กลับมาเป็นประเด็นคำถามของผู้คนในสังคมไทยอีกครั้งกับปมขัดแย้ง “บิ๊กสีกากี” จบจริงหรือไม่ ดีลลับที่จงใจปล่อยมาว่า ผู้มีอำนาจเรียก “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ หาข้อยุติความขัดแย้งบานปลายภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นจริงตามข่าวปล่อยออกมาจริงหรือไม่
คำสั่งนายกฯ ส่งตัว พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล กลับมาเป็น ผบ.ตร. ที่ว่ามาใช้อำนาจ ผบ.ตร. ยกเลิกคำสั่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน เปิดทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อยู่ในเกมอำนาจขั้วเก้าอี้ ผบ.ตร.
ข่าว พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ต้องลาออกให้เป็นไปตามเงื่อนไขข้อตกลงเป็นไปตามนั้นหรือไม่ได้
กระแสวิพากษ์วิจารณ์หนักหนาทันทีมีคนจงใจปล่อยข่าวออกมา และเปิดเผยเอกสารหลุดยกร่างคำสั่ง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เตรียมลงนามคำสั่งให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กลับคืนตำแหน่ง ผบ.ตร.
...
ตามมาด้วยคำแถลงข่าวของ นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ชี้ผลสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ที่มี นายฉัตรชัย พรหมเลิศ นายชาติพงษ์ จีระพันธุ และ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง คณะกรรมการตามคำสั่งของนายกฯ สอบเรื่อง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สรุปว่า มีความขัดแย้งและความไม่เรียบร้อยเกิดขึ้นใน ตร. มีความขัดแย้งตำรวจระดับสูง ระดับกลาง ระดับเล็ก ทุกระดับทุกฝ่าย ส่วนใหญ่เกี่ยวพัน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีทีมงานใต้บังคับบัญชา ทำให้ขัดแย้งไปด้วย
คดีสำคัญที่เกี่ยวพันกับบุคคล คดี 140 ล้าน (เป้รักผู้การเท่าไหร่) คดีกำนันนก คดีมินนี่ หวยพนันออนไลน์ พนันออนไลน์ BNK คดีย่อยแยกออกไปอีก 10 คดี บางเรื่องส่งให้ตำรวจ อัยการ ศาล บางเรื่องเกี่ยวพันกับหน่วยงานนอกกระบวนการยุติธรรม ป.ป.ช. ซึ่งคดีทั้งหมดมีเจ้าของรับผิดชอบ และไม่มีคดีที่ตกค้างอยู่ที่ ตร.
วันที่ 18 มิ.ย.นายกฯ มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กลับไปปฏิบัติราชการที่ ตร. แต่วันเดียว กัน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยและคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน
ประเด็นหารือคณะกรรมการกฤษฎีกามีมติ 10 ต่อ 0 เห็นว่าการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน กระทบต่อสิทธิและหน้าที่ต้องทำโดยคำแนะนำหรือเสนอแนะของคณะกรรมการสอบสวน แต่เรื่องนี้ ไม่ได้ผ่านคณะกรรมการฯ
กฤษฎีกาเห็นว่า เรื่องนี้ไม่ถูกต้องและไม่ชอบ ให้ดำเนินการแก้ไขและจัดการใหม่ให้ถูกต้อง
อ.วิษณุ ย้ำว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีโอกาสกลับมาเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร. ตามกฎหมายตำรวจระบุไว้
ส่วน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เห็นสมควรส่งกลับไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในหน้าที่เดิม เพราะไม่มีอะไรจะสอบสวนแล้ว ส่วนคดีปล่อยให้เดินตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมในส่วนที่เกี่ยวข้อง
คำแถลงข่าว อ.วิษณุ ผู้ครํ่าหวอดในวงการเมือง เท่ากับส่งสัญญาณตรงมาที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ผบ.ตร. ที่ถูกส่งกลับมาเป็น ผบ.ตร. ตัวจริง เพื่อให้หาแนวทางยกเลิกคำสั่งให้ “บิ๊กโจ๊ก” ออกจากราชการไว้ก่อน
ทิ้งเรื่องราวคดีความที่เปิดโปงกันทั้งสองฝ่ายลงเพื่อนับหนึ่งเริ่มต้นกันใหม่
สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาไม่กี่วัน ศึก “บิ๊กสีกากี” มองว่า “การเมือง” กับ “ผู้มีอำนาจ” เคลียร์ลงตัว
ตามมาด้วยนายกฯ เป็นประธานประชุม ก.ตร. วันที่ 26 มิ.ย. พิจารณาสรุปผลการสอบสวนอนุกรรมการวินัยฯ คำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อนว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
หากนายกฯ ที่เป็นประธาน ก.ตร. ยึดตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ตามที่ อ.วิษณุ แถลงไว้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ต้องยกเลิกคำสั่งที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ รรท.ผบ.ตร.ให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ออกจากราชการไว้ก่อน
ผลกระทบตามมา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ อาจเข้าข่ายถูก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ฟ้องร้องใช้คำสั่งโดยมิชอบ
กลายเป็นผู้โชคร้ายคนแรกกับเหตุการณ์ขัดแย้งของ “บิ๊กสีกากี” แม้จะเป็นอำนาจการเมืองใหญ่ลงมา แต่ถูกกระแสคัดค้านหนัก อนุ ก.ตร.ชุด พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ซึ่งอยู่ในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง “บิ๊กสีกากี” มีมติว่าคำสั่งของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อนเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย
...
สวนทางคำแถลงของ อ.วิษณุ กับความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา
มุมมองเนื้อหากฎหมายที่ต่างกัน 2 มาตรา 131 และ 120 เป็นปมขัดแย้งใหญ่หนักกว่าเก่า “บิ๊กโจ๊ก” มองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เดินหน้าไล่ฟ้องทุกคนที่ไม่ทำตามให้สั่งให้กลับเข้ามารับราชการ
ทางออกแรก ก.ตร.พิจารณาลงมติ หากเห็นชอบเท่ากับคำสั่งให้ “บิ๊กโจ๊ก” ออกราชการไว้ก่อนมีผลแล้ว แต่ถ้าหาก ก.ตร.เห็นว่า คำสั่งให้ออกจากราชการไม่ชอบด้วยกฎหมาย อาจต้องให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ แก้ไขคำสั่ง
สุดท้ายมติที่ประชุม ก.ตร. 12 ต่อ 0 มีมติเอกฉันท์เห็นชอบตามที่อนุ ก.ตร.วินัย เสนอว่าการดำเนินการของ ตร.เป็นไปตามหลักเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.ตำรวจ 2565 กรณียกเลิกหรือเพิกถอนคำสั่งไม่อยู่ในอำนาจของ ก.ตร.แต่อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร.
ทำให้การลุ้นกลับเข้ามาผงาดในวงการสีกากีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ต้องไปรอผลการพิจารณาของ ก.พ.ค.ตร.ที่กำลังพิจารณา ผ่านมากว่า 2 เดือนในการพิจารณาแล้วเหลืออีก 1 เดือนกว่าๆ ครบรอบ 120 วันที่จะต้องมี “คำตอบ” ออกมาให้ชัดเจนเพื่อใช้ในการชี้ขาดชะตาของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล
...
เชื่อว่าสังคมเฝ้ารอคอยลุ้นคำตอบ
ไม่ว่าความเห็น ก.พ.ค.ตร. ออกมาแบบไหน ขอให้ทุกฝ่ายยอมรับ “กติกา” เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมไทยเดินหน้าต่อไปได้ ที่สำคัญหากผลการพิจารณาออกมาไม่ได้ตอบความคาดหวังของสังคมและตำรวจ
จะเป็นวิกฤติเสื่อมศรัทธาใหญ่เกินเยียวยาของวงการสีกากี.
ทีมข่าวอาชญากรรม