นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน เมื่อเร็วๆนี้ได้หารือถึงปัญหาและสมรรถนะของระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ซึ่งพบแนวโน้มผู้ป่วยฉุกเฉินเพิ่มขึ้นทุกๆปี แต่ตำบลที่มีหน่วยปฏิบัติการแพทย์รองรับบริการมี 3,943 แห่ง จากทั้งหมด 7,255 แห่ง ยังขาดอีกถึง 3,312 แห่งที่ยังไม่มี คิดเป็นสัดส่วนถึง 46 % ทำให้ระยะเวลาตอบสนองไม่ได้ตามมาตรฐานสากล และมีผู้ป่วยฉุกเฉินตายนอก รพ.จากกลุ่มโรคฉุกเฉินประมาณ 100,000 คนต่อปี ถ้ากลุ่มที่เข้าถึงบริการ EMS พบมีอัตราการรอดชีวิตถึง 92% หากได้รับบริการอย่างเหมาะสมรวดเร็วภายใน 8 นาที อีกปัญหาคือประชาชนยังมีสัดส่วนความรู้ที่ต่ำในการประเมินความเจ็บป่วยฉุกเฉิน และการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ฉุกเฉินระดับวิชาชีพ รวมถึงสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน (สพฉ.) ได้รับจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาระบบและการสนับสนุนค่าชดเชยไม่เพียงพอต่อการให้บริการผู้ป่วย ไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ยังไม่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณและทรัพยากรที่เพียงพอในการดำเนินการแพทย์ฉุกเฉินท้องถิ่น รวมถึงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศยังไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างเพียงพอ

นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า ที่ประชุมมีข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาภายใต้โครงการลดความเหลื่อมล้ำของประชาชนในการเข้าถึงระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินที่มีมาตรฐานคุณภาพอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม โดยจะมีการเสริมสร้างความรู้ให้กับประชาชน สร้างศูนย์การเรียนรู้ชุมชน จัดหาอุปกรณ์ AED ทุกตำบลและแหล่งท่องเที่ยว จัดระบบการแพทย์ฉุกเฉินให้ครอบคลุมและทั่วถึง ยกระดับการคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ และยกระดับปฏิบัติการฉุกเฉินทางอากาศเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว และสุดท้ายคือการพัฒนาดิจิทัลแบบฟอร์มเพื่อการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศ ทั้งนี้แพทย์ฉุกเฉินเป็นหน่วยงานสำคัญในการช่วยเหลือผู้ป่วยวิกฤติ หากเรามีความพร้อมทั้งอุปกรณ์และบุคลากร รวมถึงมีหน่วยแพทย์ที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ จะสามารถช่วยเหลือชีวิตประชาชนได้อย่างมากมาย ซึ่งตนจะนำเรื่องนี้เข้าหารือกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเฉพาะเรื่องที่ประชุมเสนอแนะคือ การจัดระเบียบ และการทำหมวดทะเบียนเฉพาะรถฉุกเฉิน ซึ่งปัจจุบันมีรถฉุกเฉินที่ไม่ได้มาตรฐานอยู่เยอะมาก ตรงนี้จะเป็นส่วนของกระทรวงคมนาคม และการจัดการเบอร์ฉุกเฉินแห่งชาติ ที่ควรจะมีเบอร์หลักที่ง่ายต่อการติดต่อ รวมถึงอาจจะมีการใช้แอปพลิเคชันกลางในการติดต่อได้อีกทางหนึ่งด้วย.

...

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่