อีกฟากฝั่งคู่ความที่สูญเสียสิทธิจากคำสั่งร้อน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เปิดหน้าแลกด้วยการเดินสายขึ้นศาลเตรียมฟ้องร้องกลุ่มบุคคลเกี่ยวข้องทำให้ตัวเองเสียหาย ไม่รอผลวินิจฉัยของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร.

โดยเฉพาะองค์คณะในที่ประชุม ก.ตร. มี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะลงมติคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนเห็นชอบด้วยกฎหมาย

เป็นเรื่องไม่ผิดความคาดหมายของเจ้าตัว

มองว่าคณะอนุกรรมการวินัย ก.ตร. ล้วนแต่เป็นตำรวจอยู่ใต้บังคับบัญชาของ ผบ.ตร.แล้วจะมีใครกล้าลงมติว่าผู้บังคับบัญชาผิด

นายพลคนดังไม่ยอมลดราวาศอก ขอใช้สิทธิเรียกร้องทวงความเป็นธรรมให้ตัวเอง

ยืนยันไม่ได้ต้องการทะเลาะกับใคร

คาดคะเนล่วงหน้าท้ายสุดอาจไปจบขั้นตอนของเรื่องทั้งหมดที่ “ศาลปกครอง

ฟาดใส่ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง หนึ่งในคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่มีสิทธิวินิจฉัยคดี เพราะไม่ใช่ศาล

“ขอถามกลับว่าทำไมผมถึงถูกรังแกมาทั้งชีวิต เพราะผมมีอายุราชการเหลือหลายปี เป็นอาวุโสลำดับที่ 1 ทำงานตรงใจประชาชน สามารถแก้ได้ทุกเรื่อง ถ้าอายุราชการเหลือแค่ปีเดียว คงไม่มีปัญหากับใคร” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ระบาย

ยอมรับทุกวันนี้โดนรุมกินโต๊ะจีน ต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว อยากให้ประชาชนเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น

ถึงต้องต่อสู้ ถ้าไม่ต่อสู้คงต้องกลับบ้าน.

สหบาท

คลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม