ฝนถล่มหนัก ซัดสะพานมอญ นํ้าพัดสวะติดตอม่อ ตลาด "ริมเมย" ทะลัก (คลิป)

ตลาดริมเมยชายแดนแม่สอด จ.ตาก อ่วมหนัก เจอฝนถล่ม 4 วัน 4 คืน น้ำป่าทั้งฝั่งไทยและเมียนมาไหลหลากลงแม่น้ำเมยเอ่อล้นตลิ่ง สูงเกือบ 2 เมตร ทะลักท่วมร้านค้าจมมิด พ่อค้าแม่ค้าขนของหนีน้ำโกลาหล ที่แม่ฮ่องสอน ฝนกระหน่ำดินภูเขาสไลด์ปิดเส้นทางจุดผ่อนปรนค้าชายแดนไทย-เมียนมา 3 แห่ง ส่วนที่จันทบุรีเกิดพายุฝนและคลื่นลมแรงซัดเรือประมงล่มจมทะเลดับ 1 ศพ ด้านกรมชลประทานสั่งย้ายด่วนหัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทานตราดเซ่นบริหารน้ำบกพร่อง ทำน้ำท่วมเมืองตราด

ฝนถล่มน้ำท่วมตลาดริมเมยจมบาดาล พ่อค้าแม่ค้าและชาวบ้านขนข้าวของหนีน้ำโกลาหล ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ว่า ฝนที่ตกหนักติดต่อกัน 4 วัน 4 คืนบริเวณพื้นที่ 5 อำเภอแนวเขตชายแดนของ จ.ตาก ประกอบด้วย อ.แม่สอด อ.พบพระ อ.แม่ระมาด และ อ.ท่าสองยาง โดยเฉพาะ อ.พบพระ ที่เป็นต้นน้ำแม่น้ำเมยเพิ่มสูงขึ้นและมีสีแดงขุ่น ส่วนที่ อ.แม่สอด เกิดฝนตกหนัก สถานีตรวจวัดปริมาณน้ำฝน ต.ท่าสายลวด วัดปริมาณน้ำฝนในรอบวันสะสมสูงกว่า 100 มิลลิเมตรต่อเนื่องติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ส่งผลให้แม่น้ำเมยแนวเขตกั้นแนวพรมแดนไทย-เมียนมา ล้นตลิ่งสูงเกือบ 2 เมตรเข้าท่วมพื้นที่ริมฝั่งอย่างรวดเร็ว

หนักสุดที่ตลาดริมเมย ตลาดการค้าชายแดนที่สำคัญ น้ำไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ตลาดทุกตารางนิ้วสูงกว่า 1 เมตร ทำให้พ่อค้าแม่ค้าเกือบ 200 ร้านที่เปิดจำหน่ายสินค้าทั้งของกินของใช้และของที่ระลึกให้นักท่องเที่ยวต่างรีบขนย้ายสินค้าสิ่งของหนีน้ำป่ากันโกลาหล ส่วนบ้านเรือนประชาชนพื้นที่หมู่ 2 บ้านริมเมย ต.ท่าสายลวด เดือดร้อนอย่างหนัก น้ำป่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและไหลเชี่ยวกราก ทำให้ชาวบ้านขนข้าวของหนีน้ำไม่ทัน นายสัญญา เพชรเศษ นายอำเภอแม่สอดต้องนำชุดเคลื่อนที่เร็วจากกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอแม่สอดที่ 3 ปภ.ตาก สาขาแม่สอด ทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ทหารหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 33 และตำรวจในพื้นที่เข้าช่วยชาวบ้านขนย้ายข้าวของเครื่องใช้และสัตว์เลี้ยงอย่างเร่งด่วน

ขณะที่สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ เนื่องจากยังคงมีฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลากจากแนวชายแดนไทย-เมียนมาในพื้นที่ อ.พบพระ ไหลลงแม่น้ำเมยเข้าสู่ อ.แม่สอด อย่างต่อเนื่อง ทำให้แม่น้ำเมยเพิ่มขึ้นเฉลี่ยชั่วโมงละ 10 ซม. ล่าสุดระดับน้ำใน อ.แม่สอด จุดวัดน้ำสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 บ้านริมเมย หมู่ 2 ต.ท่าสายลวด สูงกว่าตลิ่งถึง 1.60 เมตร คาดว่ามวลน้ำมหาศาลจากพบพระจะไหลมาสมทบอีกระลอก ในช่วงเย็นวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลท่าสายลวดประกาศแจ้งเตือนชาวบ้านริมแม่น้ำเมยเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

ส่วน อ.ท่าสองยาง หนักไม่แพ้กัน น้ำป่าไหลท่วมปิดเส้นทางถนนสายแม่สอด-ท่าสองยาง ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 119 สูงกว่า 50 ซม. ทำให้รถใช้เส้นทางยากลำบาก รถเล็กวิ่งผ่านไม่ได้ นอกจากนี้น้ำป่าไหลหลากท่วมบ้านหมู่ 6 บ้านหนองบัว ต.แม่อุสุ ชาวบ้านเดือดร้อนหลายหลังคาเรือน ขณะเดียวกันนายเมต่อ ไม่มีนามสกุล อายุ 18 ปี นักเรียนโรงเรียนอะคาเดมี่หนองบัวช่วยขนย้ายสิ่งของหนีน้ำท่วมบ้านถูกไฟฟ้าดูดอาการสาหัส ส่วนโรงเรียนบ้านแม่สลิดหลวง ตั้งอยู่เชิงเขา หมู่ 2 ต.แม่สอง ถูกน้ำป่าเซาะดินโคลนถล่มลงสู่ลำห้วยที่ไหลผ่านกลางโรงเรียน กระแสน้ำไหลเชี่ยวซัดคอสะพานข้ามลำห้วยพังทลายถึงผนังอาคารห้องประชาสัมพันธ์ของโรงเรียนเสียหายอย่างหนักใช้งานไม่ได้

ที่ จ.แม่ฮ่องสอน ฝนตกสะสมมาหลายวัน ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาฝนตกหนัก ทำให้ดินภูเขาอุ้มน้ำไม่ไหวสไลด์ปิดทับเส้นทางค้าชายแดนไทย-เมียนมา จุดผ่อนปรนบ้านห้วยผึ้ง ต.ห้วยผา อ.เมือง แม่ฮ่องสอน บรรดาพ่อค้าแม่ค้าไม่สามารถลำเลียงสินค้าไปยังจุดผ่อนปรนบ้านห้วยผึ้งได้ ส่งผลให้การค้าขายหยุดชะงักชั่วคราว ส่วนที่จุดผ่อนปรนการค้าชายแดนช่องทางบ้านเสาหิน ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง และจุดผ่อนปรนชายแดนช่องทางแม่สามแลบ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย เกิดฝนตกและน้ำป่าไหลหลากท่วมเส้นทางสัญจรไม่ได้ ขณะที่ปริมาณน้ำในแม่น้ำปาย แม่น้ำสายหลักของชาวแม่ฮ่องสอน ล่าสุดน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าหากฝนยังตกหนักน้ำจะล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนราษฎรใน อ.ปาย อ.ปางมะผ้า และ อ.เมืองแม่ฮ่องสอนอย่างแน่นอน

ด้าน จ.นครราชสีมา พายุฝนพัดกระหน่ำในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทำให้ต้นไม้ใหญ่หักโค่นลงมาทับสายไฟฟ้า อีกทั้งเกิดเหตุดินภูเขาสไลด์ลงมาพร้อมก้อนหินขนาดใหญ่ร่วงลงมาจากยอดเขาสูงกว่า 100 เมตร ขวางถนนธนะรัชต์จากประตูด่านศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ขึ้นมาใกล้น้ำตกเล็กช่วง กม.26 หลังเกิดเหตุนายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่สั่งเจ้าหน้าที่ใช้รถเกรดนำหินออกจากถนน ป้องกันอันตรายกับนักท่องเที่ยว รวมถึงฝากประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังจุดดังกล่าวที่มักเกิดเหตุดินสไลด์ช่วงหน้าฝนทุกปี

ที่่ จ.จันทบุรี เกิดพายุและคลื่นลมแรงซัดเรือประมงพื้นบ้านล่มบริเวณแหลมผี คลองวาฬ ตรงข้ามวัดเทพขาหย่าง หมู่ 4 ต.บางชัน อ.ขลุง เป็นเหตุให้ น.ส.ชนีตา บูรณกิจ อายุ 43 ปี ที่ออกเรือไปดักปูกับสามีจมหายไปในทะเลตั้งแต่เย็นวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดช่วงสายวันที่ 26 ก.ค. นายจักรพงษ์ พันธุ์โชติ นายอำเภอขลุงร่วมกับนายชาตรี แก้วขาว กำนันตำบลบางชันประสานเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าภูมิภาคสาขาจันทบุรีนำเรือออกค้นหาผู้สูญหาย กระทั่งพบร่าง น.ส.ชนีตาลอยอยู่ห่างจากจุดเรือจมน้ำประมาณ 500 เมตร

ส่วน จ.ตราด หลังเกิดฝนตกน้ำท่วมหนักใน 3 ตำบลของ อ.เมืองตราด เมื่อ 3-4 วันก่อน ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ล่าสุดช่วงเย็นวันที่ 25 ก.ค.เกิดพายุฝนพัดกระหน่ำซ้ำในหลายพื้นที่ หนักสุด ต.ห้วยแร้ง อ.เมืองตราด บ้านเรือนได้รับความเสียหายถูกต้นไม้ล้มทับหลังคาบ้าน กระเบื้องหลังคาแตกเสียหายหลายหลัง เช่นเดียวกับที่บ้านธรรมชาติล่าง ต.คลองใหญ่ อ.แหลมงอบ เป็นพื้นที่อยู่ติดทะเล เกิดลมกระโชกแรงมีต้นไม้หักโค่นทับสายไฟฟ้าหลายเส้นทาง ส่งผลให้ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคตราดเร่งตัดต้นไม้ล้มทับสายไฟฟ้าตลอดทั้งคืน เพื่อเร่งจ่ายกระแสไฟให้ชาวบ้าน นอกจากนี้ ที่ ต.ชำราก อ.เมืองตราด พายุพัดต้นทุเรียนหักโค่นล้มเสียหายกว่า 30 ต้น

มีรายงานว่า กรมชลประทานมีคำสั่งที่ 1149/2567 ลงวันที่ 25 ก.ค.2567 ให้นายขรรค์ชัย ไชยคง หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทานตราด สำนักงานชลประทานที่ 9 ย้ายไปดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทานจันทบุรี สลับให้นายพรพรหม อุ่นแท่น หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทานจันทบุรีมาดำรงตำแหน่งแทน ทั้งนี้ มีรายงานว่าคำสั่งดังกล่าวเป็นผลมาจากเกิดน้ำท่วมตัวเมืองตราดที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมพบว่า เกิดปัญหาจากการพร่องน้ำอ่างเก็บน้ำสระสีเสียดที่เปิดประตูน้ำเต็มที่ลงสู่คลองด้านล่าง เพื่อป้องกันอ่างแตกช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้บ้านเรือนรอบอ่างเก็บน้ำและริมคลองถูกน้ำท่วมอย่างรวดเร็วจนชาวบ้านตั้งตัวไม่ทัน ทำให้ผู้บริหารเทศบาลเมืองตราดไม่พอใจการบริหารจัดการน้ำไปสอบถามผู้บริหารโครงการชลประทานตราดถึงแนวทางจัดการปัญหาน้ำท่วมจนเกิดการกระทบกระทั่งกันขึ้น

ส่วนที่ จ.กาญจนบุรี พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) มอบหมายให้ พ.ต.ท.อรรถพล แพสอาด ผบ.ร้อย ตชด.134 อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี นำเจ้าหน้าที่ร่วมกับผู้ประกอบการชาวเรือและประชาชนใน ต.หนองลู อ.สังขละบุรี กำจัดเศษไม้และขยะที่ลอยมาติดใต้ตอม่อสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ และแพลูกบวบ ข้ามแม่น้ำซองกาเลีย แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ อ.สังขละบุรี หลังฝนตกหนักทำให้สวะและเศษไม้ลอยมาติดตอม่อสะพานจำนวนมากจนขวางทางน้ำ กลัวว่าสะพานจะพังเสียหาย อีกทั้งเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยสะพานพังถล่มเหมือนเมื่อวันที่ 28 ก.ค.2556

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่