"ปลัดกระทรวงมหาดไทย" เผยการเตรียมความพร้อมริ้วขบวนอิสริยยศ เชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ หนึ่งในขั้นตอนสำคัญ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2567

วันที่ 27 ก.ค. 2567 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมริ้วขบวนอิสริยยศเชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร ไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญ ภายหลังจากการประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2567 ซึ่งเจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เมตตาประทานฤกษ์ และมีพระบัญชาให้ เจ้าประคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานสงฆ์ 

โดยมี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ผู้แทนประธานรัฐสภา และนางอโนชา ชีวิตโสภณ ประธานศาลฎีกา ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัด ตลอดจนถึงพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ นำคณะพระครูพราหมณ์ ประกอบพิธีทำน้ำเทพมนต์ในการนี้ด้วย

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (28 ก.ค. 2567) ตั้งแต่เวลา 05.30 น. ผู้ร่วมในขบวนอิสริยยศจะตั้งขบวนบริเวณหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร ถนนสนามไชย โดยริ้วขบวนอิสริยยศในการเชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ ประกอบด้วย 9 ตอน ความยาวขบวน 168 เมตร จำนวนผู้เข้าร่วม 1,072 คน ตอนที่ 1 รถตำรวจนำ ตอนที่ 2 วงดุริยางค์กองทัพเรือ 52 นาย ตอนที่ 3 นักเรียนนายร้อยตำรวจเชิญธงชาติ และธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 144 นาย ตอนที่ 4 ผู้แทนนายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐภา ผู้แทนประธานศาลฎีกา อัญเชิญพระเต้าปทุมนิมิตทอง นาก เงิน ผู้อัญเชิญพานธูปเทียนแพ 9 คน ตอนที่ 5 ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย 33 คน ตอนที่ 6 ผู้เชิญพานพุ่มทอง พุ่มเงิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัด 231 คน ตอนที่ 7 วงดุริยางค์กองทัพอากาศ 52 นาย ตอนที่ 8 ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย 555 คน และตอนที่ 9 รถตำรวจปิดขบวน

...

โดยในเวลา 06.00 น. ขบวนอิสริยยศเคลื่อนจากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร ไปตามถนนสนามไชย เลี้ยวซ้ายเข้าถนนหน้าพระลาน ถึงหน้าประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง จากนั้น ผู้แทนนายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐภา ผู้แทนประธานศาลฎีกา จำนวน 9 คน เชิญพระเต้าปทุมนิมิตทอง นาก เงิน และพานดอกไม้ธูปเทียนแพ และผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย จำนวน 33 คน เข้าประตูวิเศษไชยศรี ผ่านประตูพิมานไชยศรี แล้วเลี้ยวซ้าย โดยเมื่อขบวนอิสริยยศถึงพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เลี้ยวขวาผ่านพระทวารกลาง ไปยังหน้าพระวิสูตร 

จากนั้น ผู้แทนนายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ผู้แทนประธานศาลฎีกา เชิญพระเต้าปทุมนิมิตทอง นาก เงิน มอบให้เจ้าพนักงาน พระราชพิธีเชิญพระเต้าปทุมนิมิตทอง นาก เงิน บรรจุน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นประดิษฐานที่ พระแท่นบัว พานธูปเทียนแพเชิญไปตั้งที่เสาบัวหน้าที่ยืนเฝ้าฯ ของนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา และประธานศาลฎีกา ซึ่งในระหว่างนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เชิญพานพุ่มทอง พุ่มเงินของแต่ละจังหวัดนำไปตั้งเป็นการถวายราชสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ อัฒจันทร์ซึ่งจัดไว้แนวกำแพงพระบรมมหาราชวังด้านทิศเหนือ 

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในการเสด็จออกมหาสมาคมทรงรับการถวายพระพรชัยมงคล ตามหมายกำหนดการต่อไป

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2567 ทุกจังหวัดทั่วประเทศกำหนดจัดพิธีทำบุญตักบาตร เจริญพระพุทธมนต์ และพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล โดยในช่วงเช้าเวลา 06.30 น. รองผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมาย จะเป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตร และพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ถวายเป็นพระราชกุศลถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นในเวลา 19.00 น. ผู้ว่าราชการจังหวัด จะเป็นประธานพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ณ ศาลากลางจังหวัด และสถานที่ที่จังหวัดกำหนด ซึ่งตลอดทั้งวันจะมีการจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา ในพื้นที่ทั้ง 878 อำเภอ 

ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะเดินทางไปเป็นประธานในกิจกรรม "ลมหายใจของแผ่นดิน" ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ณ สนามช้างอารีน่า จ.บุรีรัมย์ เพื่อนำพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์แสดงออกซึ่งความจงรักภักดีและจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ได้ร่วมในกิจกรรมอันเป็นมงคลในครั้งนี้ เพื่อเป็นการปฏิบัติบูชา น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเป็นการน้อมนำพระราชปณิธาน แก้ไขในสิ่งผิด ในการพัฒนาพื้นที่ สร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ทำให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข อย่างยั่งยืน 

นอกจากนี้ สำนักพระราชวัง ขอเชิญชวนประชาชนร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ผ่านระบบออนไลน์ ที่เว็บไซต์หน่วยราชการในพระองค์ www.royaloffice.th ระหว่างวันที่ 23-29 กรกฎาคม 2567.

...