พ.ศ.2500 นักเรียน ม. 1 คนหนึ่ง ร.ร.ศรัทธาสมุทร สมุทรสงคราม ร้องเพลง อโศกรักสลักใจ...สุเทพ วงศ์กำแหง ครูตัดสินให้ได้ที่ 1
เนื้อหาในเพลง กามนิต รำพันความหลัง วันที่พบรักวาสิฏฐี ประสบการณ์นี้ ต่อมาโตขึ้น ตามอ่านหนังสือเรื่องวาสิฏฐี ที่เสฐียร โกเศศ-นาคะประทีป แต่ง
เรื่องค้างใจ...ชายหัวโล้น ที่กามนิต ใช้คำเรียก “ภราดา” นั่งสนทนาทั้งคืน แล้วรีบขอตัวไปตามหาพระพุทธเจ้า ความจริง ก็คือพระพุทธเจ้า
เท่าที่พอจำได้ ระหว่างการตาม กามนิตถูกวัวบ้าขวิดตาย ...แล้วก็ไปเกิดบนดอกบัวบนสวรรค์ ชั้นของพระอมิตภพุทธเจ้า เจอวาสิฏฐี รำลึกถึงความรักความหลังกัน ...นี่เป็นเรื่องในวาสิฏฐี ภาค 2
พ.ศ.2531 ผมชวนเตีย ที่ดี จากสุรินทร์ เพื่อนร่วมสอบคณะนิเทศศาสตร์ รุ่น 3 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มาเป็นคนพิสูจน์อักษรในไทยรัฐ วันหนึ่งเตียก็ยื่นหนังสือ “พุทธธรรม” เล่มหนา ของท่านอาจารย์มหาประยุทธ์ (ป.อ.ปยุตโต) ให้พื้นฐานเณรนักธรรมชั้นเอก ผมอ่านพุทธธรรมจบในสามเดือน ธรรมะชุดหนึ่งที่ประทับใจ คัดเอามาเขียนในคอลัมน์นี้หลายครั้ง วันนี้ลองอ่านทบทวนกันอีกสักที
พาหิยะเป็นพ่อค้าตระกูลมั่งคั่งค้าขายทางทะเล วันหนึ่งเรือสำเภาอับปาง (ตอนนี้ คล้ายๆเรื่องพระมหาชนก) พาหิยะรอดชีวิตขึ้นฝั่ง ปกปิดร่างกายด้วยใบไม้ ชาวบ้านเจอเข้าสำคัญว่าเป็นผู้วิเศษ หาข้าวปลาอาหารให้กิน
พาหิยะได้ทีเอาชีวิตรอดด้วยบทอรหันต์จำลองหลอกชาวบ้านกินนานปี จนวันที่ได้ข่าว อรหันต์ตัวจริงก็ตัดสินเดินเท้าหลายร้อย กม.จนไปถึงวัดพระเชตวัน...รอเฝ้าพระพุทธเจ้าออกบิณฑบาตโปรดสัตว์ตอนเช้า
ทันทีที่เสด็จออกประตูวัด พาหิยะก็ปราดเข้าขวาง แนะนำตัว แล้วบอกตรงๆ จะขอถามปัญหาสำคัญข้อเดียว
“ดูก่อน!พาหิยะ นี่เป็นเวลาบิณฑบาต” พระพุทธเจ้าปฏิเสธ
...
พาหิยะตื๊อบอก เดินทางมาไกลมากๆ ทั้งไม่รู้ว่าจะมีเวลาชีวิตเหลืออยู่แค่ไหน เซ้าซี้สามครั้งขอถาม
“มีชีวิตแบบไหน จึงจะไม่มีความทุกข์”
ถึงเวลานั้น ธรรมะชุดสำคัญสั้นๆ สำหรับบางคนเท่านั้น...ก็ออกจากพระโอษฐ์
“พาหิยะ! เมื่อใด เธอเห็นรูปแล้ว สักว่าเห็น ได้ฟังเสียงแล้ว ก็สักว่าฟัง ได้ดมกลิ่นแล้ว ก็สักว่าดม ได้ลิ้มรสแล้ว ก็สักว่าลิ้ม ได้สัมผัสทางผิวกายแล้ว ก็สักว่าสัมผัส ได้รู้แจ้งธรรมารมณ์ ก็สักว่ารู้แจ้งแล้ว เมื่อนั้น “เธอ” จักไม่มี
เมื่อใด “เธอ” ไม่มี เมื่อนั้น “เธอ” ก็ไม่ปรากฏในโลกนี้ ไม่ปรากฏในโลกอื่น ไม่ปรากฏระหว่างแห่งโลกทั้งสอง
นั่นแหละ คือ ที่สุดของทุกข์
หากจะเปรียบดอกบัว พื้นฐานพาหิยะเหมือนบัวพ้นน้ำ แดดส่องนิดก็บาน ทั้งยังเป็นคฤหัสถ์ แต่ระดับจิตก็หลุดพ้น บรรลุเป็นพระอรหันต์
พระธรรมบท บันทึกเรื่องนี้ต่อไปว่า พาหิยะผู้เพิ่งฟังธรรมะแสนสั้นจากพระโอษฐ์...ก็ขอบวช ระหว่างเดินทางหาอุปกรณ์การบวช ก็ถูกวัวแม่ลูกอ่อนขวิดตาย
ทั้งที่ยังไม่ได้บวช แต่ก็ได้รับยกย่องว่า เป็นมหาสาวก ระดับเอตทัคคะ ในทางตรัสรู้ฉับพลัน
ผมอ่านตอนนี้ก็เดาเองเชื่อเอง เรื่องของพาหิยะ นี่ล่ะ!ต้นเค้า ฝรั่งเอาไปแต่งนิยายกามนิตวาสิฏฐี ใจหายเสียดาย...แทนหนุ่มน้อยกามนิต โชคดีได้นั่งสนทนากับพระพุทธเจ้าทั้งคืนแต่ไม่รู้จัก
ต่างจากพาหิยะ เฝ้าพระพุทธเจ้าแป๊บเดียว โชคดีที่ได้ฟังธรรม บรรลุธรรม แต่โชคร้ายตายเสียก่อนจะได้บวช
เรื่องของพาหิยะ ตัดสินข้อสงสัยชาวพุทธ...ชาวบ้านก็เป็นพระอรหันต์ได้ ใครที่พูดว่า ผ้าเหลือง เป็นธงชัยพระอรหันต์ เชื่อได้แต่ไม่ควรเชื่อเต็มร้อย.
กิเลน ประลองเชิง
คลิกอ่านคอลัมน์ "ชักธงรบ" เพิ่มเติม