สอบเครียด “เสี่ยโอภาส” เจ้าของโรงงานเก็บสารเคมีวินโพรเสส หลังพนักงานสอบสวน สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา อายัดตัวจาก จ.ระยอง กลับมาดำเนินคดีฐานปลอมแปลงเอกสารลักลอบนำสารเคมีอันตรายมาเก็บไว้ในพื้นที่ ก่อนถูกตำรวจโรงพักอุทัยแจ้งข้อหาเดียวกันเพิ่มอีกคดี หลังพบหลักฐานนำสารเคมีมาซุกในท้องที่เช่นกัน ด้าน ผบช.ภ.1 รุดสอบสวนด้วยตัวเอง ขณะที่เจ้าตัวปฏิเสธลั่นก่อนคุมตัวฝากขังศาล ยื่นค้านประกันตัวส่งเข้าเรือนจำ
ตำรวจเดินหน้าเอาผิดนายโอภาส บุญจันทร์ กรรมการบริษัท วิน โพรเสส จำกัด เจ้าของโรงงาน เก็บกากสารเคมีในซอยวัดโขดหิน ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง ในพื้นที่ ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ที่เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้โกดังเก็บกากสารเคมีอันตราย และที่ อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา หลังถูกตำรวจ สภ.มาบตาพุด จับดำเนินคดีแรก ข้อหาฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่และครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนถูกตำรวจ สภ.ภาชี แจ้งอายัดตัวมาสอบสวนตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา ในความผิดปลอมแปลงเอกสารทางราชการ
ความคืบหน้าเมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 พ.ค. พ.ต.อ.ปิติพันธ์ กฤดากร ณ อยุธยา ผกก.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ร.ต.อ.รุ่ง ปัญญา รอง สว.(สอบสวน) เบิกตัวนายโอภาสที่ถูกคุมขังตั้งแต่เมื่อคืนออกมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง จากนั้น พ.ต.อ.ปิติพันธ์ เปิดเผยว่า เมื่อคืนหลังจากตำรวจ สภ.ภาชี เดินทางไปอายัดตัวจากศาลจังหวัดระยองมาสอบปากคำ ผู้ต้องหายังไม่ได้ให้การอะไรมากนัก เนื่องจากนายโอภาสอายุมากแล้ว มีการอ่อนล้าจากการเดินทาง และมีโรคประจำตัวหลายโรค เช้านี้ได้สอบปากคำเพิ่มเติมในความผิดปลอมแปลงเอกสาร เนื่องจากมีผู้ร้องทุกข์แจ้งความดำเนินคดีไว้ ส่วนจะเชื่อมโยงกับการลักลอบนำสารเคมีเถื่อนมาเก็บไว้ในโกดังร้างพื้นที่ สภ.ภาชี หรือไม่ อยู่ระหว่างการสอบสวนและขยายผลการเชื่อมโยงต่อไป
...
ต่อมาช่วงบ่าย พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 เดินทางไปติดตามความคืบหน้าการสอบปากคำและดำเนินคดีนายโอภาส พร้อมเรียกประชุมพนักงานสอบสวน สภ.ภาชี และ สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา หลังพบความเชื่อมโยงเกี่ยวกับความผิดปลอมแปลงเอกสารเรื่องการกักเก็บสารเคมีภายในโรงงาน ทั้งในพื้นที่ อ.ภาชี และ อ.อุทัย พนักงานสอบสวนตรวจสอบพบหลักฐานการปลอมแปลงเอกสารจริง และคาดว่าน่าจะโยงไปถึงโรงงานเก็บสารเคมีที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งในพื้นที่ จ.ระยอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหานายโอภาสเพิ่มเติมอีกคดีในส่วนของ สภ.อุทัย ในข้อหาปลอมแปลงเอกสาร
อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนนายโอภาสปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงเอกสารดังกล่าว รวมทั้งโรงงานที่เกิดเหตุขึ้นใน จ.ระยอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา หลังสอบปากคำ พนักงานสอบสวนคุมตัวไปยื่นฝากขังศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมยื่นคัดค้านการประกันตัว ศาลอนุญาตตามคำร้อง ก่อนคุมตัวนายโอภาสเข้าเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ด้าน พล.ต.ท.จิรสันต์เปิดเผยว่า คดีนี้ตำรวจดำเนินคดีนายโอภาสที่ จ.ระยอง และได้ประกันตัวมาแล้ว ตำรวจ สภ.ภาชี ที่มีโรงงานลักลอบนำสารเคมีมาเก็บไว้จนมีผลกระทบความเดือดร้อนของประชาชนไปอายัดตัวมาดำเนินคดี รวมถึงในท้อง ที่ สภ.อุทัย ที่พบการลักลอบนำสารเคมีมาเก็บเช่นกัน พนักงานสอบสวนตั้งข้อกล่าวหาเพิ่มอีกข้อหาคือปลอมแปลงเอกสาร รวมทั้งยังพบพัวพันกับโรงงานอื่นด้วย ทั้งใน จ.ระยอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา จึงไม่อนุญาตให้ประกันตัวก่อนนำฝากขังศาลทันที เพื่อนำตัวมาสอบสวนไปถึงผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป ส่วนเรื่องการลอบวางเพลิงในโรงงานเขตพื้นที่ อ.ภาชี ขณะนี้ก็มีหลักฐานบ้างแล้ว แต่ยังไม่ครบถ้วน ต้องรอหลักฐานให้ชัดเจนก่อน คาดว่าน่าจะจับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการวางเพลิงในเร็วๆนี้
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่