วันเสาร์สบายๆวันนี้ไปคุยเรื่อง “บุหรี่ไฟฟ้า” กันนะครับ 31 พฤษภาคม ที่ผ่านมาเป็น “วันงดสูบบุหรี่โลก” ปีนี้ องค์การอนามัยโลก กำหนดประเด็นการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ในเรื่องการแทรกนโยบายจากธุรกิจยาสูบในหัวข้อ “Protecting children from tobacco industry interference” ซึ่ง มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และเครือข่ายควบคุมการบริโภคยาสูบได้แปลความเป็นภาษาไทยว่า “ร่วมปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า” ซึ่งได้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์ครั้งใหญ่ไปเมื่อวานนี้
วันนี้ ปัญหาการเสพติดบุหรี่ไฟฟ้าของเด็กและเยาวชน กำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมโลกและสังคมไทย มีเด็กและเยาวชนถูกบริษัทบุหรี่ไฟฟ้าใช้เทคนิคล่อหลอกจนเสพติดกันงอมแงมเพิ่มขึ้น ส่งผลเสียต่อสุขภาพและสร้างปัญหาทั้งในโรงเรียนและที่บ้าน
คุณพชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการ สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นตัวแทนเยาวชนจากประเทศไทยไปร่วมเสวนาในเวที กรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก ในหัวข้อ “เสียงของเยาวชนโลก: ฟังเรื่องราวของพวกเรา” (Global youth’s Voice: Hear Our Stories) ได้เปิดเผยข้อมูลอันน่าตกใจ ในสังคมไทย บนเวทีเสวนาว่า สถานการณ์บุหรี่ไฟฟ้าในไทยน่าเป็นห่วงมาก ปี 2558 เยาวชนไทยมีการสูบบุหรี่เพียง 3.3% แต่ผ่านไปเพียง 8 ปี (ในรัฐบาลยุคสองลุง) ปี 2566 พบว่า เยาวชนไทยมีการสูบบุหรี่เพิ่มขึ้นเป็น 25% ที่น่าตกใจก็คือ ขณะนี้สถิติพบว่า เด็กผู้หญิงก็สูบบุหรี่ ไฟฟ้าเกือบเท่าเด็กผู้ชายแล้ว เป็น “มรดกบาป” ที่ส่งต่อมาจากรัฐบาลสองลุง
คุณพชรพรรษ์ เล่าว่า จากประสบการณ์ที่เจอด้วยตัวเองพบว่า บริษัทผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้าได้พัฒนาผลิตภัณฑ์และทำการตลาดอย่างหนัก เช่น การออกแบบเคสบุหรี่ไฟฟ้าเป็นรูปกล่องนมมีหลอดดูด เป็นแท่งไอติม ถ้วยไอติม ถ้วยกาแฟ รูปขนม ไปจนถึงรูปการ์ตูน จนครู พ่อแม่และผู้ปกครองตามไม่ทัน ไม่รู้เด็กและลูกของตัวเองกำลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศฟิลิปปินส์พบว่า มีเด็กอายุ 9 ขวบ ก็สูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้วเพราะเห็นโฆษณาในสื่อสังคมออนไลน์
...
บุหรี่ไฟฟ้าผู้ใหญ่ ก็มีการออกแบบเป็นรูปแบบใหม่เช่นกันดูเผินๆ ก็ไม่รู้ว่าเป็นบุหรี่ไฟฟ้า แต่เมื่อเห็นการสูบแล้วพ่นควันออกมาก็รู้ว่าเป็นบุหรี่ไฟฟ้า ที่น่าเป็นห่วงเด็กและเยาวชนก็คือ ผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้าได้มีการจัดโปรโมชันถี่ยิบ ทำให้บุหรี่ไฟฟ้ามีราคาถูกลง และมีการสร้างรสชาติใหม่ออกมาตลอดเวลา จนกลายเป็นเทรนด์ เพื่อล่อให้เยาวชนติดกับ บุหรี่ไฟฟ้าในไทยขยายตัวอย่างรวดเร็ว ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในรัฐบาล 2 ลุง ที่ครองอำนาจมา 9 ปี มีรัฐมนตรีในรัฐบาลออกมาสนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเปิดเผย ทั้งที่บุหรี่ไฟฟ้า เป็นสินค้าผิดกฎหมาย ห้ามนำเข้าและห้ามจำหน่าย แต่ก็มีการลักลอบนำเข้ามาจำหน่ายกันอย่างเปิดเผยทั่วไป เด็กและผู้ใหญ่สามารถซื้อหาได้อย่างง่ายดาย เจ้าหน้าที่รัฐก็ไม่สนใจจับกุม แบ่งความร่ำรวยบนความหายนะของชาติและเยาวชน ทั้งที่เป็นลูกหลานตัวเอง บาปกรรมคงตามทันสักวัน
บุหรี่ไฟฟ้า เป็นผลิตภัณฑ์ยาสูบในรูปแบบใหม่ สูบโดยใช้อุปกรณ์ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ เพื่อส่งสารนิโคติน สารปรุงแต่งรส และส่วนผสมอื่นๆให้กับผู้สูบ การสูบบุหรี่ไฟฟ้าบางครั้งเรียกว่า “การสูบไอน้ำ” ซึ่งความจริงเป็นสารละอองที่มีสารเคมีและสารก่อมะเร็ง
พิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้าที่มีต่อเด็กและเยาวชน ไม่ต่างไปจากบุหรี่ในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยสารพิษ “นิโคติน” ซ้ำร้ายรสชาติต่างๆที่มีการปรุงแต่งด้วยสารเคมี จะเพิ่มพิษภัยมากขึ้นกว่าบุหรี่ธรรมดาด้วยซ้ำ นิโคตินเป็นอันตรายต่อการพัฒนาสมองเด็กไปจนถึงอายุ 25 ปี ส่งผลเสียต่อการเรียนรู้และความจำ และเพิ่มความเสี่ยงในการติดยาเสพติดอื่นในอนาคต คนเป็นพ่อแม่ผู้ปกครองจึงต้อง “ตระหนักรู้” โดยเร็ว เพื่อปกป้องลูกหลานตัวเอง ข้อมูลจาก ยูนิเซฟ พบว่า 9 ใน 10 ของ ผู้สูบบุหรี่เริ่มต้นในช่วงวัยรุ่น ถ้าปกป้องเสียแต่วันนี้อนาคตลูกหลานเราจะ “ไม่ติดยา” แน่นอน.
“ลม เปลี่ยนทิศ”
คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม