ความสามารถในการแข่งขันของบ้านเรายังสู้ประเทศอื่นไม่ได้เพราะ ขาดทักษะเทคโนโลยี และ ทุนสตาร์ตอัพไทย ถูกปลุกปั้นมาทุกยุคทุกสมัย สุดท้ายก็เหมือนไฟไหม้ฟาง เพราะขาดความต่อเนื่องและการสนับสนุนอย่างเอาจริงเอาจังจากภาครัฐ

การจุดไฟ สตาร์ตอัพของไทย เบื้องต้นต้องได้รับการสนับสนุนให้ยืนด้วยขาตัวเองให้ได้เสียก่อนซึ่งเป็นที่น่าเสียดายว่า ธุรกิจเอสเอ็มอี บางอย่างมีอนาคตแต่ไม่ได้รับการปลุกปั้นอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดถูกต่างชาติมาซื้อไอเดียเอาไปผลิตและส่งกลับมาขายในประเทศไทย หรือผลิตในประเทศไทยแล้วนำไปจำหน่ายในต่างประเทศ คนไทยซื้อกลับมาใช้ในประเทศอีกที

ปตท. มีโครงการหนึ่งที่น่าสนใจชื่อว่า Spark the Local 2024 by PTT หรือ ปั้นให้ปัง จุดพลังสินค้าชุมชน เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ในชุมชนได้ใช้ศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์มาพัฒนา ต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ชุมชน ขยายโอกาสในการสร้างฐานลูกค้าและผู้บริโภคกลุ่มใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างโอกาสในทางธุรกิจในอนาคต

เริ่มต้นจาก ปตท. ได้จัดการประกวดสร้างแผนพัฒนาสินค้าและการตลาดผลิตภัณฑ์ชุมชน อาหารแปรรูป ซึ่งมีโอกาสและอนาคตมากในจำนวนสินค้าที่หลากหลาย ภายใต้แนวคิด ปรับปรุง แปลงโฉม ปั้นแบนรด์ ทำอย่างไรให้ผลิตภัณฑ์ถูกใจและถูกปากลูกค้า แปลงบรรจุภัณฑ์สินค้าให้ทันสมัย เพิ่มมูลค่าสินค้า และปั้นแบรนด์ให้ปัง สร้างความโดดเด่นของสินค้าให้เป็นที่จดจำ

โดยสินค้าชุมชนที่ส่งเข้าประกวดจะต้องเป็นสินค้าชุมชนประเภท อาหารแปรรูป ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานและชุมชนเจ้าของผลิตภัณฑ์ โดยผู้สมัครจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือได้รับการยินยอมให้ใช้ผลิตภัณฑ์ในการส่งเข้าประกวด และจะต้องระบุแหล่งที่มาที่ชัดเจนได้

ขั้นตอนการสมัครให้โหลดไฟล์นำเสนอผลงานสั้นๆ มีความยาวไม่เกิน 5 นาที ขนาดไฟล์ไม่เกิน 10GB และต้องเป็นผลงานของตัวเอง ห้ามทำซ้ำ ดัดแปลง เลียนแบบผลงานบุคคลอื่น รวมถึงไม่มีข้อผูกพันด้านลิขสิทธิ์ ผู้สมัครต้องมีอายุระหว่าง 18-40 ปี จำนวนสมาชิกในทีมไม่เกิน 5 คน ซึ่ง ปตท. จะมีการเปิดรับสมัครการประกวด ในวันที่ 15 ก.ค.ถึง 9 ก.ย. นี้โดย ปตท.มีทุนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ไม่เกินทีมละ 20,000 บาท ผู้ชนะการประกวดจะได้รับรางวัล 100,000 บาทพร้อมเกียรติบัตร สามารถสอบถามรายละเอียด ที่ Facebook ชุมชนยิ้มได้ โดยกลุ่ม ปตท. หรือโทร. 0-2537-2169 และ 0-2537-1118

...

เป็นตัวอย่างของการสนับสนุนสินค้าไทย สินค้าชุมชนให้เกิดมูลค่า และการสร้างแบรนด์ประเทศไทยเข้าสู่การแข่งขัน โดยเฉพาะสินค้าประเภทอาหารที่บ้านเรามีความหลากหลายและได้รับความนิยมอยู่แล้ว ส่วนสำคัญคือการสร้างทัศนคติใหม่ๆให้กับผู้บริโภคที่จะสนับสนุนสินค้าของไทยอย่างมีคุณค่า โดยจะต้องมีความต่อเนื่องและยั่งยืน.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th

คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม