รมว.สธ.นำข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข ถวายสัตย์ปฏิญาณเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พร้อมเปิดโครงการตรวจ NAT2 diplotype เฉลิมพระเกียรติฯ ชี้ช่วยให้แพทย์จัดยารักษาวัณโรคได้เหมาะสม โชว์ช่วยลดการเสียชีวิตได้ หลังยังพบผู้ป่วยปีละ 8 หมื่นคน เสียชีวิตถึง 7.8 พันคน

เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 67 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมี นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายกิตติกร โล่ห์สุนทร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข รองปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วม ที่บริเวณหน้าเสาธง กระทรวงสาธารณสุข

...

โดย นายสมศักดิ์ นำกล่าวถวายพระพรชัยมงคลว่า ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ต่างมีความปลาบปลื้มปีติเป็นล้นพ้น ที่ได้มาร่วมกันแสดงความจงรักภักดี และถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อเป็นข้าราชการที่ดี และพลังของแผ่นดิน เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 นี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ล้วนสำนึกในพระเมตตา และพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ ด้วยพระราชวิริยอุตสาหะ ทรงดำรงพระองค์เป็นแบบอย่างแก่ข้าราชการทั้งปวง ในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อประโยชน์สุขแห่งปวงประชา และความวัฒนาสถาพรของประเทศ

"พระบรมราโชวาท ที่พระราชทานแก่ข้าราชการ ในโอกาสต่างๆ ล้วนสร้างความสำนึกในหน้าที่ และความรับผิดชอบในการปฏิบัติงาน เพื่อแผ่นดินด้วยความเที่ยงธรรมและสุจริต ซึ่งปวงข้าพระพุทธเจ้าจักได้น้อมนำมาประพฤติปฏิบัติตาม ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ เพื่อสนองพระราชปณิธานของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ด้วยความจงรักภักดีสืบไป ในโอกาสอันเป็นมงคลยิ่งนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอตั้งจิตอธิษฐานด้วยความจงรักภักดี ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล อีกทั้งพลานุภาพแห่งองค์พระสยามเทวาธิราช โปรดอภิบาลและดลบันดาลประทานชัยมงคล ให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงพระเจริญ พร้อมด้วยสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคล ทรงพระเกษมสำราญ พระบรมเดชานุภาพ และพระบารมีเกริกไกรแผ่ไพศาล สถิตเป็นมิ่งขวัญ ปกเกล้าเหล่าพสกนิกร ตราบกาลนาน" รมว.สาธารณสุข กล่าว

จากนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวนำถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า จะประพฤติปฏิบัติตน เป็นข้าราชการที่ดี และพลังของแผ่นดิน มีความซื่อสัตย์สุจริต เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท มุ่งมั่น แน่วแน่ แก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชน สร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่แผ่นดิน และดำเนินชีวิตโดยยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนแห่งศาสนา ตามแนวทางพระบรมราโชวาทตลอดไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ยังได้มอบต้นไม้ ตามโครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ให้กับอธิบดีกรมต่างๆ ในกระทรวงสาธารณสุข พร้อมร่วมปลูกต้นรวงผึ้ง บริเวณหน้าตึกสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขด้วย

จากนั้น นายสมศักดิ์ เป็นประธานพิธีเปิด "โครงการตรวจ NAT2 diplotype ด้วยเทคนิค Real-time PCR เพื่อประกอบการปรับระดับยาต้านวัณโรค Isoniazid เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธี มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567" โดยมี นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และผู้บริหารกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เข้าร่วม ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

...

โดย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า วัณโรค ยังคงเป็นปัญหาสุขภาพของโลก ที่กระทบต่อคุณภาพชีวิตประชากร ซึ่งองค์การอนามัยโลก จัดประเทศไทยเป็น 1 ใน 30 ประเทศ ที่มีภาระวัณโรคสูง โดยปี 2566 ประเทศไทย มีผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ และกลับมาเป็นซ้ำ กว่า 80,000 ราย และเสียชีวิตประมาณ 7,800 ราย ดังนั้น การรักษาวัณโรคจำเป็นต้องให้ผู้ป่วยได้รับยาต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งผลข้างเคียงของยาต้านวัณโรค ทำให้มีอาการตับอักเสบ ผู้ป่วยบางรายจึงต้องหยุดยา การรักษาจึงไม่มีประสิทธิภาพ โดยกระทรวงสาธารณสุขจึงนำเทคโนโลยีนวัตกรรมการตรวจ แนททู ไดโพลทัยป์ มาใช้ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อตรวจหายีนย่อยยาวัณโรคในผู้ป่วย เพื่อให้แพทย์ผู้รักษามีข้อมูลไว้ใช้ปรับยาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย โดยจะช่วยลดการเกิดตับอักเสบ จากยาต้านวัณโรค ทำให้รับยาได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อการบรรลุเป้าหมายในการยุติวัณโรค

นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ขอขอบคุณกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่ได้นำนวัตกรรมใหม่ การตรวจแนททู ไดโพลทัยป์ ที่จะช่วยดูว่าลักษณะแนททู ไดโพลทัยป์ ของแต่ละคน มีความสามารถในการย่อยยารักษาวัณโรคอย่างไร เพราะถ้าบางคนแนททู ไดโพลทัยป์ ทำงานดี ยารักษาวัณโรคก็จะถูกย่อยสลายเร็ว ทำให้การรักษาไม่ค่อยได้ผล หรือบางคนแนททู ไดโพลทัยป์ ไม่ค่อยทำงาน ยารักษาวัณโรคก็จะเหลือ ส่งผลให้เกิดตับอักเสบ ดังนั้น การตรวจแนททู ไดโพลทัยป์ ก็จะทำให้แพทย์จัดยาได้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น โดยที่ต้องทำเรื่องนี้ เพราะในแต่ละปีจะมีคนเป็นวัณโรคถึง 8 หมื่นคน และเสียชีวิตถึง 7,800 คน หากเรามีการตรวจแนททู ไดโพลทัยป์ ก็จะช่วยลดการเสียชีวิตได้

...

เมื่อถามว่า การตรวจแนททู ไดโพลทัยป์ ยังไม่มีในสิทธิประโยชน์ของประชาชนใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่มีในสิทธิประโยชน์ แต่ก็จะไปผลักดันใน สปสช. เพราะเป็นประโยชน์กับประชาชน และค่าใช้จ่ายไม่สูง โดยมีค่าตรวจเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น