เชื่อว่า คำตัดสินชี้ขาดของ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) นัดประชุมพิจารณาสำนวนอุทธรณ์ คำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ระหว่าง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผบ.ตร. ที่มีคำสั่งสมัยเป็น รรท.ผบ.ตร.

เปิดโอกาสชี้แจง

พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ผู้อุทธรณ์ และ ผบ.ตร. คู่กรณีในอุทธรณ์มอบหมายให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เป็นผู้แทน ซึ่งแต่ละฝ่ายมีความประสงค์ที่จะยื่นคำแถลงเป็นหนังสือและคำแถลงด้วยวาจาต่อ ก.พ.ค.ตร.

ก.พ.ค.ตร. นำคำแถลงที่เป็นหนังสือ และการแถลงด้วยวาจาประชุมพิจารณาต่อเนื่องร่วมกับคำอุทธรณ์ คำแก้อุทธรณ์ คำชี้แจง และพยานหลักฐานอื่นๆ ที่ ก.พ.ค.ตร. ได้มาจากการแสวงหาข้อเท็จจริงไว้ก่อนหน้านี้

พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ยื่นอุทธรณ์ต่อ ก.พ.ค.ตร. กรณีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน โดยมองว่าเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เข้าชี้แจงเนื่องจากเป็นผู้ลงนามคำสั่ง ว่าเป็นคำสั่งชอบตามกฎหมาย

คณะกรรมการฯ นำสำนวนหลักฐานได้ทำไว้เสร็จแล้ว ประกอบการให้ถ้อยคำวันนี้พิจารณาร่วมกัน

สรุปผลวินิจฉัย

เมื่อได้ข้อสิ้นสุดคำวินิจฉัยทางคณะกรรมการฯ จะส่งผลทั้ง 2 ฝ่ายก่อนแถลงให้สาธารณชนรับทราบ

หากผลวินิจฉัยคณะกรรมการฯ ออกมาเป็นลบ คำสั่งออกจากราชการชอบด้วยกฎหมายต่อ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ยื่นคำร้องศาลปกครองสูงสุดภายใน 90 วันหลังทราบผล ขอให้คุ้มครองสถานะเป็นตำรวจชั่วคราว

แต่ในทางกลับกันหากผลเป็นบวก คำสั่งออกจากราชการมิชอบด้วยกฎหมาย ต่อ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ คำสั่งออกจากราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะต้องมีการเพิกถอน และ พล.ต.อ.สุรเชษษฐ์ จะกลับมารับตำแหน่งดังเดิม และได้รับสิทธิประโยชน์คงเดิม

...

รวมทั้งได้เป็นผู้ที่มีชื่อได้รับการแคนดิเดตคัดเลือกเข้ามาเป็น ผบ.ตร.

ผลวินิจฉัย ก.พ.ค.ตร. คาดว่า เสร็จสิ้นภายใน 1-2 สัปดาห์จากนี้ไม่เกินสิ้นเดือน ส.ค. รู้ผลทางการ

คำยืนยัน พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ที่ว่า “รอทางคณะกรรมการได้มีคำวินิจฉัยและไม่ติดใจ หากผลออกมาเป็นทิศทางใด ยืนยันว่าหลังจากนี้หากผลการวินิจฉัยของคณะกรรมการ เป็นไปในทิศทางลบหรือบวก น้อมรับ แต่หากผลเป็นลบจะใช้สิทธิ์ยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองสูงสุด ขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองสถานะการเป็นตำรวจ และพิจารณาเพิกถอนคำสั่งให้ออกจากข้าราชการไว้ก่อน จะฟ้องร้องในทุกประเด็นตามที่กฎหมายให้สิทธิ์”

ชัดเจนในคำพูด ตอบข้อสงสัยสังคมได้ว่า...ความคลุมเครือวงการ “สีกากี” จบลงได้เมื่อไรกันแน่

ผลจะออก “หัว” หรือ “ก้อย” ห้ามกะพริบตา.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th

คลิกอ่านคอลัมน์ "เลขที่1 วิภาวดีฯ" เพิ่มเติม