าจากศูนย์ศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่นำมาจำหน่ายพร้อมกับสินค้าโอทอปชั้นนำจาก 4 ภาคอย่างหนาแน่น ตลอด 7 วันของการจัดงาน

...

เป็นแรงบันดาลใจให้กรมพัฒนาชุมชนดำเนินการจัดงานเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ติดต่อกันมาทุกปี และเลื่อนช่วงเวลาการจัดงานให้เข้ามาอยู่ในช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม เพื่อร่วมเฉลิมฉลอง “วันแม่ แห่งชาติ” ไปพร้อมๆกับ กิจกรรมอื่นๆ ที่ประชาชนจัดขึ้นทั่วประเทศ

หัวหน้าทีมซอก แซกมีโอกาสไปเยี่ยมชมงานและจับจ่ายสินค้าหลายครั้ง และได้กลับมาเขียนแนะนำในคอลัมน์ “เหะหะพาที” บ้าง คอลัมน์ “ซอกแซก” บ้างในทุกครั้งที่ไปเยือน

ดังเช่นในปี พ.ศ.2563 ได้เขียนรายงานไว้โดยสรุปว่า การจัดงาน “ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี” ประจำปี 2563 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-16 สิงหาคม ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ประสบความสำเร็จอย่างสูงยิ่ง

ทีมงานซอกแซกซึ่งไปเดินก่อนวันสุดท้าย (15 สิงหาคม) พบว่า ประชาชนชาว กทม.และปริมณฑล ตลอดจนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ส่วนหนึ่งมาร่วมงานอย่างคับคั่ง แม้จะอยู่ในช่วงเวลาที่โควิด-19 เริ่มระบาดแล้วก็ตาม แต่ยังเป็นระยะแรกๆที่ประเทศไทยของเรามีระบบป้องกันได้อย่างดีเยี่ยม

ท่านอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน ใน พ.ศ.ดังกล่าว นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ได้แถลงข่าวไว้ในวันเดียวกันนั้นว่า เฉพาะวันที่ 12 ส.ค. วันเดียวมียอดขายรวมกันถึง 61 ล้านบาท และเมื่อรวมยอดขายทั้งหมดเป็นเวลา 5 วัน สามารถขายสินค้าต่างๆได้แล้วกว่า 246 ล้านบาท และมีผู้เข้าชมงานกว่า 8 หมื่นคน ทำให้คาดหมายว่า เมื่อครบ 9 วันของการจัดงาน จะเกินเป้าหมาย 300 ล้านบาทที่ตั้งไว้

ล่าสุด เมื่อปีที่แล้วนี่เอง จากถ้อยแถลงของกรมพัฒนาชุมชน สรุปได้ว่า การจัดงาน “ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี 2566” สามารถสร้างยอดจำหน่าย สินค้าได้มากถึง 710 ล้านบาท โดยเฉพาะสินค้าประเภท ผ้า กวาดรายได้ไปมากกว่า 283 ล้านบาท โดยมีประชาชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศเข้าชมงานอย่างล้นหลามตลอด 9 วันของการจัดงาน

สำหรับปีนี้ 2567 ซึ่งเป็นปีที่ 13 ของการ จัดงานจะมีขึ้น 9 วันเช่นเดียวกัน ระหว่าง 10-18 สิงหาคมนี้ ณ สถานที่เดิม อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่ 10.00-20.00 น. ของทุกๆวันที่จัดงานนั้นจะมีจุดเด่นที่สำคัญ ดังนี้

ในงานจะแบ่งออกเป็น 2 โซนใหญ่ ได้แก่ โซน “ศิลปิน OTOP” และโซน “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ทั้งนี้ ในส่วนของ ศิลปิน OTOP จะเป็นการจัดแสดงและจำหน่ายผลงานของศิลปิน OTOP จำนวน 60 ราย ซึ่งจะนำผลิตภัณฑ์จากฝีมือที่โดดเด่น วิจิตรตระการตา แสดงออกถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยด้วยทรรศนะเชิงช่างและงานศิลป์ชั้นยอดมาจัดแสดงและจำหน่ายเพื่อร่วมอนุรักษ์และสร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนรุ่นใหม่เป็นการเฉพาะ

สำหรับโซน “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” นั้น จะเป็นการแสดงนิทรรศการผ้าไทยเพื่อร่วมเชิดชูคุณค่าผ้าไทยอันเป็นหนึ่งในงานหัตถศิลป์ล้ำค่าที่สามารถสร้างรายได้สู่ชุมชนพร้อมหนุนเศรษฐกิจไทยให้เติบโต ถือเป็นโซนที่คนรักผ้าไทยห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด

นอกจาก 2 โซนใหญ่นี้แล้ว ภายในงานยังประกอบด้วยบูธจำหน่ายสินค้า OTOP ทั้งงานฝีมือ พืชผัก ผลไม้ และขาดไม่ได้คืออาหารอร่อยจากทั่วไทยมาให้บริการเต็มพื้นที่ 60,000 ตารางเมตร กว่า 2,000 บูธ

กรมพัฒนาชุมชนหวังไว้เต็มเปี่ยมว่าปีนี้จะมีผู้เข้าชมและยอดจำหน่ายสินค้าสูงกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา.

“ซูม”

คลิกอ่านคอลัมน์ “ซูมซอกแซก” เพิ่มเติม