ในความตั้งใจที่จะเขียนเรื่องดีๆ ผมเปิดพจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 11 พ.ศ.2551 ของท่านอาจารย์ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตโต) ตั้งใจอ่าน

เจอเรื่อง พระปุณณสุนาปรันตะ

นี่คือ หนึ่งในจำนวนอสีติมหาสาวกของพระพุทธเจ้า ที่พวกเราชาวไทยพุทธรู้จักน้อยไปสักหน่อย

ชื่อเดิม ปุณณะ เกิดที่เมืองท่าสุปารกะ แคว้นสุนาปรันตะ ซึ่งเล่าลือกันว่า เป็นเมืองคนดุ ประกอบอาชีพพ่อค้าเกวียน นำกองเกวียน 500 เล่ม ตระเวนค้าขายไปตามบ้านเมืองต่างๆ

คราวหนึ่ง นำกองเกวียนแวะพักใกล้วัดพระเชตวัน กรุงสาวัตถี เห็นชาวเมืองแต่งตัวเรียบร้อย พากันไปฟังธรรม ปุณณะชวนบริวารเดินตาม ไปนั่งอยู่ท้ายสุดที่ประชุม พอได้ฟังพระธรรมของพระพุทธเจ้า ก็เลื่อมใส อยากบวช

วันรุ่งขึ้นถวายมหาทานแด่พระสงฆ์แล้ว ก็มอบหมายกองเกวียนให้ลูกน้อง นำไปให้น้องชายทำแทน แล้วบวชในสำนักพระศาสดา บวชแล้ว ก็ตั้งใจทำกรรมฐาน แต่ไม่สำเร็จ คิดจะไปบำเพ็ญภาวนาต่อที่บ้านเดิม

เมื่อเข้าไปกราบทูลขอโอวาท พระพุทธเจ้า ประทานพระโอวาท แสดงวิธีปฏิบัติต่อ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และธรรมารมณ์ โดยอาการที่จะมิให้ทุกข์เกิดขึ้น

แล้วก็ตรัสถามว่า จะไปอยู่ในถิ่นใด พระปุณณะทูลตอบว่าจะไปแคว้นสุนาปรันตะ

“ชาวสุนาปรันตะ เป็นคนดุร้าย” ตรัสถามต่อ“ ถ้าเขาด่าว่า ท่านจะอย่างไร?”

ทูลตอบ “จะคิดว่ายังดีนัก ที่เขาไม่ตบตี” ... “ถ้าเขาตบตี” “ยังดีนัก ที่เขาไม่ขว้างปาด้วยก้อนดิน”

ตรัสถาม“ถ้าเขาขว้างปาด้วยก้อนดินเล่า”...“จะคิดว่า ยังดีนักหนาที่เขาไม่ทุบตีด้วยท่อนไม้”

ตรัสถามต่อ “ถ้าเขาทุบตีด้วยท่อนไม้” พระปุณณะ ทูลตอบ “จะคิดว่า ยังดีนักหนา ที่เขาไม่ฟันแทงด้วยศัสตรา” “ถ้าเขาฟันแทงด้วยศัสตรา?”...“จะคิดว่ายังดีนัก ที่เขาไม่เอาศัสตราอันคมฆ่าเสีย”

...

ตรัสถาม “ถ้าเขาเอาศัสตราอันคมปลิดชีพเล่า?”

พระปุณณะทูลตอบ “จะคิดว่ามีสาวกบางท่านเบื่อหน่ายร่างกายและชีวิต ต้องเที่ยวหาศัสตรามาสังหารตนเอง แต่เราไม่ต้องเที่ยวหาเลย”

“สาธุ! พระพุทธองค์ประทานสาธุการ”

แล้ว ตรัสว่า “ท่านมีทมะ และอุปสมะ อย่างนี้ สามารถไปอยู่ในแคว้นสุนาปรันตะได้”

พระปุณณะ กลับแคว้นสุนาปรันตะ ย้ายหาที่เหมาะสมสำหรับการทำกรรมฐานหลายแห่ง จนในที่สุดแห่งที่ 4

ในพรรษาแรกนั้น น้องชายท่านกับพวก 500 คน เอาสินค้าลงเรือจะไปค้าขายทะเลไกล น้องชายมาลาและขอความคุ้มครองจากท่าน ระหว่างทางเรือแวะพักที่เกาะแห่งหนึ่ง พบป่าจันทน์แดงอันมีค่ามาก

ก็ล้มเลิกแผนการค้าขาย ช่วยกันตัดไม้จันทน์บรรทุกลงเรือจนเต็มลำ แล้วล่องกลับถิ่นเดิม

ระหว่างการเดินทาง เกิดลมพายุใหญ่ ทั้งยังมีปิศาจจากป่าจันทน์ตามมาหลอกหลอน น้องชายท่านนึกถึงพระพี่ชาย ลมพายุก็สงบลง พวกปิศาจก็หายไป

พ่อค้าแบ่งไม้จันทน์ส่วนหนึ่งมาถวายท่าน...ท่านแนะให้สร้างจันทนศาลาถวายพระพุทธเจ้า แล้วส่งคนไปกราบทูลพระพุทธเจ้ามาเทศน์โปรดที่เมืองสุนาปรันตะ

พระปุณณะ ต้นแบบ แพ้เป็นพระชนะเป็นมาร...สำเร็จอรหันต์ในพรรษาแรกที่เมืองคนดุนี่แหละครับ

ในบางบ้านเมืองแถวๆนี้ล่ะมัง...มีเสียงชาวบ้านบ่น เป็นเมืองโจร โจรสองก๊ก แบ่งอำนาจกันเป็นใหญ่ ถ้าชาวบ้านอย่างพวกเรา ยังนึกถึงวิธีอยู่ให้รอดไม่ได้ ก็ลองใช้วิชาของท่านปุณณะ

ลองคิดดูว่า ปล่อยให้มันโกง ชาวเราท้องแห้งหิวบ้าง ก็ยังดีกว่าหิวตาย คิดยังงี้เป็นไง? พอทนไหวไหม? หรือจะไม่ทน.

กิเลน ประลองเชิง

คลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม