พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้รับทราบรายงานสถานการณ์สิ่งแวดล้อม พ.ศ.2566 ที่สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) จัดทำ โดยพบว่าสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อมมีทิศทางดีขึ้น เช่น ปริมาณการนำเข้าปุ๋ยและวัตถุอันตรายทางเกษตร ลดลง ปริมาณการผลิตและการใช้แร่ลดลง การใช้พลังงานทดแทนและพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้น พื้นที่ป่าไม้ค่อนข้างคงที่ ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยทั้งประเทศเพิ่มขึ้น ปริมาณน้ำท่าเฉลี่ยทั้งปีในอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้น ปริมาณน้ำบาดาลคงที่และมีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานใช้บริโภคได้ ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรประมงเพิ่มขึ้น พื้นที่ป่าชายเลนเพิ่มขึ้น แนวปะการังมีสภาพสมบูรณ์ดี เป็นต้น แต่ยังมีสถานการณ์ที่ควรเฝ้าติดตาม เช่น ปริมาณขยะมูลฝอยชุมชน ขยะพลาสติก ของเสียอันตรายทั้งจากชุมชนและปริมาณกากของเสียอุตสาหกรรม และปริมาณมูลฝอยติดเชื้อเพิ่มขึ้น
พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวอีกว่า สำหรับการคาดการณ์แนวโน้มในอนาคตในระยะสั้น 2 ปี พบว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินจากการขยายตัวของพื้นที่เกษตรและชุมชน การผลิตและการใช้แร่เพิ่มขึ้น การพึ่งพิงพลังงานจากภายนอกประเทศเพิ่มขึ้น ปริมาณขยะพลาสติกเพิ่มขึ้น ความหลากหลายทางชีวภาพบนบกและในทะเลถูกคุกคาม ความแปรปรวนของสภาพอากาศมีความชัดเจนมากขึ้น และแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงระยะยาว 10 ปีข้างหน้า ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรและการขยายตัวของเมือง การเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น จึงมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระยะสั้น ในช่วง 2 ปีข้างหน้า คือการแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กจากภาคเกษตร เร่งการจัดการมลพิษที่แหล่งกำเนิด สร้างความร่วมมือในการนำวัสดุทางการเกษตรไปใช้ประโยชน์ จัดทำแผนการเผาวัสดุทางการเกษตรและวัสดุเชื้อเพลิงในพื้นที่วิกฤติ จัดทำแผนและดำเนินงานป้องกันหมอกควันข้ามแดนร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเป็นรูปธรรม สนับสนุนการวิจัยการใช้นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยในการผลิตและพัฒนาทรัพยากรแร่ และการพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเนื่องภายในประเทศตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน เป็นต้น.
...
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่