งดเหล้าเข้าพรรษากลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติประจำปีของหลายคน ในขณะที่อีกหลายคนก็พบจุดเปลี่ยนของชีวิตจากการเริ่มต้นงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลนี้ สสส.-สคล. ในฐานะผู้ริเริ่ม ยังคงสานต่อแนวคิดนี้ต่อเนื่องอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป โดยในปีนี้ชวนคนไทยงดเหล้าเข้าพรรษา ผ่านการชูแนวคิด SoBrink เสริมพลังตับ ฟื้นพลังชีวิต หนุนสร้างแนวคิดเปลี่ยนค่าเหล้าเป็นเงินออม โดยมี กอช. ร่วมผนึกกำลัง พร้อมขยายผลต่อให้การงดเหล้าสร้างผลลัพธ์ที่ดีต่อชีวิต ตามแนวทาง “เปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ ใน 90 วัน” จุดเริ่มต้นเพื่ออนาคต

Healthy Sobriety สังคมสุขปลอดเหล้า

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เล่าถึงแนวทางการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาปีนี้ว่า สสส. ได้ใช้แนวคิดขับเคลื่อนงานที่เชื่อมโยงสู่มิติทางสุขภาวะ Healthy Sobriety สังคมสุขปลอดเหล้า โดยใช้โอกาสช่วงเข้าพรรษา 90 วัน เชิญชวนให้ประชาชนเปลี่ยนแปลงตัวเอง ภายใต้แคมเปญ “งดเหล้า 3 เดือน ได้คุณคนใหม่” รณรงค์ให้เริ่มจากการลด ละ และนำไปสู่การเลิกดื่มถาวร ทั้งนี้ เน้นให้ประชาชนเห็นคุณค่าจากการฟื้นกาย ฟื้นใจ ฟื้นความสัมพันธ์ ชี้ให้เห็นการตัดโอกาสความเสี่ยงของการเกิดโรคร้ายอีกหลายชนิดจากการเลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขณะเดียวกันก็สื่อสารให้สังคมเข้าใจถึงความสุขชั่วคราวจากการดื่ม จากการที่สารเคมีเข้าไปกระตุ้นสารแห่งความสุขเทียม ซึ่งจะส่งผลให้ร่างกายภายในสร้างสารแห่งความสุขได้น้อยลง จนต้องพึ่งพาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อ เนื่องจากเป็นภาวะที่สามารถส่งผลต่อภาวะจิตใจ และเป็นโรคซึมเศร้าได้

ปีนี้ สสส. ยังได้ผนึกกำลังกับ กองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. หน่วยงานภาครัฐที่มุ่งสร้างฐานรากการออมเงินแก่ประชาชนเพื่อวัยเกษียณ ซึ่งมีแนวทางหนึ่งที่สอดคล้องกัน นั่นคือ การมุ่งเน้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง โดยเฉพาะอย่างเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่สามารถเปลี่ยนการดื่มเป็นเงินออมได้ ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำงานในระดับชุมชนเพื่อสร้างการรับรู้และมอบแนวทางจนกลายเป็นสำเร็จในหลายชุมชน และพร้อมร่วมกับ สสส. เพื่อให้นักดื่มสามารถเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ได้อีกทางหนึ่งด้วยการเปลี่ยนค่าเหล้าเป็นเงินออม ทั้งนี้ กอช. พร้อมประสานความร่วมมือกับ สสส. เพื่อให้แนวทาง “เปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ ใน 90 วัน” สร้างจุดเริ่มต้นที่ดี ขณะเดียวกันก็พร้อมร่วมมือกันต่อเนื่องเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีแก่ประชาชนตามเป้าหมายของ กอช. ด้วยเช่นกัน

ก้าวเดินทางของนักดื่ม สู่การเป็นคนใหม่

สำหรับปี 2566 ที่ผ่านมา มีข้อมูลน่าสนใจจากศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ (SAB) ผ่านการประเมินโครงการงดเหล้าเข้าพรรษาในปี 2566 พบว่า มีผู้เปลี่ยนพฤติกรรมลด ละ เลิกเหล้าในช่วงเข้าพรรษา 10.2 ล้านคน จากจำนวนผู้ที่ดื่มทั้งหมด 24.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 มากถึง 7.7 แสนคน แบ่งเป็น ผู้งดดื่มตลอดพรรษา 21.3% ผู้ที่งดบางช่วง 9.1% และผู้ที่ไม่งดแต่ลดการดื่มลง 10.5% ซึ่งกลุ่มตัวอย่าง 66.3% ระบุว่า ได้รับผลดีจากการลด ละ เลิกดื่มในช่วงเข้าพรรษา ทั้งสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิตใจดีขึ้น ขณะเดียวกันยังประเมินพบว่า การงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเข้าพรรษา ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เฉลี่ยคนละ 1,506.97 บาท ส่งผลให้ระดับประเทศประหยัดได้ราว 4.2 พันล้านบาท

โดยภายใต้งานเสวนา “ฤดูกาลสุขปลอดเหล้าและงดเหล้าเข้าพรรษา 2567 : เปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ใน 90 วัน” ได้มีกลุ่มคนต้นแบบเข้ามาร่วมเสวนาและแลกเปลี่ยนความเห็น เพื่อมอบแนวทางจากการสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้จากการเริ่มลด ละ เลิก ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จนกลายเป็นคนใหม่ได้และมีชีวิตที่ดีขึ้น หนึ่งในนั้นคือ คุณฟ้าอิงตะวัน ไวยกรรณ์ นักกระบวนกรหลักสูตรเสริมพลังตับ ฟื้นพลังชีวิต สคล. ที่อดีตเป็นนักดื่มตัวยง แต่ได้ตัดสินใจหันหลังให้กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากผลด้านสุขภาพ จากตรวจพบอาการตับแข็ง และค่าตับที่สูงมีแนวโน้มของการเป็นมะเร็งตับ เนื่องจากการดื่มต่อเนื่องยาวนาน ตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงช่วงอายุ 38

ปัจจุบันของคุณฟ้าอิงตะวัน นอกจากจะหันหลังให้กับดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างถาวร และดูแลสุขภาพองค์รวมอย่างจริงจังจนสุขภาพร่างกายแข็งแรงเปลี่ยนไปแล้ว ก็ยังได้ศึกษาศาสตร์จากภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกด้วยความศรัทธาที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างสุขภาพส่วนตัว จนได้พัฒนาสูตร SoBrink ที่ใช้สมุนไพรแปลงเป็นเมนูอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อล้างพิษตับ และเสริมพลังตับ ทั้งนี้ ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับ สคล. เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงตัวเองจากนักดื่มเป็นคนใหม่ ขณะเดียวกันก็พร้อมมอบองค์ความรู้ที่มีคุณค่าเหล่านี้แก่สังคมผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ รวมถึงเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ SoBrink

นอกจากนี้ยังมีกรณีศึกษาจาก คุณชาคริต จินะคำปัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 บ้านเกาะกลาง ตำบลป่าแดด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ตัดสินใจเลิกดื่มเหล้าจากจุดเปลี่ยนของชีวิต จนกระทั่งกลายมาเป็นคนหัวใจเพชรชุมชนสุขปลอดเหล้าบ้านเกาะกลาง โดยการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนสำหรับคุณชาคริตคือ มีสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้น และมีเงินออมมากขึ้นจนสามารถสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตและครอบครัวได้ รวมถึงมีอาชีพการงานที่ดี ได้รับความชื่นชมจากสังคมและชุมชน สลัดภาพเก่าของคนเมาไม่มีแก่นสารจนกลายเป็นแบบอย่างของคนในพื้นที่ได้ ทั้งนี้ หนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงคุณชาคริตคือ แกนนำชมรมคนหัวใจเพชรบ้านเกาะกลาง คุณยุพิน ตนมิตร ที่กล่าวว่า ความสำเร็จของการเปลี่ยนแปลงคนคนหนึ่งเกิดจากความเข้าใจ และการเดินตามแนวทางกลยุทธ์ชวน ช่วย ชม เชียร์ โดยเริ่มจากการชักชวนให้เลิกเหล้า เข้ามาช่วยเหลือด้วยแนวทางต่างๆ ไปจนถึงการชมและเชียร์ ที่หมายถึงการสร้างคุณค่าให้อดีตนักดื่มเห็นคุณค่าของตัวเองมากขึ้นในแง่มุมอื่น เพื่อตัดวงจรการย้อนกลับไปเป็นนักดื่ม ผ่านการสร้างความแข็งแรงจากตัวเอง

แม้ “ฤดูกาลสุขปลอดเหล้าและงดเหล้าเข้าพรรษา 2567 : เปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ใน 90 วัน” จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็กๆ ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา แต่การขยายแนวคิด SoBrink เสริมพลังตับ ฟื้นพลังชีวิต หนุนสร้างแนวคิดเปลี่ยนค่าเหล้าเป็นเงินออม ต่อเนื่องต่อไประยะยาว ก็จะกลายเป็นอีกก้าวสำคัญของการเปลี่ยนแปลงสังคมที่ขยายวงกว้างได้มากขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่เพียงส่งผลดีระดับบุคคลเท่านั้น สังคมและประเทศชาติต่างก็จะเข้มแข็งขึ้นไปพร้อมๆ กันด้วยเช่นกัน